ซิกแพ็คไม่ได้สร้างในยิม แต่สร้างในครัว
“ซิกแพ็คไม่ได้สร้างในยิมแต่สร้างในครัว” คำพูดนี้ไม่ได้หมายความว่าให้คุณไปออกกำลังกายในห้องครัวแต่อย่างใด แต่หมายความว่าการกินอาหารในแต่ละมื้อนั้นไม่ได้สำคัญน้อยไปกว่าการออกกำลังในยิมเลย
แน่นอนว่า การออกกำลังกายเป็นประจำจะช่วยทำให้กล้ามเนื้อกระชับเข้าที่ และระบบเผาผลาญทำงานได้ดีขึ้น แต่การเลือกกินอาหารที่ดี และมีประโยชน์ก็เป็นอีกตัวแปรสำคัญ ที่จะทำให้การไดเอทของคุณเห็นผลชัดมากขึ้นนั่นเอง ดังนั้น ลองมาดู 9 กฎเหล็กช่วยลดพุงจากเทรนเนอร์มืออาชีพกัน
1. คาร์โบไฮเดรตไม่ใช่ศัตรู
สำหรับหลายคนที่มองหาทางลัดในการลดน้ำหนัก วิธีที่ง่ายที่สุดคือตัดเจ้าคาร์โบไฮเดรตตัวร้ายออกไปจากชีวิต และเน้นการกินโปรตีนที่เปรียบเสมือนฮีโร่แห่งวงการลดน้ำหนักแทน แต่การที่เรากินคาร์โบไฮเดรตน้อยเกินกว่าสัดส่วนที่ร่างกายควรได้รับ มันยิ่งทำให้เราลดน้ำหนักได้ช้ากว่าที่ควรด้วยซ้ำ เลิกรังเกียจแป้ง และลองเปลี่ยนจากแป้งขาวมาทานข้าวกล้อง หรือพวกขนมปังโฮลวีทแทน เป็นทางเลือกที่ดีกว่าแถมทำให้อิ่มท้องได้นานขึ้นด้วย
2. เลือกแหล่งที่มาของโปรตีน
ความคิดที่ว่าโปรตีนจากไหนก็เหมือนกันทั้งนั้นนับเป็นอีกหนึ่งเรื่องที่ใครหลายคนเข้าใจผิด ความจริงแล้วแหล่งที่มาของโปรตีนก็เป็นเรื่องที่ควรใส่ใจ เพราะถ้าเราเลือกกินแต่เนื้อแดง เช่น เนื้อหมู เบค่อน แฮม อาหารเหล่านี้แม้จะได้โปรตีนก็จริง แต่สิ่งที่พ่วงมาด้วยก็คือ ไขมัน แนะนำให้เปลี่ยนมากินเนื้อสัตว์สีขาวอย่าง เนื้อไก่ ปลา หรือไข่ขาว เพราะมีไขมัน และแคลอรีน้อยกว่านั่นเอง
3. การวางแผนมื้ออาหารคือหัวใจสำคัญ
หาไวท์บอร์ดหรือสมุดสัักเล่มไว้จดแผนการกินอาหารสำหรับทั้งอาทิตย์ลงไป ตั้งแต่มื้อเช้า กลางวัน และเย็นของแต่ละวัน เพื่อที่จะได้รู้วันหนึ่งคุณทานอะไรไปเท่าไหร่ โปรตีนพอมั้ย กินแป้งเยอะไปหรือเปล่า ถึงแม้จะดูยุ่งยากไปสักหน่อย แต่ถ้าวางแผนดีๆ คุณอาจจะมีที่ว่างพอสำหรับขนมขบเคี้ยวระหว่างมื้อด้วย แต่สิ่งสำคัญที่สุดก็คือ มันจะช่วยคุณ
ประหยัดเวลา เพราะไม่ต้องไปมัวแต่เปิดตู้เย็นแล้วยืนจ้องบรรดาของสดในตู้พร้อมกับคิดว่าวันนี้จะทำอะไรกินดี
4. เพิ่มปริมาณผัก
สัปดาห์แรกของการไดเอทอาจจะเป็นสัปดาห์แห่งความทรมานของใครหลายๆ คน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในมื้อเย็นที่คุณต้องลดปริมาณแป้ง ทางเลือกที่ดีที่สุดคือการเพิ่มปริมาณผักลงในจานข้าวผักหลายอย่างสามารถทำให้อิ่มท้องได้โดยไม่เพิ่มปริมาณแคลอรีมากนัก เช่น บร็อคโคลี แครอท และผักโขม
5. เพิ่มรสด้วยสมุนไพรจากธรรมชาติ
จากข้อที่แล้วที่บอกให้เพิ่มปริมาณผักลงไปในมื้ออาหาร มันจะยิ่งดีมากขึ้นไปอีกถ้าคุณปรุงรสโดยไม่เพิ่มรสชาติสังเคราะห์จากพวกผงปรุงรสมากนัก การมีพวกเครื่องเทศต่างๆ เก็บไว้ติดบ้านก็เป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจ เพราะทำให้อาหารรสชาติดีได้โดยไม่ต้องปรุงรสจัดสมุนไพรบางอย่างก็ทำให้อิ่มท้องนานและช่วยเรื่องระบบลำไส้ด้วยไม่ว่าจะเป็นพริกไทย กระเทียม ขิง ผักชี หรือสะระแหน่
6. หิวบ่อยไม่ใช่เรื่องคอขาดบาดตาย
ความหิวคือกลไกปกติของร่างกาย ไม่ใช่เรื่องอันตรายร้ายแรงแต่อย่างใด การที่หิวบ่อยแปลว่าระบบย่อยของคุณยังทำงานได้ดีอยู่ อดอาหารถือเป็นทางเลือกที่ไม่ดีนักเพราะจะทำให้คุณอยู่ในช่วงของการไดเอทได้ไม่นานเนื่องจากความทรมานที่ต้องทนหิว กินเมื่อหิวแต่อย่าตามใจปากจนเกินไป
7. ใครบอกว่าไดเอทแล้วกินขนมไม่ได้
แน่นอน คุณกินขนมได้ แต่ไม่ใช่มันฝรั่งทอดหรือขนมขบเคี้ยวที่เต็มไปด้วยน้ำมันและโซเดียม ของกินเล่นแก้เบื่อระหว่างมื้อที่คุณควรมีไว้ใกล้ๆ มือหรือบนโต๊ะทำงานก็คืออัลมอนด์หรือวอลนัทสักหนึ่งกำมือ ถ้าเป็นสาวสายหวาน ลองเป็นเค้กสูตรโลว์แฟต หวานน้อย นานๆ ครั้งก็ไม่แย่เท่าไหร่นะ
8. น้ำคือเพื่อน
ร่างกายคนเราต้องการน้ำ 7-8 แก้วต่อวัน เพื่อชดเชยการเสียน้ำจากกิจวัตรต่างๆ การดื่มน้ำให้เพียงพอในแต่ละวันจึงถือเป็นเรื่องสำคัญมากที่จะทำให้ร่างกายคุณไม่เข้าสู่ภาวะขาดแคลนน้ำ และช่วยลดความอยากอาหารได้อีกด้วย หากเบื่อการดื่มน้ำเปล่า พวกชาสมุนไพรที่ไม่เติมน้ำตาลก็เป็นอีกทางเลือก
9. นึกไว้เสมอว่าเริ่มไดเอทเพราะอะไร
มันง่ายมากที่จะเบื่อหน่ายกับการทำอะไรที่มันไม่สนุกเอาซะเลยอย่างการไดเอท เพราะฉะนั้นพึงระลึกไว้เสมอว่าในตอนแรกคุณเริ่มทำมันเพราะอะไร และทำเพื่ออะไร พยายามสร้างแรงจูงใจที่ดีให้ตัวเอง อย่างเช่น เลิกนิสัยซ่อนขนมไว้ตามมุมเล็กมุมน้อยในบ้าน หาคำพูดเด็ดๆ สร้างแรงบันดาลใจ หรือหารูปนายแบบนางแบบสุดฮอตสักคนมาเป็นเป้าหมายในการสร้างหุ่นให้ได้อย่างพวกเขา ไม่แปลกหรอกถ้าจะตั้งความหวังซะสูง ใครบ้างไม่อยากหุ่นดี จริงมั้ย?