เมื่อหนุ่มเนิร์ดกลายเป็นหนุ่มฮอตที่ทำให้คนทั่วโลกใจละลาย

ด้วยคาแรคเตอร์ขี้อาย ดูเป็นเด็กเก็บกด พร้อมกับทรงผมม้าเต่อ และการแต่งตัวที่หลุดโลกสุดๆ ตัวละคร Credence Barebone ในหนังเรื่อง Fantastic Beast จึงเป็นหนึ่งในตัวละครที่เข้าไปเกาะกุมหัวใจคนดูได้อย่างง่ายดาย โดยเด็กหนุ่มหน้าตาน่ารักที่เลือกมารับบทนี้ก็คือ ‘เอซรา มิลเลอร์’ (Ezra Miller) หนุ่มน้อยวัย 24 ปี ผู้มีโปรไฟล์ไม่ธรรมดา

เอซราเคยทำให้คนดูหนังตายหมู่กันมาแล้วใน We Need to Talk About Kevin (2011) หนังเล็กๆ ที่ได้รับคำชมจากนักวิจารณ์ท้วมท้น โดยเฉพาะการแสดงของเขาในบทเควิน -- เด็กหนุ่มที่มีปัญหาทางจิต ก่อนจะไล่ฆ่าเพื่อนในโรงเรียนอย่างเลือดเย็น และเหี้ยมโหด

เรานิยามไม่ได้ว่าการแสดงของเอซรานั้นเรียกว่าตีบทแตกกระจุยหรือเปล่า? เพราะเขาได้พาคนดูไปไกลยิ่งกว่า ด้วยการดำดิ่งลึกลงไปยังก้นบึ้งของเด็กหนุ่มที่ต้องแบกรับอะไรสักอย่าง จนกระทั้งระเบิดออกมาเป็นเหตุการณ์ที่น่าสะพรึงกลัว ซึ่งกว่าที่เอซราจะได้มารับบทเควินนี้ เขาต้องใช้เวลานานถึง 2 ปี กว่าจะผ่านการออดิชั่น 6 ครั้ง อีกทั้งยังไม่พูดกับแม่ของตัวเองเป็นเดือนๆ และยังต้องลดน้ำหนักลงไปกว่า 10 กิโลฯ เพื่อให้ตัวละครเควินดูเป็นเด็กที่มีปัญหาจริงๆ
จากฝีมือการแสดงที่จัดจ้านนี่เอง ชื่อของเอซราก็ได้ถูกเสนอให้เข้าชิงรางวัล BIFA Award for Best Supporting Actor ในปี 2011 ความร้ายกาจของเอซราไม่ได้หยุดแค่นั้น เพราะอีกแค่หนึ่งปีต่อมา เขาก็ทำให้เด็กสาวและสาวๆ ทั่วโลก (รวมไปถึงหนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่) ต้องหลอมละลายอีกครั้งใน The Perks of Being a Wallflower (2012) หนัง Coming of Age ระดับเอลิสต์ที่เอซราแสดงนำในบท ‘แพทริก’ นักศึกษาเกย์รูปหล่อ ยี่ยวน และเต็มไปด้วยชีวิตชีวา ซึ่งจากบทที่สุดแสนจะเริด เชิด มีเสน่ห์ จนใครๆ ต่างพากันหลงรัก เอซราก็กลายมาเป็นนักแสดงดาวรุ่งที่เทศกาลฟิล์มต่างพร้อมใจกันเรียกหา และในปี 2012 เขาก็ได้ขึ้นทำเนียบว่าเป็นดาราเด็กมากฝีมือ ด้วยการคว้ารางวัลชนะเลิศจากเวทีต่างๆ ไปมากถึง 4 รางวัล

อย่างไรก็ดี เอซราก็ไม่วายสร้างเซอร์ไพรส์ให้แฟนคลับอย่างต่อเนื่อง หลังจากออกมาประกาศตัวชัดเจนว่าตัวเองเป็น ‘เกย์’ เพราะเขาชอบทุกเพศ เนื่องจากแต่ละเพศก็มีความสวยงามแตกต่างกันออกไป

ด้วยความมั่นใจ บวกกับความเชื่อมั่นในจุดยืนของการเป็นคนข้ามเพศ เอซราก็ได้ถูกบันทึกว่าเป็นชาว LGBT คนแรกที่ได้รับบทฮีโร่ในหนังฮอลลิวูด ภายหลังที่เขาได้แสดงเป็น The Flash ในหนัง Batman v Superman: Dawn of Justice (2016) ตามด้วย Suicide Squad (2016) และกำลังจะมี Justice League (2017) ต่อคิวตามมา ส่วน The Flash ฉบับภาคแยกที่เอซราจะได้ฉายเดียวนั้น มีโปรแกรมจะลงโรงในช่วงเดือนมีนาคม 2018

สำหรับเหตุผลที่เอซราเลือกมารับบท Barry Allen หรือ The Flash นั้น เจ้าตัวได้ให้สัมภาษณ์เอาไว้แบบติดตลกว่าเพราะ The Flash เป็นฮีโร่ที่ค้นพบอะไรมากมายด้วยเหตุผลทางฟิสิกส์ แต่เหนืออื่นใดคือการที่เขาจะได้เป็นเพื่อนกับ Batman ยังไงล่ะ

ในด้านอื่นๆ เว้นจากการเป็นนักแสดง ตอนเด็กๆ เอซราเคยเป็นเด็กที่พูดไม่ชัด และมีอาการพูดแบบติดอ่างมากๆ จนครูที่โรงเรียนได้ชักชวนให้เขามาร่วมกับคณะเพื่อขับร้องเพลงโอเปร่า จะได้เป็นการฝึกหายใจไปในตัว จากนั้นเอซราก็ตัดสินใจเลิกร้องโอเปร่าตอนอายุ 11 ขวบ เพราะเสียงเริ่มแตกเนื้อหนุ่ม

หากทว่าเอซราก็ยังเก็บความสามารถทางด้านดนตรีมาโดยตลอด ก่อนจะมีวงดนตรีอินดี้เล็กๆ ของตัวเองในปี 2011 โดยใช้ชื่อสุดแนวว่า Sons of an Illustrious Father ซึ่งเขาก็รับหน้าที่เป็นทั้งมือกลอง มือคีย์บอร์ด พร้อมกับเป็นนักร้องนำ ชนิดที่คนฟังและแฟนคลับยังต้องตั้งคำถามว่าคนอะไรจะครบถ้วนเฟอร์เฟคและสมบูรณ์ได้ในระดับนี้

แน่นอนว่ามีหนึ่งเดียวคนนี้แหละ ‘เอซรา มิลเลอร์’

ALL ABOUT EZRA

เกิดวันที่ 30 กันยายน 1992
รัฐนิวเจอร์ซีย์ของอเมริกา
แม่ชื่อ Marta Koch เป็นแดนเซอร์แนวโมเดิรน์
พ่อชื่อ Robert S. Mille เคยเป็นผู้บริหารระดับสูงของสำนักพิมพ์ Hyperion Books และ Workman Publishing
พี่สาวสองคนชื่อ Saiya และ Caitlin
เอซราออกจากโรงเรียนตอนอายุ 16 ปี เพราะเชื่อว่าโรงเรียนไม่เหมาะกับเขา
ผลงานเรื่องแรกคือหนังเรื่อง Afterschool (2008)
รางวัลที่ได้จากการแสดงครั้งแรกมาจากหนังเรื่อง Another Happy Day (2011) โดยเป็นรางวัลนักแสดงที่พัฒนาการแสดงได้อย่างยอดเยี่ยม
เอซราเป็นซูเปอร์แฟนของ Harry Potter เริ่มอ่านตั้งแต่อายุ 7 ขวบ และฟัง Audiobooks มากกว่า 100 รอบ
นักดนตรีที่ชื่นชอบคือ Mozart และ Neil Young
กดติดตามเอซราได้ที่ IG : @ezrator

อัลบั้มภาพ ทำไมคนทั่วโลกถึงหลงรัก เอซรา มิลเลอร์ ภาพที่ 3 / 4

ทำไมคนทั่วโลกถึงหลงรัก เอซรา มิลเลอร์