เต๋า - สมชาย เข็มกลัด เพราะคำว่าสมชายจรดปลายเท้าไม่ได้มาเพราะโชคช่วย!

เต๋า - สมชาย เข็มกลัด เพราะคำว่าสมชายจรดปลายเท้าไม่ได้มาเพราะโชคช่วย!

เต๋า - สมชาย เข็มกลัด เพราะคำว่าสมชายจรดปลายเท้าไม่ได้มาเพราะโชคช่วย!
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ในฐานะที่คุณถือเป็นไอคอนของลูกผู้ชาย อยากรู้ว่าวีรกรรมความดิบมันส่งผลกระทบอะไรกับชีวิตบ้างหรือเปล่า? 

มันไม่ได้ส่งผลแง่ลบอะไรต่อชีวิตเลยครับ มันได้กลายเป็นสิ่งที่ดีที่สุดที่เราได้กระทําลงไป เพราะมันเป็นเพียงแค่ช่วงเวลาหนึ่งของชีวิต ไม่ว่าจะดีหรือเลวผมมองว่ามันเป็นเรื่องที่ควรจะจดจําเอาไว้ทั้งหมด หลายคนอาจจะมองว่าตัวผมนั้นดิบก็ตอนเริ่มเข้าวงการหรือตอนมีชื่อเสียง ซึ่งในความเป็นจริงนั้นไม่ใช่เลย ผมเป็นเต๋า สมชายอย่างที่คุณเห็นมาตั้งแต่ตอนเรียนหนังสือแล้ว แต่บางคนอาจจะเป็นเมื่อเริ่มมีชื่อเสียงเป็นที่รู้จัก

ส่วนผมนั้นเชื่อว่าทุกๆ คนที่รู้จักผม ตั้งแต่สมัยเรียนที่เทพศิรินทร์จนถึงปัจจุบัน เค้าจะรู้และสัมผัสได้เลยว่าผมยังเป็นคนเดิมเพราะผมไม่เคยเปลี่ยน แต่มันก็อาจจะมีบางอย่างเพิ่มเติมขึ้นมาด้วยอายุและประสบการณ์ บางเรื่องก็อาจจะมีการยับยั้งชั่งใจ มีการคิดวิเคราะห์มากยิ่งขึ้นว่าเราทําไปแล้วจะแย่เหมือนที่เคยทําไหม เมื่อถึงเวลาที่ผมต้องถอยหลัง ผมไม่ได้เลือกที่จะถอยเพียงก้าวเดียว ผมเลือกที่จะถอยมากกว่านั้น ออกมาเพื่อดูเชิงก่อนว่าหากเราลุยไปแล้วมันจะคุ้มหรือไม่ ถ้าไม่เราก็ถอยเสียดีกว่า

การที่เราถอยและหันหลังกลับไม่ได้เเปลว่าเรากลัว เพราะเรารู้ว่าสิ่งที่ทําไปมันจะเกิดอะไรขึ้น และปัจจุบันผมมีครอบครัวหากทําอะไรลงไปแบบไร้ความคิด ครอบครัวก็อาจจะต้องรับผิดชอบในการกระทําพร้อมผมด้วย ถ้าเป็นแบบนั้นมันไม่คุ้มเลย ทุกวันเลยพยายามยับยั้งชั่งใจเลือกที่จะไม่มองมันมากกว่า ผมไม่ได้เลือกที่จะสูดลมหายใจให้เย็นลงเพราะถ้าเลือกวิธีนั้น ก็แปลว่าผมยังคงให้ความสนใจกับสิ่งๆ นั้นอยู่ 

ประสบการณ์ใดที่ยกให้เป็นที่สุดแห่งความดิบในชีวิตนี้?

ความดิบในชีวิตลูกผู้ชายของผมก็คือวันที่ผมได้เห็นลูกของผมคลอด
แล้วน้ําตาลูกผู้ชายมันก็ไหลออกมาเอง มันเหมือนผมตกอยู่ในภวังค์ มันคือสิ่งที่ดีที่สุดในชีวิตของผม

ความดิบ กับ ความเถื่อน มันต่างกันอย่างไร?

ต้องบอกก่อนเลยว่าความดิบมันมาคู่กับความถ่อย ผู้ชายห่ามๆ ดิบๆ ได้ แต่เถื่อนกับถ่อยไม่ใช่ ผมไม่ใช่คนเถื่อนและก็ไม่ใช่คนถ่อย แต่ผมเป็นคนที่มีสัญชาตญาณดิบเยอะ แสดงออกทางด้านมืดในความดิบชัดเจน แต่เวลานี้ก็ต้องถามตัวเองว่าเราควรแสดงออกในด้านไหน ชีวิตจริงหรือการแสดง การแสดงมันเทคใหม่ได้ไม่เหมือนชีวิตจริง

ความสุขของคุณคืออะไร?

ความสุขของผมคือก็คือการทํางาน ลูกเต๋ามันมีหลายด้านอยู่ที่ว่าเราจะเลือกความสุขจากมุมไหนขึ้นมาเสพให้เรารู้สึกมีความสุขมากกว่าเดิม

คุณก็อยู่ในวงการนี้มานาน ถามหน่อยสิว่าชื่นชอบอะไรในวงการบันเทิง? 

ผมทํางานในวงการนี้มา 27 - 28 ปีแล้วครับ ก็รู้สึกชื่นชอบหน้าที่การงานต่างๆ ในทุกบทบาทที่ได้รับ เพราะส่วนตัวเเล้วผมเป็นคนที่เลือกเล่นเลือกแสดงด้วยตัวของผมเอง ซึ่งในแต่ละครั้งผมจะเลือกจากการที่ผมได้อ่านบทแล้วย้อนกลับมาถามตัวเองว่าตัวผมมีความสามารถในการทํางานให้ผู้ว่าจ้างได้ไหม เพราะผมไม่สามารถทําได้ทุกอย่าง บางบทคนอื่นเล่นดีกว่าอย่าเอามาให้ผมเลย หรือบทแบบนั้นให้คนอื่นเล่นก็ได้ไม่จําเป็นต้องให้ผมเล่นหรอก ผมก็จะบอกไปตรงๆ

ถ้าวันนั้นไม่ได้มาเป็นนักแสดง นึกภาพตัวเองตอนนี้ออกไหม?

ต้องเป็นดารานักแสดงแน่นอนครับ เพราะจากตรงนั้นที่เราเป็นนักฟุตบอลโรงเรียนเทพศิรินทร์ กําลังจะเข้าไปประตูช้างเผือกสู่เยาวชนทีมชาติ มีวิถีชีวิตหัวเลี้ยวหัวต่อตอนอายุ 15 ปีสู่การเป็นดารา เพราะฉะนั้นอาชีพนี้มันเป็นสิ่งที่ผมเลือก เชื่อไหมว่าผมเคยสอบติดโรงเรียนเตรียมทหารกับเพื่อน 4 คน ตอนนั้นผมเลือกสละสิทธิ์ เพื่อที่จะมาประกอบอาชีพนักแสดง ถ้าไม่สละสิทธิ์ในวันนั้นผมก็คงเลือกเรียนนายร้อยตํารวจแน่นอน ตอนนี้เพื่อนๆ ที่สอบติดด้วย กันได้เป็นนายพลไปแล้ว เพื่อนๆ ก็ถามผมทุกวันว่าทําไมถึงสละสิทธิ์ ก็ได้แต่ตอบไปว่าผมเลือกที่จะทําและอยากจะทําให้มันสุด

เคยหลงใหลในชื่อเสียงของตัวเองไหม?

แน่นอนครับผมเคยเป็นอย่างที่คุณถาม คําว่าหลงใหลมันสามารถเกิดได้ทุกคน แต่สิ่งสําคัญคือเมื่อมีคนทักหรือสะกิด เมื่อเราหันกลับไปดูเราจะเห็นตัวเอง ถ้าเราเห็นตัวเองแล้วกลับมาได้ก็ถือเป็นเรื่องดี แต่ถ้าไม่ได้ล่ะ? ก็คงต้องหลงไปกับชื่อเสียงต่างๆ จนมันหมดไป บอกตรงๆ ว่าผมเคยเกือบจะหลุดลอยไปกับชื่อเสียง แต่โชคดีที่ผมกลับมาได้ก่อน

มันมีเหตุการณ์หนึ่งที่ผมอยากจะเล่าให้ฟัง คือผมเคยขับรถที่เชียงใหม่ไปเติมน้ํามัน เจอเด็กขี่มอไซต์จอดรถวิ่งเข้ามากอดและบอกผมว่า “โหพี่โคตรไอดอลเลย พี่เป็นแบดไอดอลสําหรับผมเลย” ไอ่คําว่าแบด

ไอดอลนี่คือเด็กกําลังจะเดินตามเราในทางที่ไม่ดี วันนั้นผมกลับมาบ้านนอนไม่หลับทั้งคืน มันรู้สึกว่าไม่ใช่แล้วถ้าหากผมเดินทางนั้นต่อไป ผมจะเป็นไอดอลในทางไม่ดีไม่ได้ ผมถูกสอนมาว่าไม่ควรเป็นคนรกโลก เพราะฉะนั้นผมก็จะต้องเป็นตัวอย่างที่ดีให้ได้ เด็กๆ ต้องมองผมในมุมใหม่ไม่ใช่ในมุมมองแย่ๆ ถ้าวันนั้นผมคิดไม่ได้วันนี้ผมไม่ติดคุกก็คงตายไปแล้ว อันนี้ไม่ได้คุยโม้โอ้อวดนะ

 

สุดท้ายบอกเราหน่อยว่าการเป็นผู้ชายให้เป็นของคุณควรเป็นแบบไหน?

คติพจน์ประจําโรงเรียนเทพศิรินทร์ที่ผมเรียนมาน่าจะเป็นคําตอบของคําถามนี้ได้เป็นอย่างดี “น สิยา โลกวฑฺฒโน” แปลว่า ไม่ควรเป็นคนรกโลก มันเป็นคําสั้นๆ แต่ได้ใจความครบถ้วนครับ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook