“ช่วยกันต่อเเขนต่อขา” เผยเคล็ดลับมีเซ็กส์ขณะแฟนสาวตั้งครรภ์ ทำแล้วปลอดภัยแน่นอน!

เขาว่าคนเรานั้นมีเซ็กซ์กันเพื่อวัตถุประสงค์ 2 อย่างเท่านั้นคือ “เพื่อการเจริญพันธุ์” และ “เพื่อความสุขสมร่วมกัน” และผู้เชี่ยวชาญทางเพศยังกล่าวตรงกันอีกว่า คู่รักคู่ครองที่มีเซ็กซ์กันอย่างสุขสมสม่ำเสมอนั้น จะมีชีวิตคู่ที่ยืนยาวและเป็นสุข แถมยังมีสุขภาพดีและมีอายุยืนยาวด้วย

ในฐานะที่ทำงานเกี่ยวข้องกับการเจริญพันธุ์มาเนิ่นนาน ก็ขอเสริมว่า คู่ที่มีเซ็กซ์กันอย่างสุขสมนั้นยังมีโอกาสที่จะเกิดการตั้งครรภ์ที่มีคุณภาพมากกว่าคู่ที่มีเซ็กซ์กันแบบขอไปที หรือแบบทำการบ้านที่ต้องทำตามหน้าที่

แสดงให้เห็นความสำคัญของการมีเซ็กซ์ที่สุขสมอันเป็นพื้นฐานของการครองรักครองเรือน

แต่เมื่อเธอคนนั้นเกิดการตั้งครรภ์ขึ้น…

“ตัวเองอย่ามีอะไรกันเลยนะ เขากลัว เพื่อนบอกว่ามีเซ็กซ์ตอนตั้งครรภ์อ่อนๆ แบบนี้แท้งง่ายนะ รอไว้คลอดลูกก่อนดีไหม”

“มีคนเขาบอกว่าถ้ามีเซ็กซ์กันแล้วจะทำให้ลูกของเราพิการนะคุณ อย่ามีเลยจะดีกว่า”

“คุณหมอขา รบกวนช่วยเขียนใบรับรองแพทย์ให้คุณสามีได้ไหมคะ ห้ามไม่ให้เขามีอะไรกับดิฉันระหว่างตั้งครรภ์น่ะค่ะ กลัวค่ะ กลัวเป็นอะไรไป”

“มีเซ็กซ์กันตอนที่ตั้งครรภ์มันปลอดภัยจริงไหมครับ และจะมีเซ็กซ์กันท่าไหนดี ผมอยากรู้… คือว่าอยากมี แต่กลัวว่าจะกระทบกระเทือนลูกในครรภ์น่ะครับ”

คำถามที่กล่าวมาข้างต้นนั้นเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ความหวานแหววของบทพิศวาสขาดหายไปในระหว่างการตั้งครรภ์ ทั้งๆ ที่การมีเซ็กซ์ในระหว่างการตั้งครรภ์นั้นมีคุณอนันต์ต่อทั้งสัมพันธภาพในชีวิตคู่ และยังทำให้การตั้งครรภ์มีการพัฒนาการของทารกในครรภ์ดีขึ้นด้วย แน่นอนมีแพทย์บางท่านยืนยันว่าผู้หญิงที่มีเซ็กซ์กันเป็นประจำสม่ำเสมอกับคู่ของเธอนั้น สามารถที่จะคลอดบุตรทางช่องคลอดได้ง่ายกว่าผู้หญิงที่ไม่มีเซ็กซ์ระหว่างตั้งครรภ์ด้วย

แต่การจะมีเซ็กซ์กันได้ในระหว่างที่ฝ่ายหญิงเกิดการตั้งครรภ์นั้น ไม่ใช่ว่าจะมีได้ทุกคู่เสมอไป ข้อห้ามก็มีบ้างเหมือนกัน

 ข้อห้ามที่ห้ามการมีเซ็กซ์ระหว่างการตั้งครรภ์

ที่จริงแล้วการมีเซ็กซ์กันระหว่างชายหญิงนั้นเป็นการบอกรักด้วยภาษากายที่จับต้องได้ผ่านการเคลื่อนไหวที่ประสานสอดคล้องกันเป็นจังหวะจะโคน โดยที่มีการสัมผัสของผิวกายของกันและกันเพื่อที่จะถ่ายทอดความรักความห่วงหาอาทรให้กันและกันจนกระทั่งเกิดความสุขสมร่วมกัน

เซ็กซ์ไม่ใช้การใส่อวัยวะส่วนนั้นของผู้ชายเข้าไปภายในส่วนนั้นของผู้หญิง เซ็กซ์เป็นการบอกรักด้วยภาษากายที่สามารถใช้อวัยวะส่วนอื่นของร่างกายเพื่อที่จะมอบความสุขให้กันและกันได้

แต่ถ้าจะมีการร่วมรักแบบเต็มรูปแบบที่มีการสอดผ่านเข้าไปในอวัยวะของกันและกันแล้ว ข้อห้ามต่อไปนี้ต้องยึดถือคือ…

มารดาตั้งครรภ์ที่มีภาวะต่อไปนี้ห้ามมีเซ็กซ์ที่มีการสอดอวัยวะเพศชายเข้าไปภายในช่องคลอดของฝ่ายหญิง

1.มีประวัติการแท้งบุตรในครรภ์ก่อนที่ไม่พบสาเหตุ

2. มีเลือดออกทางช่องคลอดผิดปกติในระหว่างการตั้งครรภ์ที่ไม่พบสาเหตุ

3. ทารกในครรภ์อยู่ในท่าผิดปกติ เช่นท่าขวางหรือเท่าก้น

4. มารดาตั้งครรภ์มีโรคทางกายที่ห้ามการมีเซ็กซ์ เช่น เป็นโรคหัวใจที่เริ่มมีอาการของหัวใจวายระยะแรกเริ่ม มีอาการของโรคลมชัก ฯลฯ รวมทั้งแพทย์ห้ามการมีเพศสัมพันธ์ในระหว่างการตั้งครรภ์จากสาเหตุด้านสุขภาพอื่นๆ

5. มีภาวะรกเกาะต่ำที่อาจทำให้เกิดการตกเลือดเมื่อได้รับการกระทบกระเทือน

ถ้าไม่ได้มีภาวะกรณีดังกล่าวมาข้างต้นนั้น เชิญตามสบายไม่ต้องกังวล

สรุปว่าถ้าไม่มีข้อห้ามแล้วการมีเซ็กซ์ในระหว่างที่ผู้หญิงเกิดการตั้งครรภ์นั้นไม่มีข้อห้ามใดๆ และสามารถมีได้ตั้งแต่ตั้งครรภ์อ่อนๆ ไปจนถึงระยะเวลาใกล้คลอดเลยทีเดียว

มีเซ็กซ์แบบใด…ท่าไหนดี
ปัญหาที่ทุกคนต้องการคำตอบก็คือ แล้วจะมีเซ็กซ์กันแบบไหน ต้องมีการปรับเปลี่ยนท่าทางหรือไม่เมื่อท้องของภรรยาขยายใหญ่ขึ้น

คำตอบก็คือ ช่วงของการเล้าโลมหรือที่เรียกกันว่า Foreplay นั้น สามารถที่จะกระทำได้ดังใจฉัน ไม่ว่าจะเป็นการทำออรัลเซ็กซ์ การใช้มือลูบไล้สัมผัสอวัยวะส่วนนั้นของกันและกัน หรือจะใช้อุปกรณ์ภายนอกอะไรที่ไม่ได้เป็นการกระเทือนภายในจุดซ่อนเร้นก็เป็นที่ยอมรับได้

ผู้ชายบางคนกลัวที่จะสอดผ่านอวัยวะของเขาเข้าไปกระทบกระเทือนภายใน ก็สามารถที่จะทำออรัลเซ็กซ์ให้ภรรยาที่ตั้งครรภ์ให้มีความสุขได้ และเธอก็อาจจะกระทำกลับคืนมาให้ได้เช่นกัน การร่วมรักในกระบวนท่าที่เรียกว่า Sixty Nine นั้นก็เป็นการมอบความสุขสมให้กันและกันโดยไม่มีการสอดผ่านเข้าไปภายใน ซึ่งการร่วมรักกันแบบนี้สามารถที่จะมีได้อย่างสบายใจในระหว่างที่เกิดการตั้งครรภ์เลยทีเดียว

และเมื่อถึง “อาหารจานหลัก” ที่หลายคู่ก็ยังคงต้องการที่จะร่วมรักเต็มรูปแบบในระหว่างการตั้งครรภ์นั้นก็มีข้อแนะนำว่า การร่วมรักที่มีการสอดผ่านของอวัยวะในกันและกันนั้นต้องใช้หลักการว่า “ห้ามไม่ให้อวัยวะของฝ่ายชายสอดผ่านเข้าไปลึกนัก” และ “ไม่ควรที่จะมีการใช้น้ำหนักกดทับที่หน้าท้องของฝ่ายหญิง” ทั้ง 2 หลักการนั้นถ้ายึดถือได้ดี การร่วมรักที่เต็มรูปแบบก็จะเกิดความสุขสมและผูกพันต่อเนื่องยาวนาน

คงต้องปุจฉา…วิสัชนาต่อว่า แล้วจากหลักการนั้น สามารถที่จะขยายความเป็นภาคปฏิบัติได้อย่างไร คำตอบก็คือ ท่าต่อไปนี้เป็นท่ามาตรฐานของการร่วมรักในระหว่างที่หวานใจตั้งท้อง

1. ท่า “ช้อนส้อม” หรือ “Spoon and Fork” ลองนึกถึงช้อนส้อมที่วางซ้อนกันแล้ววางตะแคงข้าง ก็จะเป็นการสอดประสานกันได้เป็นอย่างดี ในท่านี้ผู้ชายควรจะนอนตะแคงตัวอยู่ทางด้านหลังของฝ่ายหญิงแล้วปฏิบัติการอันสุนทรีย์ ในท่วงท่านี้อวัยวะของฝ่ายชายจะไม่รุกล้ำเข้าไปลึกมากนักจึงไม่กระทบกระเทือนต่อปากมดลูกภายใน แต่ก็ยังคงให้ความรู้สึกสัมผัสที่อบอุ่นชุ่มชื้นและกระชับในกันและกันได้ดีดังเดิม และเป็นท่วงท่าที่ไม่มีการกดทับหน้าท้องด้วย

2. ท่าที่ใช้ขอบเตียงช่วยโดยที่ฝ่ายหญิงรอพร้อมที่จะรองรับการปฏิบัติการโดยนอนหงายติดขอบเตียง แล้วฝ่ายชายก็สามารถที่จะปฏิบัติการได้โดยไม่กระแทกและกดทับหน้าท้องของฝ่ายหญิง ในท่าแบบนี้สามารถที่จะมีกิจกรรมกันได้ต่อเนื่องจนกระทั่งใกล้คลอดเลยทีเดียว

3. T Position เป็นท่วงท่าของการร่วมรักที่มีลักษณะเหมือนตัว T โดยที่ฝ่ายหญิงนอนชันขาพิงพนักเตียง แล้วฝ่ายชายนอนตะแคงข้างเพื่อที่จะสอดผ่านความเป็นชายเข้าไปสัมผัสรักภายในส่วนล้ำลึกของเธอโดยที่ไม่ได้มีการกดน้ำหนักลงบนหน้าท้อง แบบนี้ก็สะดวกดี และเป็นการผ่อนคลายด้วยกันทั้งสองฝ่าย

บ่อยแค่ไหนก็ได้ ถ้าใจปรารถนา

การมีสัมพันธ์สวาทของชาย-หญิงที่กำลังจะเป็นพ่อคนและแม่คนนั้น เป็นความปรารถนาที่เกิดจากใจที่ตรงกันและไม่มีอุปสรรคใดมากางกั้น จำนวนคงไม่สำคัญเท่ากับคุณภาพของการร่วมรักที่จะถ่ายทอดบอกรักให้แก่กันผ่านการสัมผัสทางกายที่แสนวาบหวาม ดังนั้นจะบ่อยแค่ไหน ก็ตามแต่ใจปรารถนาเถิด

เป็นการบอกรักต่อหน้าพยานรักที่อยู่ภายใน…