ร้อนนี้...คันมั๊ย? เผยเคล็ดลับเด็ดแก้อาการคันศีรษะมาเยือนช่วงหน้าร้อน
เคยกันมั๊ยที่จู่ๆ ก็เกิดอาการคันศีรษะขึ้นมาต่อหน้าสาธารณชน อยากจะยกมือขึ้นมาเกาใจจะขาดแต่ก็อายคนรอบข้าง ยิ่งช่วงอากาศร้อนๆ ทำให้เหงื่อออกบริเวณหนังศีรษะเยอะกว่าปกติ ก็อาจจะเป็นสาเหตุทำให้เกิดอาการคันได้ วันนี้ Sanook! Men มี 3 เคล็ดลับเด็ดที่บอกเลยว่าสามารถช่วยคุณจัดการกับอาการคันศีรษะได้อย่างอยู่หมัด รับรองว่าได้ผลทันตาเห็นจริงๆ ส่วนจะมีวิธีไหนบ้างตามมาดูกันเลย
มะนาวสีเหลือง (เลม่อน)
ภาพจาก : POPSUGAR
เลม่อนมีสรรพคุณเป็นยาฆ่าเชื้อตามธรรมชาติ ซึ่งสามารถช่วยแก้อาการคันศีรษะรวมไปถึงปัญหารังแคได้อย่างดีเยี่ยม ด้วยวิธีง่ายๆ เพียงนำน้ำเลม่อนมาเจือจางโดยการผสมน้ำลงไปเล็กน้อย จากนั้นนำมาทาให้ทั่วหนังศีรษะ นวดเบาๆ แล้วทิ้งไว้ 5 นาที ก่อนจะสระผมตามปกติ ใช้วิธีนี้เพียงสัปดาห์ละ 2 ครั้ง หรือต่อเนื่องไปจนกว่าอาการคันศีรษะจะหายขาด
น้ำมันมะพร้าว
ภาพจาก : clutchmagonline.com
อาการคันศีรษะนั้นส่วนใหญ่มักจะเกิดจากการที่หนังศีรษะสูญเสียความชุ่มชื้นจนแห้งเป็นขุย ดังนั้นการบำรุงและดูแลสุขภาพของหนังศีรษะจึงเป็นสิ่งสำคัญ งานนี้บอกเลยว่าน้ำมันมะพร้าวช่วยคุณได้ง่ายๆ เพียงสระผมของคุณให้สะอาด จากนั้นหยดน้ำมันมะพร้าวเล็กน้อยลงบนฝ่ามือ แล้วค่อยๆ นวดบริเวณหนังศีรษะให้ทั่ว ทิ้งไว้ประมาณ 30 นาที จึงสระผมอีกครั้งเพื่อชำระล้างความมันของน้ำมันมะพร้าวออก โดยช่วงที่มีอาการคันศีรษะมากๆ สามารถใช้วิธีนี้ได้สัปดาห์ละ 3 ครั้ง หรือจนกว่าอาการคันศีรษะจะหมดไป
ว่านหางจระเข้
ภาพจาก : Natural Living Ideas
เมื่อพูดถึงวิธีแก้อาการคันศีรษะที่ง่ายที่สุด ก็น่าจะเป็นการใช้วุ้นของว่านหางจระเข้นี่แหล่ะ ด้วยสรรพคุณในการเก็บกักความชุ่มชื้น ทำให้ช่วยบำรุงหนังศีรษะไม่ให้แห้งเป็นขุย และยังสามารถรักษาอาการคันศีรษะได้อย่างเห็นผลที่สุด นอกจากนี้ก็ยังเป็นพืชที่หาได้ง่ายในบ้านเรา เพียงนำวุ้นของว่านหางจระเข้มาทาให้ทั่วบริเวณหนังศีรษะ นวดเบาๆ แล้วทิ้งไว้ 15 นาที จากนั้นสระผมตามปกติ ใช้วิธีนี้สัปดาห์ละ 2 ครั้งจนกว่าอาการคันศีรษะของคุณจะหมดไป
ส่วนใหญ่แล้วอาการคันศีรษะก็มักจะตามมาด้วยปัญหารังแค ดังนั้นใครไม่อยากปวดตับเรื่องรังแคกวนใจ ก็อย่าลืมใส่ใจในความสะอาดของสุขภาพเส้นผมและหนังศีรษะ และหากเกิดอาการคันศีรษะก็สามารถใช้เคล็ดลับขั้นต้นรักษาอาการคันได้ แต่เพื่อการแก้ปัญหาระยะยาว หนุ่มๆ ก็ควรใช้แชมพูสูตรขจัดรังแคกันเป็นประจำ เพื่อประสิทธิภาพในการควบคุมอาการคันศีรษะและปัญหารังแคที่จะตามมา
ขอบคุณภาพประกอบ: http://www.pinterest.com