4 ความเชื่อเรื่องออกกำลังกายที่ผู้ชายเข้าใจผิดกันตลอดเวลา

หลายคนอาจคิดแบบนี้ หลายคนอาจเชื่อแบบนี้ แต่จริง ๆ แล้ว มันไม่ใช่!!!

ใคร ๆ ก็อยากมีรูปร่างที่สวยงามไม่ว่าจะชาย หรือหญิง นอกจากนี้การมีสุขภาพที่ดีปราศจากโรคภัยก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่เรา ๆ มนุษย์เดินดินอยากได้ แต่จะทำอย่างไรกันหนอถึงจะให้ได้มาซึ่งสิ่งที่วาดหวังไว้ทั้งสองประการ ผมว่าหลาย ๆ ท่านสามารถที่จะตอบคำถามนี้ได้อย่างฉับพลันทันที ใช่แล้ว ก็การออกกำลังกายนั่นไงหล่ะครับคือคำตอบ และแน่นอนที่สุดการออกกำลังกายโดยไร้แบบแผนอาจจะนำมาซึ่งโทษมากกว่าคุณ ดังนั้นจึงเกิดแท็คติก หรือเทคนิคในการออกกำลังกายขึ้นมามากมาย แต่ก็นั่นอีกแหละครับ ไอ้แท็คติก เทคนิค ที่มีอยู่มากมายนั้น ก็ไม่รู้ว่าอันไหนจริง อันไหนปลอม อันไหนแค่อำกันเล่น ๆ วันนี้เราขอเอาใจท่านสุภาพบุรุษเป็นพิเศษ จึงขอนำเสนอ 4 ความเชื่อแบบผิดๆ เรื่องการออกกำลังกายของท่านชาย ซึ่งความเชื่อเหล่านี้หลายคนอาจคิดว่าถูก แต่จริง ๆ แล้วมันไม่ใช่นะ...จะบอกให้

1. ยิ่งเหงื่อออกมากเท่าไหร่การเผาผลาญแคลอรี่ยิ่งมากเท่านั้น

อันนี้ไม่จริงครับ เพราะว่าเหงื่อที่ไหลซึมออกมานั้น มันเป็นเพียงระบบการระบายความร้อนของร่างกายตามปกติ ไม่เกี่ยวกับการเผาผลาญแคลอรี่แต่อย่างไร ถึงจะมีบ้างแต่ก็เป็นส่วนน้อย ยกตัวอย่างเช่น การออกกำลังกายโดยการว่ายน้ำครับ เป็นกิจกรรมที่ช่วยเผาผลาญได้ดีอีกวิธีหนึ่ง ที่สำคัญเสียเหงื่อน้อยด้วย เย็นสบายอีกต่างหาก เห็นไหมครับ จะเสียเหงื่อมาก หรือเสียเหงื่อน้อยมันไม่เกี่ยวกับการเผาผลาญแคลอรี่เลยสักนิด

2. ซิทอัพให้มากเข้าไว้เดี๋ยวกล้ามท้องก็มาเองนั่นแหละ

ถูกต้องครับ ซิทอัพ คือการทำให้กล้ามเนื้อท้องแข็งแรง ทำให้มัดกล้ามที่หน้าท้องนั้นใหญ่ขึ้น แต่ถ้าเราซิทอัพเพียงอย่างเดียว ไม่ว่าจะทำมากมายหลายร้อยหลายพันรอบ บางทีซิกแพคมันก็ไม่ขึ้นมาให้เห็นหรอก เพราะสาเหตุหลักที่ทำให้กล้ามท้องไม่มี มันคือไขมันที่พอกหนา ๆ อยู่ที่หน้าท้องนั่นไงล่ะครับ ดังนั้นการที่จะให้มีกล้ามท้องที่สวยงามนั้น ซิทอัพอย่างเดียวไม่เพียงพอ จะต้องทำอย่างอื่นควบคู่กันไปด้วย เช่น การควบคุมอาหาร , ออกกำลังกายท่าอื่น ๆ เพิ่มเติมไปด้วย ประการสำคัญคืออย่าฝืนร่างกายของตัวเองมากจนเกินไป เพียงเท่านี้กล้ามท้องของคุณก็จะนูนสวยขึ้นมาโดยไม่ต้องสิ้นเปลืองพลังงานจนเกินไป

3. เพียงแค่ยกน้ำหนักเบาๆแต่มากครั้งหน่อยเดี๋ยวกล้ามแขนก็มา

ยกไปเถิดครับเบา ๆ ยกไปเรื่อย ๆ ยกไปอีกร้อยปีกล้ามแขนก็ไม่แข็งแรง และโตขึ้นมาเพราะ ร่างกายเขาบอกว่ายังพอรับได้ ไม่จำเป็นต้องสร้างกล้ามเนื้อเพิ่มเติมแต่ประการใด ความเชื่อแบบนี้เป็นเรื่องที่เข้าใจผิดอีกข้อหนึ่ง ถ้าเราอยากได้กล้ามแขนที่แข็งแรง อยากให้มัดกล้ามเด่นชัดขึ้น จะมามัวยกเบา ๆ ไม่ได้ครับ ต้องเพิ่มน้ำหนักให้กล้ามเนื้อมีพัฒนาการสร้างเนื้อเยื่อขึ้นมาเพื่อรองรับน้ำหนักที่เพิ่มขึ้นนั้น ยิ่งถ้าเพิ่มเติมการควบคุมอาหารเข้าไปด้วยอีก ขอรับรองเลยว่าเพียงไม่นานก็จะเห็นผลในความพยายามนั้น แต่มีข้อที่ควรระวัง การฝืนร่างกายที่มากจนเกินไปอาจได้รับบาดเจ็บได้ แทนที่กล้ามจะโตขึ้นดันต้องมาเข้าเฝือกมันไม่คุ้มกันครับ...เจ้านายยย

4. ผู้ชายกล้ามโตนั่นแหละสุขภาพดี

กล้ามโตไม่ได้หมายความว่าสุขภาพจะต้องดีเสมอไปนะครับ เพราะสุขภาพที่ดีนั้นจะต้องเกิดจากภายในผสานเสริมกับภายนอก ภายในก็ประมาณว่า ระบบการหายใจ , จังหวะการเต้นของหัวใจ , การเผาผลาญพลังงาน ร่วมไปถึง ระบบขับถ่ายด้วย ส่วนภายนอกนั้นคือการมีมัดกล้ามที่แข็งแรง และความยืดหยุ่นของกล้ามเนื้อ ซึ่งทั้งหมดทั้งมวลนี้จะมาออกกำลังกายแบบเน้นสร้างกล้ามเนื้ออย่างเดียวไม่ได้ จะต้องเล่นกีฬาอย่างอื่นผสมด้วย เช่น วิ่ง , ว่ายน้ำ , ปั่นจักรยาน หรืออาจเป็นกีฬาประเภททีมเช่น ฟุตบอล อันนี้ได้ความสุขสนาน แถมสุขภาพจิตดีอีกด้วย อย่างนี้เขาถึงเรียกว่าสุขภาพดีอย่างแท้จริง

การออกกำลังกายเป็นสิ่งที่ดี ยิ่งถ้าทำอย่างถูกต้อง ถูกวิธี พัฒนาการก็จะยิ่งก้าวกระโดด หากแต่อย่ามุ่งเน้นหรือจริงจังกับมันมากจนเกินไป เพราะร่างกายของเราไม่ใช่เหล็ก หิน หรือ เครื่องยนต์ ดังนั้นการพักผ่อนที่เพียงพอก็เป็นสิ่งที่สำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าการออกกำลังกายด้วยเช่นกัน

 จะเลิกเชื่อมั้ย?