‘Digital Nomad’ เทรนด์ใหม่ของอาชีพยุคดิจิทัล

‘Digital Nomad’ เทรนด์ใหม่ของอาชีพยุคดิจิทัล

‘Digital Nomad’ เทรนด์ใหม่ของอาชีพยุคดิจิทัล
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ในยุคดิจิทัลที่ทุกคนสามารถทำงานที่ไหนเวลาใดก็ได้ ก่อให้เกิดพนักงานรุ่นใหม่ที่ทำงานแบบไร้ออฟฟิศ
 
Phil Pallen นักการตลาด นักการประชาสัมพันธ์ และนักกลยุทธ์การสร้างแบรนด์ เดินทางจากเมืองหนึ่งไปยังเมืองหนึ่งเพื่อพบลูกค้าบุคคลไปจนถึงบริษัท ที่ต้องการสร้างภาพลักษณ์องค์กรแบบดั้งเดิมและในสื่อสังคมออนไลน์

Phil เล่าว่า ไม่กี่สัปดาห์ก่อน เขาใช้ชีวิตบนเครื่องบินร่วม 41 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ เดินทางไปรอบโลก เริ่มตั้งแต่นครลอสแองเจลีส ยุโรป ตะวันออกกลาง เอเชีย และบินกลับมาลอสแองเจลีสอีกครั้ง

แต่ที่น่าประหลาดใจกว่า คือ Phil ไม่มีออฟฟิศประจำเป็นของตัวเอง!

Phil ใช้ออฟฟิศร่วมของบริษัท WeWork ที่มีมากถึง 200 แห่ง ใน 50 เมืองทั่วโลก ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติของผู้คนใน Silicon Valley Hub ด้านเทคโนโลยีของโลกในซานฟรานซิสโก ที่มีบริษัทส่วนกลางดูแลเป็นออฟฟิศรองรับบริษัทสตาร์ทอัพด้านเทคโนโลยีหลายเจ้าพร้อมกัน

Charles Du ผู้จัดการด้านสินค้าซอฟต์แวร์ในแคลิฟอร์เนีย เรียกปรากฏการณ์นี้ว่า "Digital Nomad" หรือ "พนักงานไร้ออฟฟิศ" ที่ใช้เทคโนโลยีช่วยในการทำงาน อาทิ ผู้จัดการด้านเทคโนโลยี นักการตลาด นักประชาสัมพันธ์ นักบัญชี นักกฎหมาย อาจารย์มหาวิทยาลัยในคอร์สเรียนออนไลน์

อาชีพเหล่านี้ส่วนใหญ่ต้องนั่งหน้าจอคอมพิวเตอร์ แต่มีภารกิจหลักๆ คือการเดินทางไปพบลูกค้าหรือลูกความในที่ต่างๆ ซึ่งพวกเขาสามารถเข้าไปใช้พื้นที่ออฟฟิศร่วมที่มีอยู่ต่างเมืองต่างประเทศได้

โดยต้องการเพียงพื้นที่ออฟฟิศ Wi-Fi และอุปกรณ์ทำงานที่จำเป็นอื่นๆ

ด้าน John Maeda อดีตอาจารย์จาก MIT และอดีตคณบดีของคณะออกแบบ มหาวิทยาลัย Rhode Island บอกว่า การทำงานทางไกลแบบ Digital Nomad ช่วยปรับเปลี่ยนความคิดสร้างสรรค์ เปิดโอกาสให้มีการทำงานเชิงถ่ายทอดองค์ความรู้ แทนการพึ่งพากำลังแรงงานที่หาได้เฉพาะในพื้นที่เท่านั้น

ขณะที่ข้อจำกัดของกลุ่มคนที่ทำงานโดยไม่พึ่งพาออฟฟิศ คือ การหาออฟฟิศชั่วคราวในต่างเมือง ที่พัก เพื่อนฝูง แต่ทุกอย่างอาจหามาได้ไม่ยากเมื่อมีอินเทอร์เน็ต

และตอนนี้ก็มีหลายเมืองที่กำลังรองรับพนักงานเหล่านี้ ได้แก่ เมือง Ubud บนเกาะบาหลีของอินโดนีเซีย และจังหวัดเชียงใหม่ของประเทศไทย

Digital Nomad มีศักยภาพท่ามกลางการแข่งขันในตลาดท้องถิ่นและในระดับโลกที่เข้มข้นขึ้น เพราะสามารถผลิตสินค้าและบริการเพื่อตอบโจทย์ผู้คนทั้งในและต่างประเทศได้

ซึ่งนักการตลาดและนักกลยุทธ์การสร้างแบรนด์ อย่าง Phil เชื่อมั่นว่า การได้เปิดหูเปิดตาในหลากหลายพื้นที่ ทำให้เขาได้รู้จักการใช้ชีวิตของผู้คนทั่วโลก และเป็นแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์ผลงานของเขาได้นั่นเอง

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook