10 อาหารเพิ่มปริมาณอสุจิ
เมื่อถึงเวลาที่อยากจะมีลูก หลังพยายามแล้วพยายามอีก ก็ยังไม่มีวี่แวว หนุ่ม ๆ ก็คงมาคิดเรื่องเจ้าเชื้ออสุจิกันว่า เราเชื้อแข็งแรงหรือเปล่า ปริมาณของพวกมันเพียงพอไหม แค่ไหนถึงจะจัดว่าอยู่ระดับปกติ ผู้เชี่ยวชาญบอกว่า โดยทั่ว ๆ ไปจำนวนอสุจิ หรือที่เรียกว่า Sperm count นั้น จะอยู่ในระหว่าง 15 ล้าน ถึงมากกว่า 200 ตัว ต่อน้ำอสุจิ 1 มิลลิลิตร แน่นอนว่า ในการหลั่งแต่ละครั้งก็มากโขอยู่ แต่ทั้งนี้ หากใครที่มี Sperm count น้อยกว่า 15 ล้านตัว ต่อน้ำอสุจิ 1 มิลลิลิตร หรือน้อยกว่า 39 ล้านตัวต่อหนึ่งการหลั่ง ก็ถือว่ามีน้อย
อย่างไรก็ตาม การมี Sperm count น้อยนั้น ไม่ได้หมายความว่าคุณบกพร่องต่อภาวะการเจริญพันธุ์ เพราะผู้ชายจำนวนไม่น้อยที่เป็นเช่นนี้ แต่ก็สามารถมีลูกได้ Dr. Seth Cohen ผู้ช่วยศาสตราจารย์ของ Urology and OBGYN จากศูนย์การแพทย์ NYU Langone บอกว่า ถ้าคุณพยายามแล้ว แต่ไม่สำเร็จก็ยังไม่ต้องรีบไปนับจำนวนอสุจิ เพราะนั้นยิ่งทำให้เครียด ทางที่ดี ควรดูแลสุขภาพ และรับประทานอาหารที่ถูกต้อง การที่เรามีสุขภาพดี และรับประทานอาหารที่ดี ก็ทำให้อสุจิของเราแข็งแรงขึ้นด้วย และอาหารทั้ง 10 ชนิดต่อไปนี้ นับว่าเหมาะอย่างยิ่ง ที่จะช่วยเพิ่มปริมาณ และทำให้อสุจิแข็งแรง
หอยนางรม : หลาย ๆ คนทราบกันมาแล้วว่า หอยนางรมนั้นช่วยกระตุ้นอารมณ์เพศ แต่ไม่ใช่เพียงแค่นั้น หอยนางรมมีธาตุซิงค์ ที่ช่วยเพิ่มการผลิตอสุจิ และเพิ่มโอกาสให้อสุจิ สามารถเข้าไปผสมกับไข่ผู้หญิงได้ ธาตุซิงค์นี้ ยังมีส่วนเกี่ยวข้องกับระบบการหลั่งน้ำอสุจิอีกด้วย ทำให้อสุจิรอดอยู่ได้นานขึ้น หอยนางรมนี้เหมาะทั้งสำหรับชายและหญิง เพราะมีโปรตีนสูง มีวิตามินทั้งดี ซี และบี 12 นอกจากนั้นยังมีธาตุเหล็ก ทองแดง และเซเลเนียมอีกด้วย
ไข่ : ส่วนใหญ่เราก็รับประทานไข่กันเป็นประจำอยู่แล้ว โดยเฉพาะคนที่ต้องการสร้างกล้ามเนื้อ ยิ่งไปกว่านั้น ไข่ ยังเป็นสิ่งที่สำคัญต่อการมีลูกอีกด้วย ไข่นั้นอุดมไปด้วยโปรตีน และยังมีวิตามินอี ช่วยบำรุงรักษาเนื้อเยื่อของลูกอัณฑะไม่ให้เสื่อม รวมทั้งยังเพิ่มปริมาณอสุจิ เสริมศักยภาพของภาวะเจริญพันธุ์
มะเขือเทศ : มะเขือเทศสีแดงสดนั้นนอกจากจะทำให้จานอาหารของเราดูสวยงามน่ารับประทานแล้ว ยังมีไลโคปีน ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้การการเจริญพันธุ์ และยังมีการศึกษาพบว่า ไลโคปีนนั้นช่วยเพิ่มจำนวนเชื้ออสุจิได้ถึง 70 เปอร์เซนต์ ทำให้ตัวอสุจิว่ายเร็วขึ้น ลดปริมาณอสุจิที่ไม่ปกติ และยังลดความเสี่ยงของมะเร็งต่อมลูกหมากได้อีกด้วย
ดาร์คช็อคโกแล็ต : หลายคนคงเคยได้ยินคำกล่าวที่ว่า ผลเบอรี่ยิ่งมีสีเข้มมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งมีรสหวาน ดาร์คช็อคโกแล็ตก็เช่นกัน ยิ่งเข้ม ยิ่งมีประโยชน์ มีการพิสูจน์แล้วว่า การรับประทานดาร์คช็อคโกแล็ตนั้น ช่วยเพิ่มปริมาณน้ำอสุจิที่หลั่งออกมาให้มากขึ้น ตัวอสุจิก็ว่ายได้ดีขึ้น นอกจากนั้นดาร์คช็อคโกแล็ต ยังดีต่อหัวใจ ช่วยลดความเสี่ยงของโรคหัวใจได้ด้วย
แซลมอน : มีกรดไขมันโอเมก้า 3 มี DHA ซึ่งช่วยทำให้ตัวอสุจิแข็งแรงขึ้น จากการศึกษาของมหาวิทยาลัยอิลินอยด์ เมื่อปี 2012 ก็พบว่า การรับประทานดาร์คช็อคโกแล็ต ทำให้อสุจิมีหางยาวขึ้น ว่ายได้ดีขึ้น นอกจากนั้นแซมลอนยังเป็นแหล่งอาหารสำคัญที่มีทั้งโปรตีน ธาตุโปรตัสเซียม และวิตามินบี
บลูเบอรี่ : รวมทั้งผลเบอรี่อื่น ๆ อย่างราสเบอรี่ สตอเบอรี่ และแบล็คเบอรี่ ผลไม้เหล่านี้ มีวิตามินซี ซึ่งมีความสำคัญต่อการเคลื่อนไหวและสุขภาพของอสุจิ วิตามินซีช่วยสร้างกรดอะมิโน ซึ่งสำคัญต่อการผลิตอสุจิ นอกจากนั้น ยังมีไฟเบอร์ ที่ช่วยลดไขมันในเลือด แถมยังเป็นผลไม้ที่มีรสชาติอร่อยอีกด้วย
กระเทียม : หลาย ๆ คนไม่ยอมรับประทานกระเทียมเพราะกลัวกลิ่นฉุนของมันจะติดปาก แต่ควรทราบว่า มันเป็นสุดยอดอาหารที่มีทั้งเซเลเนียม และวิตามินบี 6 ที่ช่วยทำให้อสุจิมีสุขภาพแข็งแรง ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้กับการไหลเวียนของเลือด และแน่นอนว่า เลือดจะไปเลี้ยงบริเวณอวัยวะเพศได้ดี ทำให้การหลั่งออกไปนั้น ดีและมีประสิทธิภาพด้วยเช่นกัน
ถั่ว : ถั่วต่าง ๆ รวมไปถึงเมล็ดฟักทอง ช่วยให้ผู้ชายมีความสมบูรณ์ในภาวะการเจริญพันธุ์ ถั่วอย่างพวกอัลมอน และวอลนัท มี แอล-อาจินินล์ ที่ช่วยในการผลิตอสุจิ ไม่เพียงแค่นั้น ยังมีโปรตีน โอเมก้า 3 ซิงค์ และวิตามินอี ซึ่งช่วยทั้งเรื่องปริมาณและสุขภาพของอสุจิ
เนื้อวัว : ในช่วงที่ต้องการจะมีลูก เนื้อวัวนั้นเป็นอาหารที่ไม่น่าพลาด เพราะช่วยทั้งในเรื่องของการผลิตอสุจิ และการทำให้อสุจิแข็งแรง มีการศึกษาจาก European Academy of Andrology พบว่า ผู้ชายที่รับประทานเนื้อวัว อสุจิมีความเข้มข้น และมีการเคลื่อนไหวที่ดีด้วย
น้ำ : สิ่งสุดท้ายที่ขาดไม่ได้เลย และมีความสำคัญที่สุดก็คือน้ำ น้ำช่วยเราได้ตั้งแต่การลดน้ำหนัก เพิ่มประสิทธิภาพให้ระบบภูมิคุ้มกัน ช่วยรักษาอาการปากแห้ง ช่วยป้องกันภาวะขาดน้ำ และที่สำคัญ ช่วยในการผลิตอสุจิ ดังนั้น ถ้าหากต้องการให้โอกาสในการมีลูกสำเร็จมากขึ้น ก็ต้องไม่ขาดน้ำ