วันนี้..ของ “คริส เบญจกุล” กับบทบาทใหม่แต่เป้าหมายคงเดิม (คลิป)

วันนี้..ของ “คริส เบญจกุล” กับบทบาทใหม่แต่เป้าหมายคงเดิม (คลิป)

วันนี้..ของ “คริส เบญจกุล” กับบทบาทใหม่แต่เป้าหมายคงเดิม (คลิป)
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ย้อนกลับไปเมื่อปี 2542 มีข่าวปรากฎตามหน้าหนังสือพิมพ์ว่า นักแสดงหนุ่มประสบอุบัติเหตุถูกรถมอเตอร์ไซค์ที่เมาแล้วขับ ชนระหว่างลงไปช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ จนต้องเข้ารับการรักษาตัวเป็นเวลานาน ตลอดเวลาที่ผ่านมาข่าวคราวของเขา ปรากฎให้เห็นอยู่เป็นระยะในระหว่างรักษาตัว จนกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติ วันนี้เขากลับมาในมาดนักประชาสัมพันธ์ ไม่ใช่ใครที่ไหน “คริสโตเฟอร์ เบญจกุล” นั่นเอง..

“ สู้ๆ เป็นไงบ้าง เต็มที่นะ”

เสียงเจื้อยแจ้วของคริสโตเฟอร์ แจ๊ค เบญจกุล หรือที่เราเรียกเขาสั้นๆว่า “คริส” เมื่อมาถึงร้านเขาจะทักน้องๆ ภายในร้าน 60 Plus Bakery เป็นประจำทุกๆ วัน จนเป็นที่คุ้นชินกันไปแล้วในน้ำเสียงและท่าทางของเขา ทุกๆวันที่เขามาทำงานเขาจะมาถึงแต่เช้าเพื่อมาประจำการที่ร้านเบเกอรี่แห่งนี้ เพื่อคอยช่วยน้องๆที่อยู่ในร้าน ทั้งติดป้ายขนมที่ถูกอบจนหอมกรุ่นออกมาจากเตา ที่ทยอยถูกนำมาจัดวางไว้หน้าร้าน เพื่อให้ลูกค้าได้เข้ามาเลือกลิ้มชิมรสขนมหลากหลายประเภท แล้วก็มาช่วยแพคของให้ลูกค้าที่แคชเชียร์ หรือบางครั้งในช่วงเช้าและเย็น เขาจะนำโต๊ะออกไปตั้งที่หน้าร้านที่อยู่ติดริมถนนเพื่อนำขนมออกไปขาย จนทำให้มีผู้ที่ซื้อขนมในวันนั้นถ่ายรูปเขา พร้อมขนมและนำลงไปแชร์ในโซเชียลมีเดียจนทำให้เขากลายเป็นกระแสในโซเชียลฯ อีกครั้ง

คริส บอกกับทีมนิวมีเดีย พีพีทีวี ว่า ไม่คิดว่าจะเป็นที่น่าสนใจแบบนี้ วันนั้นผมเอาโต๊ะไปตั้งไว้ข้างนอกหน้าร้านที่ติดถนน เพราะร้านเราจะเป็นมุมบอดหน่อย ถ้าขับรถมาก็จะไม่ค่อยเห็นป้ายร้าน ลูกค้าก็จะไม่เห็นและขับรถเลยไป วันนั้นคนที่ถ่ายรูปผมเขารถติด พอเขาเห็นผมเขาก็ขอถ่ายรูป ผมก็หันไปยิ้มให้เขา แล้วถามเขาว่า สนใจไหมครับ เลยยกตะกร้าที่มีขนมปังให้เขาดูว่ามีอะไรบ้าง ในช่วงรถติด แล้วพกนามบัตรร้านออกมาพอดี ก็เลยให้เขาไปด้วย จนมาเห็นอีกทีว่าเขาเอาไปแชร์ลงโซเชียลฯ

“วันแรกที่พี่เขาแชร์ มีคนโทรมาไม่หยุด วันที่สองก็ยังไม่หยุด จนมีลูกค้าโทรไปแจ้งให้ว่า โทรศัพท์เสียและให้เจ้าหน้าที่มาเชคให้ เราก็ให้เขาดูว่า โทรศัพท์ที่ร้านไม่ได้เสียนะ แต่มีคนโทรมาไม่หยุดเลย วางเสร็จก็ดังต่อ เป็นตลอดหลายวันที่ผ่านมา เราก็รู้สึกดีใจและก็ขอบคุณคนที่แชร์มาก ไม่คิดว่าจะบูมขนาดนี้ อยากให้มันบูมแบบนี้ตลอดไป เพราะบางทีปิดร้านของเหลือก็ต้องทิ้งไป ผมก็อยากให้ทุกคนได้ชิมของอร่อยๆ” คริส เล่าด้วยใบหน้าที่ปนไปด้วยรอยยิ้ม

ปัจจุบัน “คริส” เป็นเจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์ อยู่ที่ศูนย์พัฒนาและฝึกอบรมคนพิการแห่งเอเชียและแปซิฟิก หลังจากรักษาตัวจากอุบัติเหตุ เขาก็กลับมาตั้งใจเรียนจบจนปริญญาตรี เรียนจบนิเทศศาสตร์ สาขาโฆษณา ก่อนหน้านี้ก็ได้เป็นเจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์ ในหลายบริษัทก่อนหน้านี้ ก่อนที่มาเป็นเจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์ที่นี่ พอมี “โครงการ 60 พลัส เบเกอรี่” เกิดขึ้นจากแนวคิดกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ร่วมกับสถานเอกราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย บริษัท ไทยยามาซากิ จำกัด , มูลนิธิศูนย์พัฒนาและฝึกอบรมคนพิการแห่งเอเชียและแปซิฟิก โดยมีการรับผู้พิการทั้งทางร่างกายเข้าทำงานเพื่อเป็นพนักงาน เพื่อส่งเสริมผู้พิการที่มีความสามารถและเปิดโอกาสให้มีอาชีพ มีรายได้ที่จะนำไปพัฒนาคุณภาพชีวิตจนสามารถที่จะพัฒนาตัวเองได้อย่างยั่งยืน เมื่ออยู่ครบ 6 เดือน – 1 ปี ก็จะส่งไปที่ร้านยามาซากิใกล้บ้านน้องๆ

คริส เล่าให้เราฟังต่อว่า พนักงานที่ทำเป็นผู้พิการทั้งหมด รุ่นแรกก็ไปถามที่โรงเรียนเศรษฐเสถียร เขาก็คัดเลือกคนมาให้จำนวนหนึ่ง และก็มีคนสมัครมาเรื่อยๆ จนคัดเหลือ 10 คน แต่ตอนนี้เหลือแค่ 9 คน ทุกเมนูที่อยู่ในร้านเขาทำได้ สิ่งที่เขาได้เรียนรู้เป็นสิ่งที่ไม่ยากจนเกินไป และไม่เกี่ยวกับของมีคม ไม่ใช้เครื่องใหญ่ที่จะเกิดความไม่ปลอดภัยกับน้องๆ สิ่งที่เราบอกเขาตลอดคือ สู้ครับๆ เต็มที่นะ แบบนี้ตลอด ให้กำลังใจน้องๆ เพราะเราเห็นว่าคนพิการหลายๆคนเรียนจบมาแล้วไม่มีงานทำ เราก็ปูพื้นฐานให้น้องๆ เขา วิธีการทำ วิธีการคิดเงิน ก่อนจะย้ายไปทำแถวบ้าน เราก็รู้สึกดีว่า เปิดโอกาสให้น้องๆ ได้มีโอกาสที่ดีขึ้น

ส่วนสภาพร่างกายของเขา คริส บอกกับเราว่า ตอนนี้อยู่ที่ประมาณ 90 เปอร์เซ็นต์แล้ว ถึงจะไม่เต็มร้อยเหมือนเดิม แต่ก็ยังดีกว่าช่วงก่อนๆ ที่ต้องนอนอยู่บนเตียง จะเดินไปไหนก็ต้องใช้วอล์กเกอร์ ใช้ไม้เท้า นานหลายปี

“กว่าจะกลับมาแข็งแรงอย่างในตอนนี้ มาจากหลายส่วนด้วยกัน ส่วนหนึ่งเป็นกำลังใจยิ่งใหญ่จากพระราชินี ที่ท่านทรงรับสั่งเมื่อตอนเราเข้าเฝ้าฯว่า หายไวๆนะคะ เหตุการณ์วันนั้นกลายเป็นกำลังใจสำคัญให้ผมต่อสู้กับสถานการณ์ในตอนนั้น และกำลังใจสำคัญจากครอบครัว พี่น้อง ญาติๆ เพื่อนๆ และแฟนละครที่เขียนจดหมายมาให้กำลังใจหลายพันฉบับที่มาจากหลายประเทศทั่วโลก”

หากถามว่าคริสเคย “ท้อ” ไหม ผมตอบได้เลยนะว่า ชีวิตผมไม่เคยรู้จักกับคำนี้ แต่เมื่อเหนื่อยผมจะมองหาเลข 9 และจะนึกถึงในหลวง ไม่ว่าจะพื้นที่ไหน ลำบากแค่ไหนท่านก็ไป โดยที่ไม่รู้จักความเหน็ดเหนื่อย เราก็ยึดพระองค์ท่านเป็นแบบอย่างในการดำเนินชีวิต

“ผมอยากฝากถึง คนที่กำลังยอมแพ้ ผมขอให้สองคำนี้คือสู้ๆ ขนาดผมที่คนคิดว่าจะตายแหล่มิตายแหล่ รวมทั้งมีคนตั้งพนัน 2 ต่อ 1 ว่าจะตายหรือไม่ตาย ผมก็ยังรอดมาได้ อยากให้ดูผมเป็นตัวอย่างหนึ่งหากคุณกำลังหมดกำลังใจ”

เจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์รายนี้ บอกกับเราว่า สำหรับตอนนี้เป้าหมายในชีวิตของเขา คือ การช่วยให้มีสิ่งที่อำนวยความสะดวกต่อคนพิการมากขึ้น ทั้งในกรุงเทพมหานครและประเทศไทย เพราะตลอดเวลาที่ผ่านมาผมรับรู้ได้ ถึงความลำบากที่เกิดจากการใช้ชีวิตของพวกเขา

สุดท้ายนี้ ในช่วงนี้ใกล้เทศกาลเข้าพรรษา หนุ่มคริสยังฝากย้ำว่า ผมไม่สามารถห้ามไม่ให้ดื่มเหล้าได้ ไม่ว่าผมพูดอย่างไรคุณก็คงจะดื่มเหมือนเดิม ขอแค่อย่ามาขับรถ ขับมอเตอร์ไซค์แล้วกัน ขอให้คุณเอาใจเขามาใส่ใจเราให้มากขึ้น คุณลองคิดว่าหากคนเมามาชนคนในครอบครัวคุณเสียชีวิต คุณจะรู้สึกอย่างไร และมาชนหัวหน้าครอบครัว ใครจะเลี้ยงครอบครัวเขาต่อ ค่าเรียนลูก ค่าผ่อนรถ ค่าผ่อนบ้าน ค่าอาหารการกินของคนในบ้าน ให้เอาใจเขามาใส่ใจเรามากขึ้น ถ้าคุณดื่ม อย่ามาขับเป็นพอ

สำหรับร้านเบเกอรี่แห่งนี้ ตั้งอยู่บนถนนราชวิถี ใกล้กับกรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ(พก.) โดยเริ่มเปิดให้บริการ ตั้งแต่วันที่ 11 ธ.ค. 2558 โดยร้านเปิดตั้งแต่ 7.30 – 17.30 น. ถ้าจะโทรสั่งก็โทรได้ที่เบอร์ 02-354-8634 หรือที่เบอร์แฟ๊ก 02-354-7507 หรือติดตามได้ เฟซบุ๊ก 60 Plus Bakery & Cafe หากใครอยากแวะเวียนไปเจอหนุ่มคริส ที่พร้อมแจกความสดใส พร้อมซื้อขนมอร่อยๆ ติดมือกลับไปฝากคนที่บ้านก็ไม่ควรพลาดกับร้านนี้

Content : พัฐอร พิจารณ์โสภณ

PPTV Photo : สมศักดิ์ เนตรทอง

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook