เจ้าชายอับดุล มาทีน แห่งราชวงศ์บรูไน เผยความรู้สึกหลังโด่งดังในโลกออนไลน์
เรื่อง: พอล สุจริตกุล ภาพ: ณัฐ ประกอบสันติสุข
แปล: นิชานาถ พรหมสวัสดิ์
คงจะมิใช่การกล่าวที่เกินไปว่า พระโอรสองค์ที่สี่ของสุลต่านแห่งบรูไนพระองค์นี้ทรงครองใจสาวไทยทั่วประเทศ หลังจาก GQ Thailand ได้รับพระกรุณาให้แนะนำพระองค์ผ่านบทสัมภาษณ์พิเศษใน www.gqthailand.com ผู้ติดตามอินสตาแกรมของพระองค์พุ่งขึ้นจาก 90K เป็น 240K พายุคอมเม้นต์และทวีตเรื่องราวของพระองค์ทำให้เกิดปรากฏการณ์เจ้าชายฟีเวอร์เพียงชั่วข้ามคืน และก็ไม่น่าแปลกใจที่จะเป็นเช่นนั้น เพราะเจ้าชายอับดุล มาทีน พระชันษา 24 ปี ทรงเป็นหนุ่มโสดชั้นสูงที่ครบเครื่องที่สุดพระองค์หนึ่งแห่งเอเชีย และทรงเป็นต้นแบบของคำว่า ‘Prince Charming’
เจ้าชายอับดุล มาทีน แห่งราชวงศ์บรูไน
ทรงรู้สึกอย่างไร หลังจาก GQ Thailand เผยแพร่เรื่องราวของพระองค์บนเว็บไซต์ และมีผลตอบรับอย่างท่วมท้นจากคนไทย
กระแสตอบรับนั้นยิ่งใหญ่มากจริงๆ ผมมองว่าโซเชียลมีเดียคือวิธีที่ดีในการแสดงความสนใจ ความหลงใหล งานอดิเรก และบ้านเกิดของคุณ สำหรับผมคือ ผมอยากโชว์ความสวยงามของบรูไนและสิ่งที่ผมชื่นชอบ เมื่อมีคนสนใจอินสตาแกรมของผมเป็นจำนวนมาก หรือผู้คนพูดกันเรื่องทั่วๆ ไปของผมในโซเชียลมีเดีย ก็รู้สึกว่ามันมากมายเลยนะ แต่ก็เป็นสิ่งที่ผมรู้สึกขอบคุณ พูดตรงๆ ออกจะแปลกใจด้วยซ้ำที่มีคนสนใจมากขนาดนี้ ผมคิดไว้ว่าจะเป็นแค่การสัมภาษณ์เล็กๆ สิ่งที่ผมหวังไว้ก็คืออยากให้คนไทยรู้จักประเทศและตัวตนของผมมากขึ้น ไม่คิดเลยว่าจะโด่งดังขนาดนี้ รู้สึกตื้นตันมากครับ (ยิ้มเขิน)
ในขณะที่คอมเมนต์และผลตอบรับส่วนใหญ่เป็นไปในทางชื่นชม แต่ก็ยังมีคำพูดในแง่ไม่ดีหรือไม่เหมาะสม พระองค์ทรงรู้สึกว่าสิ่งนี้กวนพระทัยหรือเปล่า
ไม่เลย ไม่รู้สึกเลย ผมหมายถึงว่าคุณก็ต้องได้รับทั้งคำติและคำชมจากทุกคน นั่นแหละคือชีวิต คอมเมนต์พวกนี้เลยไม่กระทบอะไรผมเลย สิ่งที่ทำให้กังวลกลับเป็นคำขอโทษจากคนไทยด้วยกันเองมากกว่า เพราะมีคนไทยออกมาขอโทษเรื่องคำพูดเชิงลบและความไม่เหมาะสมที่เกิดขึ้นในอินสตาแกรมของผม หลังจากที่กลุ่มเพื่อนคนไทยของผมแปลให้ฟังบางข้อความ ผมเป็นคนเล่นกีฬาจึงยอมรับข้อดีพร้อมกับข้อเสียได้เสมอ เรื่องหนึ่งที่อยากพูดให้ชัดเจนก็คือผมชอบคนไทยมากครับ ผมไม่เห็นอย่างอื่นนอกจากความคิดและความตั้งใจที่ดีของคนไทย ขอพูดอีกครั้งว่าผมขอบคุณและตื้นตันที่คนไทยชื่นชมในตัวผม
ตอนนี้พระองค์ทรงเป็นจุดสนใจในประเทศไทย รวมถึงเป็นจุดสนใจที่บ้านเกิดในฐานะเชื้อพระวงศ์แห่งบรูไน พระองค์รู้สึกอย่างไรที่จะต้องถูกจับตามองตลอดเวลา
ผมเกิดมาแบบนี้ มันก็เลยเป็นเรื่องปกติสำหรับผม ผมคิดว่าถ้าคุณเกิดมาเป็นจุดสนใจตั้งแต่ยังเด็ก คุณก็จะชินกับมันและจะไม่หยิ่งทะนงในตัวเอง ดังนั้นมันเลยไม่กระทบอะไรกับผม บางทีก็เป็นเรื่องดีนะ เพราะถ้าอยู่ๆ คุณกลายมาเป็นจุดสนใจทันที มันอาจจะทำให้คุณเหลิง จากนั้นคุณอาจจะทำตัวติดดินหรือถ่อมตัวได้ยากแล้ว
พระองค์โปรดความสนใจจากคนรอบข้างหรือเปล่า
เอาจริงๆ บางทีก็พยายามหลีกเลี่ยง แต่จะทำยังไงได้ล่ะ บางครั้งมันอยู่เหนือการควบคุม คุณไม่สามารถหยุดความสงสัยของผู้คนได้หรอก สิ่งสำคัญคือการใช้ความสนใจนั้นในทางที่ดี เมื่อคุณมีคนชมหรือมีคนสนใจ มันเป็นโอกาสดีที่จะได้ทำสิ่งดีๆ หรือทำให้คนตระหนักถึงปัญหาต่างๆ ผมรู้สึกขอบคุณคุณพ่อคุณแม่ที่เลี้ยงผมมาให้ติดดินและต้องอยู่กับคนดีๆ เสมอ เพราะสุดท้ายแล้ว คนรอบข้างเรานี่แหละที่จะมีผลต่อการดำเนินชีวิตของเรา ผมมีเพื่อนที่ดีคอยดูผมไม่ให้ออกนอกลู่นอกทาง วันนี้คุณได้เจอเพื่อนสนิททั้งสามคนของผมแล้วคือ ซูน แดนนี่ และพราวัน เป็นเพื่อนที่โตมากับผม เป็นก๊วนของผมเลย แล้วก็เป็นกลุ่มคนสำคัญที่ทำให้ผมเป็นคนติดดิน
หลังจากที่คนไทยพากันคลั่งไคล้พระองค์ พวกเขาก็วาดภาพพระองค์ในหัวและมีคำต่างๆ ในการเรียกพระองค์ เช่น ‘Prince Charming’ หรือ ‘สุดหล่อ’ พระองค์ทรงมองพระองค์เองอย่างไร และจะทรงอธิบายตัวตนที่แท้จริงของพระองค์อย่างไรด้วยคำสั้นๆ
(ยิ้มและหัวเราะ) ผมคิดว่าผมเป็นคน ‘ตลก’ (หยุดคิด) โอ้ย นี่ยากนะ เป็นคน ‘แปลก’ ในทางที่ดีนะ (หยุดคิดอีกสักพัก) ผมว่าผมน่ารักละกัน แล้วก็เป็นคนเรียบง่าย
บางส่วนจากบทสัมภาษณ์ฉบับเต็มในนิตยสาร GQ Thailand เดือนเมษายน 2559 (วางแผงวันอังคารที่ 29 มีนาคม 2559)
อัลบั้มภาพ 6 ภาพ