4 ส่วนผสมเด็ดสร้างกลิ่นหอมให้สาวหลง
แค่อ่านชื่อก็เดาแนวกลิ่นได้ถูก เพราะนี่คือ 4 ส่วนผสมเด็ดของน้ำหอมที่เราอยากให้คุณรู้จัก
Neroli Explained
เนโรลี (Neroli) คือดอกจากต้นส้ม (Bitter Orange) ซึ่งกินได้ มีต้นกำเนิดในประเทศเวียดนาม แต่เข้ามาสู่ทวีปยุโรปช่วงสงครามครูเสดในช่วงศตวรรษที่ 11 โดยถูกตั้งชื่อใหม่ว่าเนโรลี อันเนื่องจากการที่เจ้าหญิงแห่งเมืองเนโรลา (เมืองเล็กๆ ใกล้กรุงโรม) ชื่นชอบในการฉีดกลิ่นหอมนี้บนถุงมือ โดยกลิ่นเนโรลีคือกลิ่นหอมหวานและสดชื่นสไตล์ดอกไม้ มีความโดดเด่นมากเมื่อผสมเข้ากับน้ำมันหอมระเหยตระกูลซิตรัส จนทำให้ออกมาเป็นกลิ่นแบบธรรมชาติซึ่งใช้ได้ทั้งผู้ชายและผู้หญิง ไม่ใช่แค่สำหรับน้ำหอมเท่านั้น เพราะกลิ่นเนโรลียังถูกหยดลงไปในเครื่องดื่มอื่นๆ อีกด้วย เช่น เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ Campari Bitter ไปจนถึงข่าวลือที่ว่านี่คือหนึ่งในสูตรลับที่ใส่ในเครื่องดื่มน้ำดำอย่างโคคา-โคล่าอีกด้วย
เหมาะกับ: ผู้ชายที่ชอบน้ำหอมกลิ่นสดชื่นเพื่อเพิ่มพลังในตอนเช้า แต่ก็ไม่วายอยากได้กลิ่นหอมหวานของดอกไม้ผสมอยู่แบบอ่อนๆ
Try This
Hermès Eau de Neroli Doré (EDC) 100 มล. 4,500 บาท
Jo Malone London Basil & Neroli (EDC) 100 มล. 5,100 บาท
Bergamot Interpreted
ถ้าจะให้เรียกชื่อแบบไทย เบอร์กามอตก็คือมะกรูดดีๆ นี่เอง ซึ่งมะกรูดที่จะนำมาสกัดใส่ในน้ำหอมส่วนมากจะปลูกทางตอนใต้ของประเทศอิตาลี แต่เป็นที่รู้จักในวงการน้ำหอมครั้งแรกในสมัยพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 ซึ่งโปรดปรานกลิ่นหอมนี้ โดยจะใช้ส่วนเปลือกของเบอร์กามอตมาสกัด และต้องเก็บเกี่ยวช่วงเดือนตุลาคมไปจนถึงกุมภาพันธ์ของทุกปี ซึ่งนักปรุงน้ำหอมชื่อดังหลายคนจัดให้กลิ่นเบอร์กามอตเป็นกลิ่นที่ดีที่สุดในตระกูลซิตรัส เพราะให้กลิ่นความสดชื่น เข้มข้น และกลมกล่อมที่สุด จนกลายเป็นหนึ่งในส่วนผสมที่มีราคาสูง และมักจะถูกผสมอยู่ในท็อปโน้ตอยู่เสมอ เพราะเป็นตัวสร้างความสดชื่นเมื่อแรกสูดกลิ่นน้ำหอมแนวซิตรัส
เหมาะกับ: ผู้ชายสายสปอร์ตที่มุ่งหาแต่กลิ่นหอมสดชื่นแนวซิตรัสเท่านั้น เพราะทำให้รู้สึกสะอาดและหอมสดชื่นในเวลาเดียวกัน
Try This
Tom Ford Private Blend Venetian Bergamot (EDP) 50 มล. 8,000 บาท
Ermenegildo Zegna Acqua di Bergamotto (EDT) 100 มล. 4,500 บาท
Oud Clarified
นี่คือกลิ่นเด่นที่ครองใจชายแถบตะวันออกกลางและชายไทยจำนวนไม่น้อย ด้วยกลิ่นหอมที่สกัดจากยางไม้ของต้นกฤษณา (Agar Tree) ไม้หอมที่มีถิ่นกำเนิดในแคว้นอัสสัม ประเทศอินเดีย ไม้ชนิดนี้จัดได้ว่าเป็นไม้ที่แพงที่สุดในโลก และด้วยราคาที่สูงของไม้ชนิดนี้ทำให้เกิดการปลูกต้นกฤษณาไปทั่วทวีปเอเชีย จนทำให้ยางที่ได้จากต้นกฤษณาในแต่ละที่มีกลิ่นหอมแตกต่างกัน ซึ่งรวมไปถึงคุณภาพของกลิ่นอีกด้วย เพราะยิ่งอายุของต้นไม้แก่มากเท่าไร ยางที่นำมาสกัดก็ยิ่งมีความเข้มข้นมากขึ้นเท่านั้น กลิ่นหอมรุนแรงของอู้ดนั้นมีความเข้มข้นที่หนักแน่น จนรู้สึกได้ถึงความเป็นยางไม้ที่มีความชุ่มชื้นซ่อนอยู่ หรือบางครั้งอาจให้กลิ่นหอมหวานแบบอวนๆ แต่อบอุ่นเมื่อได้สูดดม ทำให้คุณรู้สึกคลุมเครือจนเรียกได้ว่าถ้าไม่รักไปเลยก็เกลียดสุดๆ
เหมาะกับ: ผู้ชายมาดแมนที่อยากเพิ่มเสน่ห์ความเข้มให้ตัวเอง เพราะเพียงแค่ฉีดครั้งเดียว กลิ่นอู้ดจะช่วยยกระดับให้หนุ่มวัยรุ่นกลายเป็นผู้ใหญ่เต็มตัว
Try This
Kilian Musk Oud (EDP) 50 มล. 13,399 บาท
Polo Ralph Lauren Supreme Oud (EDP) 100 มล. 4,500 บาท
Tonka Bean Analyzed
เมล็ดถั่วนั้นคืออีกหนึ่งส่วนผสมเด็ดที่นักปรุงน้ำหอมผู้ชายจากหลายแบรนด์นำมาผสมไว้ในน้ำหอม อย่างถั่วตองกาที่มีเมล็ดสีดำ กลายมาเป็นส่วนผสมหลักของน้ำหอมตั้งแต่ปลายศตวรรษที่ 19 ซึ่งมีถิ่นกำเนิดในแถบอเมริกากลางลงไปจนถึงอเมริกาใต้ ถั่วตองกาให้กลิ่นหอมหวานแบบอโรมา คล้ายกลิ่นของเมล็ดอัลมอนด์และฝักวานิลลา หรือกลิ่นอ่อนๆ ของใบยาสูบ ที่เมื่อนำไปผสมกับกลิ่นแนวสดชื่นของพืชอย่างเบอร์กามอต หญ้าแฝก หรือลาเวนเดอร์ ก็จะช่วยให้น้ำหอมกลิ่นนั้นมีความหอมหวานที่สมดุลไม่เลี่ยนจนเกินไป และเจ้าส่วนผสมเด็ดนี้มักจะถูกผสมเข้าไปในเบสโน้ตซึ่งกลายเป็นกลิ่นสุดท้ายที่ยังติดตัวคุณอยู่ตลอดวัน เพราะนี่คือกลิ่นที่สะท้อนมาดแมนของผู้ชายได้ดีทีเดียว
เหมาะกับ: ผู้ชายที่อยากได้น้ำหอมกลิ่นเข้มแต่อยากมีกลิ่นหอมหวานอ่อนๆ มาช่วยเสริมทัพไม่ให้เลี่ยนจนเกินงาม
Try This
Armani Code Profumo (EDP) 50 มล. 4,200 บาท
Jo Malone London Myrrh & Tonka Cologne Intense (EDC) 100 มล. 6,900 บาท
Writer: นิพิฐพนธ์ รุ่งเรือง