15 น้ำหอม(ฤดูร้อน)คลาสสิคตลอดกาลสำหรับผู้ชาย

ช่วงฤดูร้อน ใช่ว่าจะเป็นช่วงที่เหมาะสำหรับการเลือกซื้อกางเกงขาสั้น และครีมกันแดดเท่านั้น แต่ยังเป็นช่วงเวลาที่เหมาะมากสำหรับการซื้อน้ำหอมด้วย  ในช่วงที่มีอากาศร้อนนี้กลิ่นที่เหมาะจะเป็นกลิ่นที่ให้ความรู้สึกสะอาด สดชื่น ส่วนผสมสำหรับกลิ่นแนวนี้ จึงเป็นพวกเลมอน มากกว่าพวกกลิ่นชะมด วนิลา หรือแอมเบอร์ นอกจากนี้ ยังต้องมีส่วนผสมพิเศษ ที่ทำให้กลิ่นไม่ถูกความร้อนแล้วระเหยไปอย่างรวดเร็ว และ 15 กลิ่นต่อไปนี้ เป็นกลิ่นที่ขึ้นชื่อว่า มีความคลาสสิก เหมาะอย่างยิ่งในช่วงฤดูร้อน

Terre d’Hermès

เป็นน้ำหอมที่มีความโดดเด่นมากในช่วงระยะเวลา 10 ปีที่ผ่านมา แม้ว่าน้ำหอมและแฟชั่นจะเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว แต่กลิ่นของน้ำหอมรุ่นนี้ ก็ยังมีความพิเศษ จนคนในวงการน้ำหอมอย่าง Grant Osborne ผู้ก่อตั้ง Basenote ข้อมูลน้ำหอมออนไลน์เห็นว่า เป็นหนึ่งในสามของน้ำหอมชายทีดีที่สุด กลิ่นนี้ผสมผสานกลิ่นธรรมชาติของดิน ไม้ รวมทั้งมีความเผ็ดร้อนพริกไทยชมพู เจอเรเนียม ซีด้า หญ้า องุ่น เป็นกลิ่นที่สดชื่น แต่ก็อบอุ่น

Tom Ford Neroli Portofino

น้ำหอมของ Tom Ford กลิ่นนิ้เป็นกลิ่นที่ใช้ได้ทั้งสำหรับผู้ชายและผู้หญิง ได้มีการผสมผสานกลิ่นของมะนาว แมนดาริน เมอร์ทอล และมะลิอียิปต์เข้าไปอย่างลงตัว เป็นกลิ่นคลาสิกสำหรับฤดูร้อนที่น่าประทับใจ

Chanel Allure Homme Sport

น้ำหอมกลิ่นนี้เป็นหนึ่งในน้ำหอมขายดีติดอันดันต้น ๆ มายาวนานนับตั้งแต่เปิดตัวเมื่อ 13 ปีก่อน เป็นกลิ่นสปอร์ต ที่มีทั้งความทันสมัยและความคลาสสิก ด้วยการผสมผสานวัตถุดิบที่มีความคลาสสิกกับสิ่งใหม่ ๆ ที่มีความทันสมัย

Creed Virgin Island Water

น้ำหอมกลิ่นนี้ เป็นกลิ่นที่สามารถใช้ได้ทั้งผู้ชายและผู้หญิง เปิดตัวขึ้นมาตั้งแต่ปี 2007 โดยได้รับแรงบันดาลใจมาจากการล่องเรือใกล้ ๆ เกาะกิงเกอร์ ในทะเลคาริเบียน มีกลิ่นของไลม์ ครีมโคโค่นัท เป็นกลิ่นที่เข้ากับสภาพอากาศที่อบอุ่น

Comme des Garçons 2

น้ำหอมกลิ่นนี้ นอกจากจะประสบความสำเร็จอย่างมากแล้ว ยังอยู่เบื้องหลังความสำเร็จของ Burberry, Givenchy และ Paco Rabanne น้ำหอมกลิ่นนี้ เปิดตัวมาตั้งแต่ปี 1999 เป็นกลิ่นที่ได้สัมผัสของความเป็นแมนดาริน มีส่วนผสมของส้ม ชา และไม้แองเจลิกา

Acqua di Parma Colonia

น้ำหอมกลิ่นนี้ ได้ชื่อว่าเป็นกลิ่นที่ผู้ชายทุกคนอยากมีไว้ เป็นกลิ่นที่ได้ส่วนผสมของผลไม้ตระกูลส้ม ลาเวนเดอร์ โรสแมรี่ ไม้ซีด้า และแพชชูลี่ แบรนด์นี้ ถือเป็นแบรนด์เก่าแก่ ที่ดีที่สุด สามารถใช้ได้หลายโอกาส ในช่วงเวลาทีอากาศอบอุ่น ทั้งการท่องเที่ยว และการทำงานในเมือง

Giorgio Armani Acqua di Gio

นับว่าเป็นน้ำหอมที่ผู้ชายอยากได้เป็นของขวัญกันมาก มีทั้งกลิ่นหวานปนขม กลิ่นสดชื่นของท้องทะเล แม้ว่าจะมานานตั้งแต่ยุค 1990 แต่ยอดขายก็ยังคงดีอยู่อย่างต่อเนื่อง ส่วนผสมมีความหลากหลาย ทั้ง แพชชูลี่ โรสร็อค ไม้ซีด้า สามารถใช้ได้ทั้งกลางวันและกลางคืน 

Eau Sauvage By Christian Dior

Christian Dior ประสบความสำเร็จจากน้ำหอมกลิ่นนี้ ตั้งแต่ปี 1966 เพราะเป็นกลิ่นที่ให้ความสดชื่นอย่างน่าประหลาดใจ แต่ในขณะเดียวกันก็กลิ่นไอของความอบอุ่น ในช่วงฤดูร้อน เป็นกลิ่นควรจะต้องลอง เพราะให้ทั้งความสดชื่น เท่ และน่าประทับใจ

Versace Pour Homme

น้ำหอมกลิ่นนี้ เป็นกลิ่นอโรมา ที่ผลิตขึ้นมาตั้งแต่ปี 2008 เป็นกลิ่นที่ได้ผสมผสานความเป็นเมดิเตอร์เรเนียนลงไป และให้ความรู้สึกถึงความเชื่อมั่น

Paul Smith Sunshine

น้ำหอมของอังกฤษกลิ่นนี้ จะออกจำหน่ายในช่วงสั้น ๆ ของฤดูร้อนเท่านั้น เหมาะสำหรับการเที่ยวทะเล แต่ก็สามารถใช้ได้ในหลายสภาพอากาศ กลิ่นนี้ มีทั้งความเผ็ดร้อนของพริกไทยดำ ความสดชื่นขององุ่น และความชุ่มฉ่ำของมะเฟือง

Dolce & Gabbana Light Blue Pour Homme

นับว่าเป็นน้ำหอมที่ประสบความสำเร็จอย่างมากอีกกลิ่นหนึ่งในวงการแฟชั่น เพราะมีความลงตัวของซิสิเลี่ยนแมนดาริน เปลืององุ่น เบอร์กาม๊อท และจูนิเปอร์

Davidoff Cool Water

หากใครที่ไม่ชอบกลิ่นส้ม Davidoff Cool Water ก็เป็นทางเลือกที่ดีสำหรับหน้าร้อน และเป็นกลิ่นที่ได้รับความนิยมมานานถึง 30 ปีแล้ว เป็นกลิ่นที่ใช้มินท์ ผสมผสานกับกลิ่นของน้ำทะเล และลาเวนเดอร์ ให้ความสดชื่น

Jean Paul Gaultier Le Male

เป็นอีกหนึ่งน้ำหอมที่คลาสสิก ที่มีมาตั้งแต่ปี 1995 เป็นกลิ่นที่แสดงออกถึงความเป็นเพศชาย แต่ก็มีความอ่อนโยน มีทั้งกลิ่นอายของความเข็มแข็ง และความอ่อนไหว

Issey Miyake L’Eau d’Issey Pour Homme

น้ำหอมไม่ได้มีการแบ่งแยกว่าเป็นน้ำหอมของผู้ชาย หรือน้ำหอมของผู้หญิงมาตั้งแต่แรก ดังนั้นก็ไม่น่าจะต้องอายอะไรกับการใช้น้ำหอมที่ตีตลาดผู้หญิง โดยเฉพาะกับ Issey Miyake L’Eau d’Issey Pour Homme กลิ่นนี้มีความโดดเด่นอยู่ที่กลิ่นของส้ม และดอกไม้อย่างดอกบัวสีฟ้า และแซฟรอน เป็นอีกกลิ่นที่ผู้ชายน่าลอง

4711 Cologne

เป็นความหอมคลาสสิก ที่มีมายาวนานตั้งแต่ปี 1792 เรียกได้ว่าเป็นน้ำหอมที่มีอายุยืนที่สุด ความคลาสสิกของกลิ่นนี้ อยู่ที่กลิ่นของส้ม ผสมกับสมุนไพรอโรม่า โรสแมรี่ และลาเวนเดอร์