'บุหรี่อิเล็กทรอนิกส์' ทางเลือกใหม่ของสิงห์อมควัน! กับอันตรายที่ไม่แพ้บุหรี่ธรรมดา
เจ้าหน้าที่ด้านสาธารณสุขสหรัฐฯ Vivek Murphy เตือนถึงอันตรายของการสูบบุหรี่อิเล็กทรอนิกส์เมื่อเร็วๆ นี้ว่า บุหรี่ไฟฟ้านอกจากจะให้สารนิโคตินเเก่ผู้สูบเเล้ว ยังปล่อยควันที่มีสารพิษออกมาหลายชนิดด้วย ไม่ว่าจะเป็นสารตะกั่ว สารนิกเกิล และสารไดอะเซทิล
เเม้ว่าผู้ผลิตจะอ้างว่าบุหรี่อิเล็กทรอนิกส์ไร้ควันก็ตาม
Surgeon General แห่งสหรัฐฯ ซึ่งทำหน้าที่คล้ายอธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า ชาวอเมริกันจำเป็นต้องเข้าใจว่า บุหรี่อิเล็กทรอนิกส์มีอันตรายต่อเด็กวัยรุ่นและคนในวัยผู้ใหญ่ตอนต้น เช่นเดียวกับผลเสียที่มาจากการสูบบุหรี่หรือผลิตภัณฑ์ยาสูบชนิดอื่นๆ
บุหรี่อิเล็กทรอนิกส์เป็นนวัตกรรมใหม่ที่บริษัทยาสูบคิดค้นขึ้นมาขายแก่นักสูบบุหรี่ โดยอ้างว่าไม่มีผลเสียต่อสุขภาพ มีลักษณะเป็นแท่งคล้ายบุหรี่แต่ใหญ่กว่าเล็กน้อย ปลายหนึ่งเป็นช่องเหมือนไปป์สำหรับดูด อีกปลายเป็นหัวมีหลอดไฟให้แสงสีแดงหรือสีเขียวแล้วแต่ยี่ห้อ
ตรงกลางตัวเครื่องทำความร้อนให้สารนิโคตินเหลวกลายเป็นไอระเหย หลอดน้ำยาเมื่อหมดสามารถซื้อมาเติมใหม่ได้ การสูบบุหรี่อิเล็กทรอนิกส์ทำให้ได้สารนิโคตินเข้าสู่ร่างกาย โดยมีการกล่าวอ้างว่า เนื่องจากไม่มีเขม่าควัน ไม่มีกลิ่น ไม่มีสารก่อมะเร็ง จึงเป็นบุหรี่ที่สูบแล้วไม่มีผลเสียต่อสุขภาพ
สำนักงานอาหารและยาแห่งสหรัฐฯ ได้สั่งห้ามขายอุปกรณ์สูบบุหรี่อิเล็กทรอนิกส์ให้เเก่เด็กวัยรุ่นที่อายุต่ำกว่า 18 ปีตั้งเเต่ต้นปีที่ผ่านมา นอกจากนี้ ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคติดต่อเเห่งสหรัฐฯ เปิดเผยว่า ผู้ผลิตบุหรี่อิเล็กทรอนิกส์ขายบุหรี่ชนิดนี้เเก่เด็กวัยรุ่นโดยมีการคิดค้นกลิ่นและรสที่ดึงดูดใจ และใช้ยุทธวิธีทางการตลาดเน้นว่าเป็นของทันสมัย จนได้รับความนิยมอย่างมากในกลุ่มวัยรุ่น
Surgeon General แห่งสหรัฐฯ Vivek Murphy ชี้ว่า การใช้ผลิตภัณฑ์ที่ให้สารนิโคตินรวมถึงบุหรี่อิเล็กทรอนิกส์ล้วนเป็นอันตรายต่อวัยรุ่น หญิงตั้งครรภ์และทารกในครรภ์ เขากล่าวว่าคนยังสับสนในเรื่องประเด็นความปลอดภัยของบุหรี่อิเล็กทรอนิกส์กันอยู่
Vivek Murphy ชี้ว่าบุหรี่อิเล็กทรอนิกส์มีคนใช้น้อยมากในปี ค.ศ. 2010 แต่มาในปัจจุบันมีคนใช้กันอย่างเเพร่หลาย โดยเฉพาะในกลุ่มวัยรุ่นในสหรัฐฯ เขากล่าวว่าบุหรี่อิเล็กทรอนิกส์คุกคามต่อความคืบหน้าที่ได้มาอย่างยากเย็นเเสนเข็ญ จากความพยายามลดการสูบบุหรี่ที่ต่อสู้กันมานานถึง 50 ปี
ทางการสหรัฐฯ ออกรายงานเมื่อปี ค.ศ. 2015 ว่านักเรียนระดับมัธยมปลายในอเมริกาอย่างน้อย 1 ใน 6 คนได้สูบบุหรี่อิเล็กทรอนิกส์ในช่่วงหนึ่งเดือนก่อนการสำรวจ
รายงานชิ้นดังกล่าวของทางการสหรัฐฯ พบว่า ในขณะที่สารนิโคตินเป็นสารเสพติดที่เลิกยากสำหรับคนทุกระดับอายุ เด็กวัยรุ่นเเละคนวัยผู้ใหญ่ตอนต้นเป็นกลุ่มที่เสี่ยงสูงมากต่อผลเสียในระยะยาวจากสารนิโคตินที่มีต่อสมอง
จึงสรุปว่าการเสพสารนิโคตินในกลุ่มวัยรุ่นในทุกรูปแบบเป็นล้วนอันตรายทั้งสิ้น
ด้านสมาคมเเพทย์เด็กอเมริกันสะท้อนความคิดเห็นเดียวกันนี้ โดยด็อกเตอร์ Benard Dreyer ประธานสมาคม กล่าวในงานเเถลงข่าวว่าเมื่อเร็วๆ นี้ว่า สารนิโคตินเป็นสารเสพติดที่เลิกยากมาก และมีอันตรายต่อสมองและระบบประสาท เขากล่าวว่าเป็นไปได้ว่าบุหรี่อิเล็กทรอนิกส์จะทำให้คนรุ่นต่อไปติดสารนิโคติน และจะเป็นปัญหาสุขภาพสำคัญ
(รายงานโดยห้องข่าววีโอเอ / เรียบเรียงโดยทักษิณา ข่ายแก้ว )
ขอขอบคุณข้อมูลจาก : www.voathai.com