ปิ๊น Carnival ผู้ปลุกกระแสสนีกเกอร์ในเมืองไทย
เรื่อง: Arinn
ภาพ: แสงอรุณ จำปาวัน
ในเช้าวันเริ่มต้นสัปดาห์การทำงาน ใจกลางสยามซอย 7 ผมยืนอยู่หน้าร้าน Carnival ร้านมัลติแบรนด์สัญชาติไทยที่คนรักสนีกเกอร์รู้จักกันดี เปล่าหรอกครับ ผมไม่ได้มาซื้อรองเท้า แต่ผมมีนัดคุยกับปิ๊น – อนุพงศ์ คุตติกุล ผู้ร่วมก่อตั้งร้าน Carnival ถึงกระแสความคลั่งไคล้สนีกเกอร์ในบ้านเรา ชนิดที่ว่าคนซื้อนอนค้างคืนเพื่อให้ได้คิวแรกๆ แล้วนำไปขายในอินเทอร์เน็ตแบบอัพราคาไปสูง รวมไปถึงทิศทางของร้าน Carnival ที่เป็นมากกว่าร้านขายรองเท้าผ้าใบ
เขาก็เหมือนผู้ชายทุกคนนั้นแหละที่ชอบรองเท้าผ้าใบ แต่เขาลงมือทำในสิ่งที่หลงใหลให้เป็นจริง ครั้งนี้เขาเปิดประตูร้าน Carnival ให้เราเข้าไปรู้จักโลกของเขากันแล้ว
ก่อนอื่นเลย คุณช่วยเล่าถึงความหลงใหลในรองเท้าสนีกเกอร์หน่อยครับว่าเกิดขึ้นได้อย่างไร
จริงๆ ผมก็เหมือนผู้ชายทั่วไปที่ชอบรองเท้า สนุกกับการซื้อเก็บสะสมรองเท้า กลายเป็นความชอบที่เราศึกษามันจริงจัง แล้วพอผมได้ไปเรียนต่างประเทศ ผมมีโอกาสซื้อรองเท้ามากขึ้น ได้เห็นร้านรองเท้าดีๆ เยอะขึ้น มันก็เป็นเหมือนความฝันของเราที่อยากเห็นร้านแบบนั้นในประเทศไทยบ้าง
จำรองเท้าผ้าใบคู่แรกที่ซื้อได้ไหม
ไม่แน่ใจ เพราะมีหลายคู่มาก แต่น่าจะเป็น Converse (หัวเราะ)
แล้วมาทำร้าน Carnival ได้อย่างไร
ร้านนี้เปิดมา 5 ปีแล้ว ตอนนั้นเรามองว่ายังไม่มีร้านแบบนี้ในเมืองไทย ช่วงแรกเน้นขาย Converse รุ่นหายากจากทั่วโลก หลังจากเปิดไปสักระยะ เราก็มีแบรนด์อื่นๆ ตามมา เช่น Vans, Nike และ Adidas คือโมเดลธุรกิจของเราอยากจะเป็นร้านมัลติแบรนด์อยู่แล้ว ก็ขายรุ่นพิเศษที่หายากที่ไม่มีขายในเมืองไทย หรือรุ่นที่ต่างประเทศมีขาย เราก็ต้องมีขายด้วย ซึ่งปัจจุบันร้านเราได้รับการยอมรับจากแบรนด์แล้วว่าให้วางขายรองเท้ารุ่นพิเศษเหล่านี้ มันเหมือนเป็นการพัฒนาวงการสนีกเกอร์ในบ้านเรา
คุณสะสมรองเท้าสนีกเกอร์เยอะแค่ไหน แล้วแบบไหนที่คุณชอบ
ผมสะสมรองเท้า Converse เป็นหลัก แต่ตอนหลังก็มียี่ห้ออื่นตามมาทั้ง Nike, Adidas ส่วนรุ่นที่ชอบคือ Converse Fragment Undefeated ซึ่งผมได้ลายเซ็นของฮิโรชิ ฟูจิวะระ (Hiroshi Fujiwara) ดีไซเนอร์ผู้ออกแบบรองเท้าด้วย
เวลาเจอรองเท้าสนีกเกอร์ที่คุณถูกใจเหมือนเจอผู้หญิงที่ตรงสเปกไหม
ก็คล้ายๆ นะ (หัวเราะ) แต่ผมมองว่าอารมณ์น่าจะเหมือนผู้ชายที่ชอบแก็ดเจ็ต หรือของเล่นมากกว่า
พูดถึงกระแสสนีกเกอร์ในบ้านเรา ช่วงหลังๆ เหมือนจะได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ
สมัยก่อนร้านยังไม่เยอะมาก การเล่นรองเท้ายังเป็นเฉพาะกลุ่มจริงๆ คือกระแสสนีกเกอร์ยังไม่ไปสู่ระดับแมส แต่ปัจจุบันกลายเป็นกระแสการแต่งตัวหลักแล้ว คนที่ไม่รู้ประวัติรองเท้า ไม่ได้ศึกษา หรือไม่ได้เป็นสนีกเกอร์เฮด ก็อยากใส่สนีกเกอร์ อยากซื้อรองเท้าตามกระแสที่เห็นคนใส่กัน
พูดได้ไหมว่า Carnival เป็นหนึ่งในผู้ที่ปลุกกระแสความคลั่งไคล้สนีกเกอร์ในบ้านเรา
ก็เป็นส่วนหนึ่ง แต่ตัวขับเคลื่อนจริงๆ เป็นลูกค้า และกระแสจากต่างประเทศมากกว่าที่ค่อนข้างมีอิทธิพลในบ้านเรา แล้ว Carnival มีส่วนผลักดันกระแสให้แรงมากขึ้นไปอีก อย่างเมื่อก่อนคนนิยมสไตล์วินเทจ แนวเวิร์กแวร์ ใส่รองเท้าบู๊ต กางเกงยีนส์ ปัจจุบันกระแสเปลี่ยนไปเป็นสปอร์ตแวร์ คนแต่งตัวเหมือนเสื้อผ้าออกกำลังกายมากขึ้น
เท่ากับว่ายุคนี้เป็นความเฟื่องฟูของสนีกเกอร์?
ผมมองว่าอยู่ไปอีกนาน แม้จะมีช่วงที่ตกลงแต่ ‘รองเท้าผ้าใบไม่มีวันตาย’ อยู่คู่กับการออกกำลังกายอยู่แล้ว ยกตัวอย่าง Nike เป็นบริษัทแฟชั่นอันดับหนึ่งของโลก ปัจจุบันก็ยังเป็นอยู่ มันพิสูจน์ได้ว่ายังมีคนใส่อยู่ตลอดเวลา ไม่ได้เป็นของฉาบฉวย ขึ้นสูงสุดแล้วหายไปเลย มันเป็นสิ่งที่นิ่ง มีขึ้น และเวลาลงก็จะไม่ลงสุด
เมื่อช่วงต้นปี มีข่าวคราวที่คนไปต่อคิวซื้อรองเท้า Adidas NMD จนห้างแตก หรือการต่อคิวกันตั้งแต่ดึกดื่นเพื่อให้ได้รองเท้ารุ่นพิเศษ แถมไปขายต่อกันในอินเทอร์เน็ต โดยอัพราคาไปสูง คุณมองเรื่องพวกนี้อย่างไร
มองได้หลายมุม อย่างคนที่เป็นสนีกเกอร์เฮดที่สะสมรองเท้า สมัยก่อนเขาจะบ่นกันว่าไม่มีรองเท้ารุ่นแบบนี้เข้าเมืองไทย แต่พอปัจจุบันกลายเป็นกระแสแมส เขาก็จะมองว่ายุคนี้ไม่ใช่ยุคที่คนมีแพชชั่น ไม่ได้ศึกษาเรื่องพวกนี้จริงจัง ไม่ได้รักรองเท้าจริง ผมมองว่าสิ่งที่แลกมามันดีกว่า พอตลาดบูม รองเท้าเกือบทุกรุ่นเข้าประเทศไทย แม้จะมีคนซื้อไปขายต่อ หรือคนที่ซื้อไปไม่ได้ศึกษาอย่างจริงจัง ผมว่าไม่เป็นอะไรหรอก เพราะสุดท้ายก็เกิดประโยชน์กับคนไทย แล้วกระแสแฟชั่นในเมืองไทยก็พัฒนา ผมมองว่าเป็นเรื่องที่ดีส่วนหนึ่ง ส่วนการซื้อขายต่อ แต่ละร้านก็คงมีกฎไม่เหมือนกัน อย่างของเราก็มีกฎว่า “คุณต้องใส่ได้ คุณถึงจะซื้อได้ แล้วซื้อได้คนละคู่” อันนี้เฉพาะกับรุ่นพิเศษที่มีจำกัด คือเราอยากให้คนใส่ได้จริงๆ
Carnival มีรุ่นพิเศษที่วางขายเฉพาะที่ร้านอยู่บ่อยๆ มันทำให้เราแตกต่างจากร้านอื่นหรือเปล่า
จริงๆ รองเท้ารุ่นพวกนี้ไม่ได้เรียกรุ่นพิเศษ แต่เป็นการจำกัดร้านที่วางขาย ทั่วโลกอาจจะจำกัดแค่ร้านประเภทนี้ถึงจะขายได้ ข้อดีของรุ่นพวกนี้คืออิงกระแสแฟชั่นหรือคอลเล็กชั่นพิเศษที่ทำกับแบรนด์แฟชั่น หรือทำกับเซเลบริตี้ต่างๆ คนที่อยากได้บางทีเขาชอบแบรนด์นี้อยู่แล้ว หรือศึกษาสไตล์แฟชั่นนี้อยู่แล้ว ดีตรงที่ว่าเขามีโอกาสในการซื้อโดยที่เขาไม่ต้องบินไปต่างประเทศ โอกาสในการเข้าถึงง่ายขึ้น เป็นสิ่งที่ผมดีใจว่าแต่ละแบรนด์เขาเชื่อมั่นเรา มันคือเป้าหมายของผมที่อยากทำให้แบรนด์รู้ว่า เมืองไทยพร้อมแล้วนะสำหรับรุ่นพวกนี้ เพราะเมื่อ 4-5 ปีก่อน คนที่เล่นสนีกเกอร์จะบ่นกันว่าทำไมไม่วางขายรุ่นพวกนี้บ้าง ปัจจุบันเราผ่านการพิสูจน์คำถามเหล่านั้นมาแล้ว
คุณมีร้านสนีกเกอร์ในต่างประเทศที่ชอบไหม
เรามีร้าน Undefeated ที่อเมริกา ซึ่งถูกยกย่องให้เป็นร้านสนีกเกอร์อันดับหนึ่งของโลก ทำแบรนด์เสื้อผ้าเองด้วย แล้วได้รับการยอมรับมากๆ เป็นร้านที่มีทั้งรองเท้าและแบรนด์เสื้อผ้า เป็นโมเดลที่เราอยากจะไปให้ถึง
สนีกเกอร์สามารถบอกถึงรสนิยมหรือสะท้อนตัวตนของคนใส่ได้ไหม
มันก็บอกเรื่องสไตล์การแต่งตัว บุคลิกของคนคนนั้น อย่างคนรุ่นใหม่ที่เริ่มเล่น ก็อาจจะฟังคนอื่นๆ ว่าต้องใส่รุ่นนั้น รุ่นนี้ หรือดูจากในอินเทอร์เน็ต ซึ่งผมว่ามันผิดมาก เราต้องเลือกที่ใส่แล้วมั่นใจว่าเข้ากับเรา ถ้าคุณเลือกรองเท้าที่ฟังคนอื่นมา มันเข้ากับคนอื่น ไม่ได้เข้ากับเรา คุณซื้อไปใส่ก็ไม่มีประโยชน์ สุดท้ายแล้วซื้อรุ่นที่เข้ากับเราแล้วเราชอบจริงๆ ดีกว่า
Carnival ทำเสื้อ กางเกงเป็นของตัวเอง พวกนี้มันเริ่มมาจากอะไร
ผมดูโมเดลของร้านเมืองนอก แต่ละร้านจะขายสตรีทแวร์ของแบรนด์อื่น และทำแบรนด์ของตัวเองด้วย เพื่อสะท้อนเอกลักษณ์ของแบรนด์ เพราะเรามองว่าแบรนด์ Carnival ไม่ใช่แค่ของที่ระลึกที่คุณจะซื้อกลับไป แต่เป็นแบรนด์แฟชั่นที่แยกตัวออกจากร้านได้เลย แถมออกแบบโดยคนไทย คุณภาพทัดเทียมต่างประเทศได้
Carnival ในอนาคต คุณมองมันอย่างไร
จะขยายไลน์สินค้ามากขึ้น ตอนนี้เรามี 5 สาขา ที่สยามสแควร์ซอย 1 และ 7, เซ็นทรัลเวิลด์, เซ็นทรัล ลาดพร้าว และเกตเวย์ เอกมัย ซึ่งเดือนสิงหาคมเราจะมีสาขาใหม่ที่เมกาบางนา เป้าหมายของเราก็พยายามทำให้ร้านได้เลเวลที่สูงที่สุด ที่คุณจะสามารถวางขายรุ่นพิเศษจริงๆ ของแบรนด์ได้ และทำคอลลาบอเรชั่นกับแบรนด์ได้ด้วย