รู้จัก 5 แบรนด์ยีนส์ชื่อดังจากเมืองคุราชิกิ ประเทศญี่ปุ่น
คุราชิกิ (Kurashiki) เมืองเล็กๆ ที่อยู่ติดกับทะเลเซโตะ จังหวัดโอกายามะ ของประเทศญี่ปุ่น เมืองที่มีภูมิศาสตร์เหมาะแก่การเพาะปลูกฝ้าย เนื่องจากฝ้ายสามารถเติบโตในน้ำเค็มได้เป็นอย่างดี ส่งผลให้ชาวบ้านที่อยู่ในเมืองคุราชิกิต่างก็มีความชำนาญในการทอผ้าฝ้าย จนกลายเป็นกลุ่มทอผ้าเดนิมที่โด่งดังแห่งเมืองคุราชิกิ และเริ่มเป็นที่รู้จักกันอย่างแพร่หลายตั้งแต่ปี ค.ศ.1965 เป็นต้นมา และในยุคที่สหรัฐอเมริกาเริ่มมีการเผยแพร่วัฒนธรรมการใส่ยีนส์ เหล่าช่างฝีมือแห่งเมืองคุราชิกิที่หลงใหลในแฟชั่นสมัยใหม่เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว จึงได้เกิดการสร้างสรรค์ยีนส์ที่เป็นเอกลักษณ์ของประเทศญี่ปุ่นขึ้นมาเอง โดยมีคุณสมบัติเด่นอยู่ที่ เทคนิคและความประณีตด้านการตัดเย็บของช่างฝีมือมากประสบการณ์, การนำสีครามสไตล์ญี่ปุ่นที่เรียกว่า ‘โซเมะ’ มาประยุกต์ใช้กับผลิตภัณฑ์เดนิม และรูปทรงของยีนส์ที่ถูกออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์รูปร่างของคนเอเชีย ส่งผลให้ยีนส์ที่ผลิตจากเมืองคุราชิกิเป็นยีนส์ที่มีคุณภาพดีและกลายเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวาง ในเวลาอันรวดเร็ว
โดยในงาน ‘เจแปน คุราชิกิ เดนิม แฟร์’ (Japan “Kurashiki Denim” Fair) ได้คัดเลือก 5 แบรนด์ยีนส์ที่กำลังเป็นที่นิยมในประเทศญี่ปุ่น มาให้คนไทยได้ทำความรู้จักและสัมผัสกับคุณภาพงานดีไซน์และการตัดเย็บเป็นครั้งแรก
เริ่มจาก Antgauge (แอ๊นเกจ) แบรนด์ยีนส์ตั้งแต่ปี ค.ศ.2001 ที่นำเสนอเสื้อผ้าลำลองสไตล์เรียบเก๋ จากการนำวัฒนธรรมจากทั่วโลกมาหลอมรวมเข้ากับงานดีไซน์ที่คำนึงถึงฟังก์ชั่นการใช้งานในรูปแบบของชุดทำงานที่ผสานแฟชั่นเอาไว้อย่างลงตัว ที่ไม่ว่ากี่ยุคสมัยชุดของ Antgauge (แอ๊นเกจ) ก็ยังนำมาสวมใส่ในชีวิตประจำวันได้อย่างไม่มีเอาท์
ไดกิ ชิราอิชิ (Daiki Shiraishi) ทายาทแบรนด์กางเกงยีนส์ Antgauge (แอ๊นเกจ) เผยว่า ปัจจุบันแบรนด์ได้รับความนิยมที่ประเทศเกาหลี และ แม็กซิโก เป็นอย่างมากด้วยจุดเด่น เน้นดีไซน์ให้เหมาะกับผู้หญิงวัย 20-30 ปี ที่ต้องการความคล่องตัว ชอบกิจกรรมท้าทาย โดยขอบกางเกงยีนส์ด้านหลังจะหนาและสูงกว่าด้านหน้า เพื่อเวลาสาวๆ ก้มลงจะได้ไม่ต้องกังวลว่าจะเห็นขอบกางเกงชั้นใน นอกจากนี้ยังใช้ลายเส้นหลบด้านในเน้นให้สาวๆ ขายาวขึ้น ตัวเนื้อผ้าเน้นความออริจินอล ยืดหยุ่น สบายตัว คนไทยส่วนมากมีต้นขาใหญ่กว่าคนญี่ปุ่น จึงเหมาะกับสไตล์ยีนส์ที่กำลังฮิตในแดนปลาดิบตอนนี้ คือ ทรงพองที่ต้นขา และหน้าขา แต่กระชับที่ปลายขา จะใส่กับเสื้อยืดเป็นลำลองหรือใส่กับเสื้อเชิ้ตให้ความเป็นสาวเท่ สมาร์ทในวันทำงาน
ถัดมาที่แบรนด์ Blue Sakura (บลู ซากูระ) กับการออกแบบยีนส์ภายใต้แนวคิด ‘Authentic Japan denimism’ ผ่านงานดีไซน์สุดสร้างสรรค์ที่มีกลิ่นอายของความเป็นวินเทจ สัมผัสได้ถึงวัฒนธรรมและประเพณีของประเทศญี่ปุ่นทุกครั้งเมื่อสวมใส่ ด้วยเทคนิคการฟอกสีและโครงร่างที่ถูกออกแบบมาให้รับกับสรีระของคนเอเชียได้เป็นอย่างดี แบบที่ไม่ต้องตัดแก้ทรงให้เสียเนื้อผ้า โดยทางแบรนด์จะมีรูปแบบยีนส์ให้เลือกตามรูปร่าง เพื่อผลลัพธ์หุ่นที่พอดีสมส่วน เคลื่อนไหวอย่างคล่องตัวเมื่อสวมใส่
แบรนด์ต่อมา Ono+8186 (โอโน่ พลัส แปดหนึ่งแปดหก) ภายใต้คอนเซ็ปต์งานดีไซน์ ‘Style of kojima craftsmanship’ กับการผลิตแบบสมัยโบราณที่เน้นคัดเลือกวัสดุอย่างพิถีพิถันจากแหล่งที่ดีที่สุดของประเทศญี่ปุ่น ผ่านการตัดเย็บและเทคนิคการย้อมสีสุดประณีต ให้ความรู้สึกสบายเมื่อสวมใส่และสะดวกในทุกการเคลื่อนไหว
เรียวอิชิ นากาอิ (Ryuichi Nagai ) ครีเอทีพไดเรกเตอร์ Ono+8186 เผยว่าทางแบรนด์ได้ทำโรงงานผลิตเส้นใยทอผ้ามากว่า 60 ปี ส่วนแบรนด์ยีนส์เริ่มก่อตั้งเมื่อ 3 ปี ที่แล้ว เน้นการออกแบบให้สามารถใส่ได้ในวันธรรมดา และวันทำงาน มีรูปแบบภูมิฐาน และสามารถปรับให้ดูสบายๆ ได้ มีกระเป๋ายีนส์โค้งมนที่เป็นเอกลักษณ์ ไม่เดินเส้นหนาด้านข้างเพื่อเวลาสวมยีนแล้วมองจากด้านข้างจะเรียบเนี๊ยบเหมือนกางเกงทำงาน จึงสามารถใส่กับเสื้อเชิ้ต และสูทได้อย่างลงตัว อีกหนึ่งไอเท็มเด็ดสำหรับสุภาพสตรีคือเสื้อยีนส์ทรงยุโรปที่มีแขนจะยาวแต่ลำตัวสั้น เน้นทรวดทรงของสุภาพสตรี สามารถใส่ไปทำงานได้และท่องเที่ยวได้ด้วย
ต่อมาที่แบรนด์ TCB Jeans (ทีซีบี ยีนส์) ที่ทางทีมดีไซน์ได้ศึกษาค้นคว้าเกี่ยวกับแฟชั่นเสื้อผ้าในยุคเก่าของประเทศสหรัฐอเมริกาตั้งแต่ช่วงทศวรรษที่ 1900 จนถึงทศวรรษที่ 1970 และได้นำมาต่อยอดให้เป็นงานดีไซน์ในแบบของตนเองที่เน้นรายละเอียดของการตัดเย็บ ผนวกกับการเฟ้นหาเครื่องจักรสมัยเก่าเพื่อนำมาผลิตวัสดุแต่ละชิ้น ก่อนนำมาตัดเย็บเข้าด้วยกันจนเกิดเป็นยีนส์คุณภาพพรี่เมี่ยม
ฮาจิเมะ ไอโนยูเอะ ผู้ออกแบบและก่อตั้ง ทีซีบี ยีนส์ เล่าว่าได้ริเริ่มทำกางเกงยีนส์มา 5 ปี ปัจจุบันมีสาขาในญี่ปุ่นมีประมาณ 30 ร้าน และส่งออกทั่วโลก 20 กว่าประเทศ เอกลักษณ์ของทีซีบีอยูที่ความเป็นวินเทจ สไตล์ดั้งเดิม ไม่ปรุงแต่งดีไซน์สมัยใหม่ ทำให้คนติดใจในในกลิ่นอายความเท่ คลาสสิก และยั่งยืน กลุ่มลูกค้าหลักจึงเป็นผู้ชายวัย 30 ขึ้นไป ที่ชอบความเท่ เรียบง่าย ใช้ได้นาน มีไลฟ์สไตล์การแต่งตัวง่ายๆ น้อยชิ้นแต่ดูดี สมาร์ทและมีเสน่ห์
และสุดท้ายกับ Graph Zero (กราฟ ซีโร่) แบรนด์ยีนส์ที่ออกแบบภายใต้คอนเซ็ปต์ ‘Creator is Pioneer’ ก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ.2004 โดยมีทีมช่างผู้เชี่ยวชาญในแต่ละด้าน อาทิ ช่างผ้า, ช่างตัดเย็บ, ช่างฟอก และช่างย้อม ที่เริ่มต้นการผลิตตั้งแต่การนำฝ้ายดิบมาย้อมและจึงค่อยนำไปตัดเย็บตามแบบ ผ่านงานดีไซน์ที่มีความสมัยใหม่ตอบโจทย์คนยุดใหม่ได้เป็นอย่างดี
ฟุคูอิ เรียวซึเกะ แบรนด์เมเนเจอร์ กราฟ ซีโร่ เผยว่า จุดเด่นทีทำให้มีแฟนแบรนด์คอนติดตามอยู่เสมอ คือการดีไซน์ที่ไม่มีคอเลกชั่นประจำฤดู ทางแบรนด์จะออกแบบ ปรับทรงงานตามลายผ้าที่ทอออกมาได้แต่ละครั้ง บางแบบจึงแตกต่างไม่เหมือนใคร และผลิตขายออกมาได้ไม่กี่ชิ้น โดยจะแบ่งลายเส้นของผ้าให้เลือก 5 แบบ เริ่มจากผ้าเดนิมทอเฉียงขวาบน แบบที่สองจะทอเฉียงขึ้นทางซ้าย แบบที่สามคือการนำลายเฉียงขวา และซ้ายมาอยู่ด้วยกันเป็นการการทอไขว้มักจะถูกใช้เยอะในการใช้ทำสูทให้ผ้าดูเป็นทรงแข็งตัวทนทาน ต่อมาคือยีนส์เย็บริมสีส้มเป็นแบบที่เป็นเอกลักษณ์เท่ สะดุดตา และสุดท้ายมีการวางลายเดนิมเป็นแนวตรงเพิ่มความเนี๊ยบ เสริมสรีระให้ดูเพรียวและสูงขึ้นได้