จับเข่าคุย พระเอกหน้าตี๋ อาเล็ก ธีรเดช จากคนธรรมดาสู่ ซุปตาร์

วงการบันเทิงเปิดโอกาสมากมาย

มีงานโน้นงานนี้ให้เราลองทำเยอะมากครับ ทั้งละคร โฆษณา โชคดีมาก ทุกๆ ปีจะมีพี่นักข่าวสัมภาษณ์ว่าปีนี้เป็นปีทองของอาเล็กมาติดๆ กัน ผมคิดว่าเราโชคดีที่ผู้ใหญ่ให้โอกาสเยอะขนาดนี้

ในปีแรกที่เข้ามาก็ต้องเรียนรู้ แต่ละปีที่ผ่านไปเหมือนเราได้โตขึ้น พัฒนาอะไรหลายอย่างไม่ว่าจะเป็นด้านการแสดง การปฏิบัติตัวในสังคม และในวงการ ด้วยความที่เจอคนมากหน้าหลายตา ได้เจอกองถ่ายที่ต่างกันไป สิ่งแวดล้อมไม่เหมือนกัน มันทำให้ได้เห็นอะไรเยอะขึ้นครับ

ปรับตัวอาชีพนักแสดงได้ดีขึ้น

พอเริ่มรักการแสดงก็คิดว่ามันคืออาชีพ มีพี่คนหนึ่งถามผมว่าเล่นละครได้เงินมั้ย ถ้าได้ก็ห้ามขี้เกียจ คือเรื่องเล็กๆ น้อยๆ มันให้ข้อคิดเราได้หมด และมีพี่อีกคนหนึ่งบอกผมว่าไม่อยากให้หลงระเริงไปกับสิ่งที่ได้รับ เพราะทุกวันนี้ทุกคนรักผม มีงานเข้ามาหา ผู้ใหญ่รักและเอ็นดู แต่ถ้าวันหนึ่งไม่มีสิ่งเหล่านี้ล่ะ ผมจะยังรักการแสดงอยู่มั้ย มันเป็นข้อคิดให้เรากลับมาถามตัวเองว่าที่แฮปปี้กับการแสดง แฮปปี้กับวงการนี้เพราะทุกอย่างมันรักเรา หรือเพราะเรารักมันจริงๆ ซึ่งตอนนี้ผมสนุกกับการแสดง ไม่ได้สนใจว่าต้องรับบทอะไร รู้แค่เวลาได้ไปแสดงแล้วสนุก แปลว่าอย่างน้อยเราก็ชอบที่จะทำ

มองย้อนกลับไปวันแรกกับวันนี้

รู้สึกว่าเปลี่ยนไปเยอะเลย ผมตกใจว่า เฮ้ย! เรามาถึงตรงนี้ได้ยังไง ตั้งแต่วันแรกที่เข้าวงการยังคิดแค่ว่ามาถ่ายโฆษณา เดินแบบ ได้เงินค่าขนม ยังไม่มีอนาคต ไม่รู้ว่าเรียนจบแล้วจะไปทำอะไร แต่ตอนนี้มันเป็นอาชีพ เป็นส่วนหนึ่งของชีวิตเรา รู้สึกว่าตัวเองโชคดี คือผมไม่เคยหวังสูง ตั้งแต่เด็กๆ คิดว่าเรียนจบจะไปเป็นสจ็วต เพื่อเก็บเงินเรียนการบิน ผมอยากเป็นนักบิน แต่บ้านผมไม่ได้มีเงินเยอะมาก ไม่ใช่คนบ้านรวย จู่ๆ วันหนึ่งได้มาเป็นนักแสดงถือว่าเป็นโชคดี เพราะมันเหนื่อยน้อยกว่าตรงนั้นเยอะ คืออาจจะเหนื่อยช่วงแรก แต่มันก็คุ้มค่ากับสิ่งที่เราเหนื่อย แล้วมันก็สนุกด้วย ผมเรียนจบมา 2-3 ปี แต่รู้สึกเราโตกว่าเพื่อนๆ ที่เรียนจบรุ่นเดียวกัน เพราะเราได้เจอคนเยอะกว่า

จากคนธรรมดากลายเป็นพระเอก การใช้ชีวิตเป็นอย่างไร

พอคิดว่ามันเป็นอาชีพก็รู้สึกว่าเป็นอาชีพหนึ่ง เพียงแต่เป็นอาชีพที่มีชื่อเสียง คนจับตาดู ไปไหนมาไหนมีคนขอถ่ายรูป ซึ่งเวลาผมไปไหนก็ไม่อยากปิดบังเพราะไม่ได้ทำอะไรผิด ยังไปไหนมาไหนปกติ เพียงแต่จะเลี่ยงที่มีฝูงชน อย่างเวลาไปห้างแล้วมีการจัดงาน คนเยอะ นักข่าวเยอะ คือเราอยากไปเดินนิ่งๆ ไปช็อปปิ้งปกติบ้างเท่านั้นเอง

เนื้อหาโดย : นิตยสาร in