แก้ปัญหา “เท้าเหม็น” กลิ่นร้ายทำลายความเป็นชาย

แก้ปัญหา “เท้าเหม็น” กลิ่นร้ายทำลายความเป็นชาย

แก้ปัญหา “เท้าเหม็น” กลิ่นร้ายทำลายความเป็นชาย
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เข้าสู่หน้าฝนอย่างเป็นทางการแล้ว นอกจากความเปียกชื้นบนเสื้อผ้า รองเท้าก็เป็นอีกหนึ่งจุดที่ไม่ควรมองข้าม เพราะช่วงนี้หากดูแลไม่ดี ปัญหากลิ่นเท้าที่ไม่พึงประสงค์ก็อาจจะแวะเวียนเข้ามาได้ หรือหนุ่มคนไหนมีปัญหาเรื่องนี้อยู่ Sanook! Men มีวิธีดูแลพร้อมป้องกันปัญหาเพื่อไม่ให้กลิ่นเท้าเหม็นทำลายความมั่นใจและบุคลิกภาพของคุณได้

สำหรับต้นเหตุของปัญหาเกิดขึ้นได้หลายอย่าง

1. รองเท้า

รองเท้าคู่โปรดของคุณเองนี่แหละครับ เป็นอีกหนึ่งสาเหตุของกลิ่นเท้า เพราะโดยทั่วไปในวันทำงานผู้ชายมักจะใส่รองเท้าแบบหุ้มปิดหมด เช่น รองเท้าผ้าใบ หรือ รองเท้าคัชชู  ซึ่งแน่นอนว่ารองเท้าลักษณะนี้ไม่มีช่องให้ระบายอากาศ กลิ่นอับในรองเท้า ก็เลยเกิดขึ้นได้ง่าย ยิ่งอากาศร้อนๆ ชื้นๆ แบบบ้านเรายิ่งทำให้ต้องดูแลเป็นพิเศษ

แนวทางแก้ไข : หากหนุ่มๆ คนไหนทำงานออฟฟิศหรือทำงานที่สามารถเปลี่ยนรองเท้าเวลาทำงานได้ แนะนำเมื่อมาถึงที่ทำงานถอดรองเท้าแล้วเปลี่ยนใส่รองเท้าสบายๆ ที่อากาศถ่ายเทได้สะดวกจะดีกว่า หรือใครไม่สะดวกอาจจะหาซื้อเสปรย์ดับกลิ่นเท้ามาใช้ก็ได้ครับ หากวันหยุดก็นำรองเท้าไปซักและตากแดด เพียงแค่นี้ก็ช่วยเรื่องกลิ่นได้มากแล้วครับ

2. เหงื่อที่เท้า

ผู้ชายเดินเยอะเคลื่อนไหวมากจึงมีเหงื่อได้ง่าย ยิ่งสวมรองเท้าผ้าใบ หรือรองเท้าหนังแบบปิดมิดชิด ยิ่งทำให้เกิดเหงื่อที่เท้าได้ง่ายขึ้นไปอีก เมื่อกลิ่นเหงื่อผสมกลิ่นอับทำให้เกิดกลิ่นไม่พึงประสงค์ขึ้นนั่นเอง

แนวทางแก้ไข : สำหรับหนุ่มๆ ที่รู้ตัวว่าเหงื่อออกง่ายมีกลิ่นเท้าได้ง่าย ลองหาแป้งโรยเท้าโดยเฉพาะมาใช้นะครับ เพราะแป้งชนิดนี้จะดูซึมความชื้นจากเหงื่อได้ดี พร้อมกันนี้หากมีเวลาลองใช้กากกาแฟขัดเท้าดูนะครับ หรือจะแช่เท้าในน้ำอุ่นผสมน้ำส้มสายชูก็ได้ครับรับรองว่ากลิ่นจะน้อยลงมากๆ  

3. โรคเท้าเหม็น

โรคเท้าเหม็น (Pitted keratolysis) เป็นโรคของการติดเชื้อแบคทีเรียที่ผิวหนังชั้นนอกของฝ่าเท้า ทำให้มีเท้าลอกและมีกลิ่นเหม็น พบได้บ่อยในผู้ที่ใส่รองเท้าหุ้มส้นเป็นเวลานาน ทำให้มีความอับชื้น อันเอื้อให้เกิดสภาวะเหมาะสมต่อการเติบโตของเชื้อแบคทีเรีย โรคเท้าเหม็น มักไม่มีอาการคัน แต่มีเท้าลอก ผิวหนังดูชื้นแฉะ มีกลิ่นเหม็น

แนวทางแก้ไข : หากหนุ่มๆ รู้ตัวว่าอยู่ในกลุ่มที่มีแนวโน้มจะเป็นโรคนี้ ลองเข้าไปปรึกษาคุณหมอดูนะครับจะได้หาแนวทางแก้ไขปัญหาได้อย่างตรงจุด

สุดท้ายอย่าลืมรักษาความสะอาดของเท้าด้วยนะครับ เพราะถึงแม้เท้าจะเป็นอวัยวะที่อยู่ต่ำที่สุดแต่ก็มีความสำคัญไม่แพ้อวัยวะส่วนอื่น

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook