1 ปี กับการเปลี่ยนแปลงตัวเอง จากหนุ่มอ้วนสุขภาพแย่ สู่หนุ่มหล่อสุขภาพดี

1 ปี กับการเปลี่ยนแปลงตัวเอง จากหนุ่มอ้วนสุขภาพแย่ สู่หนุ่มหล่อสุขภาพดี

1 ปี กับการเปลี่ยนแปลงตัวเอง จากหนุ่มอ้วนสุขภาพแย่ สู่หนุ่มหล่อสุขภาพดี
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

วันนี้ Sanook!Men มีแรงบันดาลใจในการลดน้ำหนักมาฝากอีกแล้ว คราวนี้เป็นคิวของหนุ่มหล่อวัย 25 ปี นามว่า มอส หนุ่มคนนี้ใช้เวลา 1 ปีเปลี่ยนตัวเองใหม่ทั้งการกินอาหาร และการออกกำลังกาย ไปดูผลลัพธ์กันครับว่าจะเปลี่ยนไปแค่ไหม

หนุ่มมอสเล่าถึงสาเหตุของความอ้วนว่า ตอนเรียนอนุบาลจำได้เลยว่าพี่เลี้ยงจะไปรับทุกเย็นจะต้องแวะซื้อของกินกลับบ้านทุกวันและของโปรดนั้นคือ คอหมูย่าง กับขนมโตเกียวไส้กรอก กินแบบนี้แทบทุกวันตั้งแต่อนุบาลแล้วที่ขาดไม่ได้อีกอย่างคือ น้ำอัดลมแช่เย็น แช่จนเป็นน้ำแข็งแล้วเอามาแคะกินนี้ละชีวิตเด็กอ้วนอนุบาล พอเข้าประถมก็ไปพบกับแสงสว่างได้เงินไปซื้อขนมเองทุกเย็นก่อนบ้านจะแวะร้านขนม ชื่อร้านป้าเจ๊ จะซื้อขนมทุกอย่างที่มีในร้าน กินหมูปิ้งที่ 20 ไม้ข้าวเหนียว 2 ห่อ กินไก่ทอดไม้ 5 ไม้ ข้าวกล่องราดข้าว 3 อย่าง กินแบบนี้แทบทุกวันหลังเลิกเรียน

พอเข้ามัธยม ก็ได้เจอ กับข้าวป้าเป้า กับ เจ๊นก กินทุกวัน เป็นร้านกับข้าวราดแกงที่อุดมไปด้วยแร่ธาตุที่สำคัญคือน้ำมัน กินทุกเมนูโปรดคือ ซีกิ ซีกิคือ (ไก่ทอดกรอบ) แล้วต้องมีท็อปปิ้งเสริมคือบวกด้วยผัดกระเพรา เบคอน บวกหมูยอ กินแบบนี้ตลอด พอเลิกเรียนก็ต้องกิน ส้มต้ม+ไก่ทอด อย่า งง ว่าส้มตำไก่ทอด อ้วนได้ไง เพาระไก่ทอกที่นี่ทอดเสร็จจะราดด้วยน้ำเชื่อม อ้วนไหมละ

พอเข้ามหาลัย ก็ว่าจะลดน้ำหนักเพราะอยากมีความรัก อิอิ แต่แล้ว ก็ไม่ลดเสือกกับอ้วนกว่าเดิมอีก กินข้าวขาหมูทุกวัน ทุกเช้า มือกลางวัน ข้าวราดแกง 5 อย่าง+ต้มยำรวม แล้วที่ขาดไม่ได้ทุกมื้อจะมีน้ำอัดลมด้วยเสมอกินแทนน้ำเปล่าเลยก็ว่าได้ แล้วกินข้าวทุกอย่างต้องดีที่สุด นั้นคือทุกอย่าง ต้องพิเศษจะกินอะไรก็แล้วแต่ทุกอย่างต้องสั่งพิเศษ ไมว่าจะข้าวตามสั่ง ก๋วยเตี๋ยว สเต็ก ข้าวราดแกง ไม่เว้นแต่ โจ๊ก 555 ทำแบบนี้มาตลอด

ตอนนั้นรู้สึกมีความสุขกับการกินมาก ใครห้ามก็ไม่ฟัง จนรู้สึกว่าตัวเองปกติจนรู้สึกว่าไม่ปกติต้องไปซื้อกางเกงยีนต์กับเพื่อนที่มหาลัย อย่างแต่ตัวเท่ห์เหมืนคนอื่นเค้าบ้างแต่พีคที่สุดคือไม่มี การเกงยีนต์ไซส์ตัวเอง555เพราะตอนนั้นเอว42 กางเกงสวยเอวเต็มที่ก็38 รู้สึกถึงความพิการของตัวเอง ไม่เคยมีเสื้อยึดใส่ไม่เคยใส่เสื้อคอวี ใส่แต่เสื้อเชิ๊ต เสื้อโปโล ถามว่าทำไมถึงใส่แต่แบบนั้น บอกเลยเพาะปกปิดปมด้อยของตัวเองคือ คอดำ

คนอ้วนส่วนใหญ่จะคอดำเพาะเกินจากการกินของที่มีความหวานเยอะจนทำให้เซลผิวหนังที่คอผิดปกติ นั้นคือความอัปยศของชีวิตสุดละ จนเรียนจบ น้ำหนักก็ยิ่งเพิ่มขึ้นจนถึง140กิโล แล้วก็เอาอีกว่าจะลดอีกก่อนรับปริญญา แต่จนได้กลายเป็น155โลใส่กางเกงเอว46 (ปัจจุบันเอว32) อิอิ จีบหญิง นี้อย่าให้พูดถึงไม่เคยติดเลยแถมโดนหลอกอีก  ชีวิตเด็กอ้วนฝัดและแล้วชีวิตมาถึงทางออกละมอสแล้วก็เจอแสงสว่างปลายอุโมงค์ได้รู้จักกับพี่ Chirasak Banyaem ขอบคุณนะครับพี่ และที่สำคัญที่ อยากจะขอบคุณมันมากกคือ ใจ ตัวเอง ขอบคุณร่างกายตัวเองขอบคุณมันที่อดทนกับเรามา1ปีเต็ม

สำหรับคนที่ถามเข้ามาว่าผมลดน้ำหนักยังไง

ผมจะตื่น 8 โมงเช้ามาคาดิโอโดยการวิ่งวันละ1ชม ให้ได้ประมาณ 400-500 แคล สำหรับคนไม่มีเวลาก็วันละครึ่งชม ให้ได้ 200-300 แคล

(ก่อนวิ่งผมจะกินกาแฟดำ 1 แก้ว)

คาร์บคือ ข้าว แนะนำเป็นข้าวกล้อง)

ควรกินให้ห่างกัน 2-3 ชม.นะครับต่อมื้อ

มื้อที่1/มื้อเช้าผมจะกินไข่ขาว 5 ไข่แดง 1+คาร์บ 80 กรัม

มื้อที่2/มื้อก่อนเที่ยงผมจะกินอกไก่ผัดกะหล่ำปลี 200 กรัม+คาร์บอีก 80 กรัม

มื้อที่3/มื้อเที่ยงผมก็จะกิน อกไก่ผัดบล็อคโคลี่อีก 200 กรัม+คาร์บอีก 80 กรัม

มื้อที่4/มื้อบ่ายผมจะกินสเต็กอกไก่ 200 กรัม+คาร์บอีก 80 กรัม

มื้อที่5/มื้อก่อน 6 โมงเย็นผมจะกินปลา 200 กรัม+ผักเท่าไรก็ได้ที่อยากกิน (แนtนำปลาดอลลี่ ทูน่า แซลมอลก็ได้)

แล้วก็มาคาดิโอโดยการวิ่งอีกครึ่งชั่วโมง

และสิ่งที่ขาดได้คือการเล่นเวท ด้วย อาทิตย์หนึ่งควร เวท ให้ได้ 3 วัน วันละ 1 ชม อย่างต่ำ ท่าเวทต่างแนะนำให้ไปหาตามเว็บดูนะครับหาในgoogleก็ได้

ผลไม้ทานได้นะครับทานปริมาณที่พอเหมาะไม่ควรกินหลัง 6 โมงเย็นปล.การปรุงอาหารควรทำโดนวิธี นึ้ง ต้ม ย่าง ไม่ควรทอด แล้วที่สำหรับห้ามใช้น้ำมันเลยเด็ดขาดและน้ำตาลห้ามโดยเด็ดขาดแนะนำให้ไปทานน้ำตาลอีคัว ถ้าอยากได้รสชาติหวาน และแนะนำให้ใช้น้ำมันมะกอกในการอาหารและที่สำคัญครึ่งปรุงควรใช้เครื่องปรุงที่ลดโซเดียมแนะนำยี่ห้อ GoodLife เพาะการที่กินเครื่องปรุงที่มีโซเดียมเยอะจะทำให้บวมน้ำ

ลองเอาไปใช้กันดูนะครับ

ที่สำคัญที่สุดอยู่ที่ตัวเองชนะมันให้ได้

ผมทำได้คุณก็ทำได้

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook