'กันต์ กันตถาวร' โมเดลของพิธีกรรูปหล่อ ฉลาด มาดแมน ขี้เล่น เป็นกันเอง
จากที่ผู้ชมหลายบ้านเคยเห็น ‘กันต์ กันตถาวร’ ในฐานะพระเอกของละครช่องฟรีทีวีหลายต่อหลายเรื่อง ระยะหลังมานี่ ก็ได้เห็น กันต์ ในภาพที่ต่างไป นั่นคือ การเป็นพิธีกรรายการของช่องดิจิตอลทีวียักษ์ใหญ่ อย่าง เวิร์คพอยท์ ไม่ว่าจะเป็น I can see your voice Thailand, The Mask Singer และ แฟนพันธุ์แท้ Super Fan ซึ่งปรากฏว่ารายการเหล่านี้สามารถทำเรตติ้งเบียดละครหลังข่าวได้แบบสวยๆ
จริงอยู่ที่คุณอาจให้เครดิตความสนุกที่รูปแบบรายการ แต่ในฐานะนักแสดงดีกรีพระเอกอย่างกันต์ การตัดสินใจมาเอาดีทางการเป็นพิธีกรรายการทีวีแบบที่ไม่ยึดติดกับบัลลังก์พระเอกนั้น เราว่านี่คือสิ่งที่น่าสนใจ
กันต์ เปิดใจพูดคุยอย่างตรงไปตรงมา ว่าเขาไม่ยึดติดกับการเป็นพระเอก ชีวิตไม่ได้มีแค่บทบาททางการแสดง ยังมีอีกหลายสถานะที่อยู่ในการควบคุมของเขา
ซึ่งระหว่างการสนทนา กันต์ก็ย้ำกับเราเป็นระยะๆ ว่าเขาเลือกทำในสิ่งที่คิดว่าตัวเองควบคุมได้ และจะรับผิดชอบทำมันออกมาให้ดีที่สุด ส่วนสิ่งที่นอกเหนือจากขอบเขตการควบคุมนั้น หากแม้ผิดพลาดและทำให้เขาต้องเสียใจ ก็ไม่ยากเกินกว่าจะทำใจยอมรับมัน
และนี่คือตอนหนึ่งในบทสัมภาษณ์เต็มๆ แบบตรงไปตรงมา ของกันต์
ณ เวลานี้ คุณมีสังกัดไหม
กันต์: ผมเซ็นสัญญาเป็นพิธีกรของเวิร์คพอยท์ ส่วนงานละคร เวิร์คพอยท์ก็จะช่วยดูให้บ้าง แต่การตัดสินใจทั้งหมดจะอยู่กับผม ว่าจะรับหรือไม่รับ เพราะได้คุยกับผู้ใหญ่ตั้งแต่แรกแล้วว่า การแสดงเป็นสิ่งที่ผมรัก ผมขอเป็นคนตัดสินใจเอง เพราะผมก็ไม่อยากเล่นในสิ่งที่ไม่อยากเล่น ไม่อยากทำเพราะต้องทำ แต่อยากทำเพราะรักที่จะทำมากกว่า
ผลงานเด่นๆ ของคุณในตอนนี้ คงหนีไม่พ้นการเป็นพิธีกร รายการดังๆ ของช่องเวิร์คพอยท์ ซึ่งทำเรตติ้งเบียดละครหลังข่าวได้ถล่มทลาย ตอนที่รับเป็นพิธีกร ตั้งความหวังว่ากระแสจะแรงขนาดนี้ไหม
กันต์: ไม่เคยคิดเลย แต่เวลาทำงานทุกอย่างก็หวังให้งานออกมาดีอยู่แล้ว ในขอบข่ายที่เราควบคุมได้นะ แต่ก็จะมีสิ่งที่ควบคุมไม่ได้หลายๆ อย่าง เช่น ออนแอร์ตอนไหน ช่องไหน คนดูจะชอบไหม ทั้ง I Can See Your Voice Thailand / The Mask Singer / แฟนพันธุ์แท้ Super Fan เวลาชนกับละครช่องหลักด้วย มันจะออกมายังไง เราไม่รู้เลย แต่พอผลตอบรับออกมาตั้งแต่เทปแรก ปรากฏว่าเรตติ้งแรงแซงละครไปอีก เราก็งงว่า เฮ้ย ! มันขนาดนั้นเลยเหรอ รู้สึกดีใจ เพราะเป็นสิ่งที่เราตัดสินใจแล้วว่าจะทำเป็นอาชีพหลัก ประกอบกับมันก็ให้ความสนุกสนาน กับทั้งตัวเองและคนดูด้วย ตรงนี้เป็นสิ่งที่ผมแฮปปี้ที่สุด
ในฐานะพิธีกร เวลาเจอเหตุการณ์นอกสคริปต์ ที่จะต้องงัดทุกกลยุทธ์มาแก้ไขสถานการณ์แบบฉับพลันทันใด คุณทำยังไง
กันต์: การเป็นพิธีกร คือการใช้ไหวพริบแทบทั้งหมด แล้วยิ่ง I Can See Your Voice Thailand เป็นรายการที่ไม่มีสคริปต์ มีแค่บุลเลตมาว่าคุณจะต้องไป 1 2 3 4 แต่ระหว่าง 1 ไป 2 ก็จะมี 1.1 1.3 1.5 อยู่ที่ว่าคุณจะเล่นยังไง ซึ่งโชคดีที่พิธีกรคู่คือ พี่ลิง (สมเกียรติ จันทร์พราหมณ์) พี่ลิงรู้จักผมมานานแล้ว พอได้มาทำงานด้วยกันเราก็ได้เรียนรู้จากเขาในวิธีการที่จะดึงคนดูยังไง จะดึงคนทางบ้านแบบไหน ในสตูดิโอจะเอาให้อยู่อย่างไร ทำให้มวลรวมในการทำงานสนุกได้ยังไง ทุกอย่างเป็นสิ่งนอกสคริปต์ซึ่งต้องเกิดจากการเรียนรู้ และเก็บประสบการณ์ชั่วโมงบินเอา อีกอย่างคือ ถ้าเป็นพาร์ทเนอร์ที่รู้ใจกัน ผมเล่นอะไรไป ผมมั่นใจว่าพี่ลิงต้องตบมุกแน่นอน แต่ถ้าเป็นคนที่ไม่รู้จัก ก็จะเดาทางกันยาก โดยเฉพาะรายการนอกสคริปต์แบบนี้ คงไม่ลื่นไหลอย่างที่เห็นแน่ๆ ตอนนี้ I Can See Your Voice Thailand อยู่ตัวแล้ว เหมือนทีมบอลที่ซ้อมกันมานาน ผมส่งคุณยิง คุณส่งมาผมเตรียมหม่งแล้ว ไม่ใช่แค่ผมกับพี่ลิง แก๊งนักสืบ ทีมงาน ยันวงดนตรีแบ็กอัปก็ด้วย
มาตรฐานในการทำงานของคุณวัดที่อะไร
กันต์: วัดที่ความพอใจของตัวเอง และความพอใจของคนที่ทำงานด้วยเป็นหลัก คนดูจะชอบ หรือไม่ชอบเป็นอีกเรื่อง เพราะผมรู้สึกว่าเราควรใส่ใจคนที่ทำงานด้วยกันกับเรามากกว่า สมมุติว่าเรา 2 คนทำงานด้วยกัน คุณบอกโจทย์ที่คุณต้องการให้ผมฟัง นั่นคือสิ่งที่ผมต้องทำเพื่อให้ตอบโจทย์ทั้งคุณและผม หน้างานตรงนั้นคือสิ่งที่เราทั้ง 2 คนรู้ว่า เราใส่สุดด้วยกันทั้งคู่แล้วนะ ที่เหลือฟีดแบ็กจะเป็นยังไง มันเกินสิ่งที่เราจะควบคุมได้แล้ว ถ้าเกิดความผิดพลาด เราก็ต้องยอมรับมัน
คุณได้ฉายาว่าเป็นเจ้าพ่อธุรกิจ ได้ใช้หลักการทางธุรกิจสำหรับการวางตัวในวงการบันเทิงด้วยไหม
กันต์ : ใช้ครับ ผมจะวิเคราะห์ว่าเราจะวาง Positioning ตัวเองอย่างไร เราต้องการทำงานนั้นงานนี้เพราะอะไร แล้วเราควรจะเดินไปทางไหน จุดอ่อน-จุดแข็งของเราคืออะไร อย่างที่ผมบอก ถ้าเลือกพระเอกหล่อ กันต์ไม่ใช่ช้อยส์แรก นี่คือเรื่องจริง คุณพูดได้แบบไม่ต้องกลัวผมเสียใจเลย เพราะผมรู้ตัวเองว่าเราไม่ใช่ช้อยส์แรกจริงๆ แต่มันจะมีบทอีกประเภทที่ผู้จัดเขารู้สึกว่า ต้องเป็นเราแสดงเท่านั้น ระหว่างการเป็นช้อยส์ที่ถูกเลือก กับการเป็นคนเดียวที่ต้องทำ มันให้ความรู้สึกต่างกันเลยนะ ดังนั้นเราจึงต้องวาง Positioning ก่อนว่าเราควรจะอยู่จุดไหน พอ Positioning เราชัดเจนแล้ว คนก็จะมองเห็น และเราเองก็จะมองเห็นตัวเองชัดเจนมากขึ้น
ถ้าอย่างนั้นคิดว่าจุดแข็งของตัวเอง ที่เป็นคุณสมบัติสำคัญทำให้คุณประสบความสำเร็จในการทำงานทั้งธุรกิจและบันเทิงคืออะไร
กันต์ : ในการทำงานของผม ผมคิดว่าผมต้องเดินอย่างมั่นใจและมีความสุขกับทุกย่างก้าวที่ผมทำ ดังนั้น ถ้าผมรักที่จะทำงานอะไร ผมก็จะใส่สุด ถ้ามันออกมาไม่ดีจริงๆ ผมจะยอมรับ และเราจะไม่ดูถูกคน ให้เกียรติทุกคนที่เราร่วมงานด้วย เพราะทุกคนก็รักงานตัวเองเหมือนกัน
ความยากที่สุดในการเกิดมาเป็น กันต์ กันตถาวร
กันต์: อาจจะเป็นการใช้ชีวิตที่ไม่ต้องทะเยอทะยานมากนัก เนื่องจากผมถูกสอนมาเสมอว่า ทำอะไรก็แล้วแต่ต้องรับผิดชอบตัวเองก่อน ทำให้เวลาจะทำอะไร ผมจะไม่เอาแค่ผ่าน แต่ผมจะเอาดีเสมอ เพราะผมตั้งไว้แบบนี้ แต่คนอื่นจะว่าดีหรือไม่ นั่นเป็นสิ่งที่คนอื่นตัดสิน เพียงแต่เราจะยึดติดว่าต้องดีที่สุด จนมันกลายเป็นโฟกัส แล้วเวลาผมอยู่ในโหมดนั้น ผมจะมองไม่เห็นอย่างอื่นเลย สิ่งที่ยากก็คงจะเป็นการผ่อนปรนเรื่องนี้ลงบ้าง
อ่านบทสัมภาษณ์ย้อนหลังแบบเต็มๆ ได้ที่ https://issuu.com/gm_live/docs/247_307
อัลบั้มภาพ 14 ภาพ