7 คำถามเปลือยตัวตน เอกกี้ เอกชัย เอื้อสังคมเศรษฐ์
ทำความรู้จักมุมมอง-ความคิด “เอกกี้ เอกชัย เอื้อสังคมเศรษฐ์ ” อดีตสมาชิกบอยแบนด์รุ่นบุกเบิก UHT พิธีกรและดีเจมากความสามารถ ผ่านส่วนหนึ่งของบทสัมภาษณ์ (จุดเปลี่ยนพลิกชีวิตของ "เอกกี้" ด้วยตัวตนที่แท้จริงในแบบ Cycle of life) ต้องบอกว่าคำตอบของเอกกี้จะทำให้คุณรู้จักเขามากขึ้น เหมือนที่ Sanook! Men รู้สึกแน่นอน
คุณอยู่ในวงการบันเทิงมายาวนาน อะไรทำให้คุณยังอยากลุกขึ้นมาทำงานในวงการนี้ ทุก ๆ เช้า
ก็คือเป้าหมายที่เราตั้งใจอยากเลี้ยงดูคุณพ่อ คุณแม่ เป็นเรื่องปกติ เราก็มีคนที่ต้องดูแลก็คือคุณพ่อ คุณแม่ นี่แหล่ะครับ อยากทำงานมีตังค์เลี้ยงท่านให้สบายที่สุด อาจจะเหนื่อยนิดนึงแต่เราก็ต้องบอกตัวเองว่าโอกาสแบบนี้ไม่ได้มาถึงใครได้ง่ายๆ เพราะฉะนั้นเราก็ควรทำให้ในทุกๆงานที่เรารับให้ดีที่สุด ให้มันโอเคที่สุด หลักๆ ก็จะมีคิวที่เป็นประจำอยู่แล้วเราก็จะทราบ แต่ละครส่วนมากจะไม่ค่อยได้รับ นอกจากบทที่จี๊ดใจเราจริงๆเราก็จะโอเค เพราะละครจะใช้เวลาเยอะ แล้วอีกอย่างเรามีรายการประจำที่ต้องทำ แล้วเวลาที่เหลือ พอไม่มีอีเว้นท์เราก็จะว่าง พอว่างเราก็ไปออกกำลังกายในสิ่งที่เราชอบ แล้วก็อยู่กับพ่อแม่ทำกับข้าวทานกัน ก็จะเป็นแบบนี้
อะไรคือสิ่งสำคัญในการเป็นดีเจหรือพิธีกรที่ดี ของ เอกกี้
ความรับผิดชอบต่องาน การตรงต่อเวลา สำหรับพิธีกรในความคิดของเรา เราว่ามันอยู่ที่กาลเทศะ ในหลายๆงานที่เราได้รับมันไม่เหมือนกัน สมมุติว่ารายการแต่ละรายการคอนเซ็ปต์ก็จะไม่เหมือนกัน จึงบอกไม่ได้ว่ารายการนี้ทำได้มากเกินไปหรือว่าพอดี เราบอกไม่ได้แต่มีความรู้สึกว่าผลตอบรับจากคนดูมากกว่าจะเป็นตัวบอก อีเว้นท์แต่ละที่ก็จะไม่เหมือนกัน แต่ละงานบิวส์ก็จะไม่เหมือนกัน ก็เหมือนเราได้ทำมันเยอะเราก็มีประสบการณ์เยอะในชั่วโมงนั้น เราก็จะเข้าใจในเนื้องานตรงนั้น
อะไรคือสิ่งที่คุณได้บทเรียน และเรียนรู้จากวงการมายา
หูย! เยอะนะ คนหลากหลายนะ คือ ฉลาดเกินน่ะ (หัวเราะ) เรียนรู้ในการทันคน ฉลาดเกินอะไรแบบนี้ ซึ่งมันเป็นสิ่งที่ดีนะแต่บางอย่าง แบบถ้าเราทันคนเราก็ไม่ต้องพูดหรอก ว่าเขาเข้ามาแบบไหนหรือว่าเข้ามาในเชิงธุรกิจ ในเชิงอะไรยังไง อย่างน้อยที่สุดก็ต่างฝ่ายต่างตอบแทน จ้างมาก็ทำ หรือว่าถ้าจริงใจมาเราก็คบ ในความรู้สึกเรานะ ในแง่การใช้ชีวิต ในเรื่องของงานเราก็ปกติ เป็นคนที่ไม่ค่อยสุงสิงอยู่แล้วเสร็จงานปุ๊บเราก็กลับบ้าน กลับบ้านๆๆ เพราะเรารู้นิว่า แต่ละคนเป็นยังไงๆ
ตอนนี้มุมมองความรักของคุณเป็นอย่างไรบ้าง
เปลี่ยนไปเยอะมาก ในสมัยอดีตก็คือทุ่มเทเรื่องความรักไม่ได้สนใจเรื่องการงาน ทุ่มเทเรื่องความรักเวอร์วังอลังการ มาที่ 1 ฉันต้องขาดเธอไม่ได้ ฉันต้องอยู่กับเธอตลอดเวลาอะไรยังงี้ แต่พอเลิกกันมันก็ทำให้เราตาสว่างว่าเออ ความรักเนี้ยมันไม่ใช่การแสดงความเป็นเจ้าของนะ ต่างคนก็ต่างอยู่อะไรแบบนี้ คือไม่มีใครเป็นเจ้าของใคร วันนี้เรารักเค้า แต่วันหนึ่งอาจจะเปลี่ยน ตัวเราเองยังไม่สามารถบังคับใจตัวเราเองให้รักใครคนนึงได้เลย ไม่งั้นคนรักก็คงจะสมหวังเรื่องความรักทั้งหมดสิ ถ้าเราสามารถบังคับจิตใจตัวเองได้
ดีเจเอกกี้อยากบอกอะไรกับ เอก UHT ที่เป็นบอยแบนด์สุดโด่งดังสมัยก่อน
คิดไม่ออกบอกอะไรดี (หัวเราะ) จริงๆแล้วไม่อยากเปลี่ยนแปลงเลย เพราะว่า ณ โมเม้นท์นั้น ไม่ได้ฝืนและก็เป็นตัวของตัวเองทุกช่วงจังหวะชีวิต เราเป็นคนที่แบบตรงๆอ่ะ ไม่หลอกตัวเอง ไม่หลอกอะไรใคร ใช้ชีวิตแบบปกติ ก็ภูมิใจในช่วงเวลานั้น ที่สามารถก้าวเดินมาเป็นนักร้องตามที่เราฝันได้
ถึงวันนี้คุณคิดว่าชีวิตของคุณเดินทางมาถึงจุดที่ตนเองพอใจแล้วหรือยัง
โหย..เกิน แล้วก็รู้สึกขอบคุณตัวเองด้วยที่เป็นคนที่คิดอะไรได้ง่ายๆ เหมือนรู้ว่าทุกอย่างมันเป็น Cycle of life ชีวิตทุกอย่างมีขึ้นมีลง วันหนึ่งคุณมีพร้อมแล้วคุณก็เก็บสิ แล้วบอกตัวเองเสมอว่าตัวเองมีข้อดีข้อเสียอะไร คือพยายามที่จะเช็คตัวเองตลอด ไม่อยากให้ใครมาว่าก่อน
คิดว่าอะไรคือสิ่งที่สำคัญในความเป็นมาตรฐานของ “เอกกี้” ที่ยังคงอยู่ในวงการบันเทิงได้จนถึงทุกวันนี้
ง่ายๆเลยคุณภาพของงาน แล้วก็ทุกอย่างที่ทำคุณต้องตรงต่อเวลา คุณต้องซื่อสัตย์ในอาชีพของคุณ ถ้าคุณไปสายแค่งานเดียวเขาก็ไม่จ้างคุณต่อแล้ว แล้วคุณต้องสำนึกด้วยว่า ลูกค้าก็คือคนที่ให้งานคุณ เพราะฉะนั้นคุณก็ต้องดูแลในสิ่งที่เขาไว้ใจและเชื่อใจคุณ
อัลบั้มภาพ 16 ภาพ