รู้หรือไม่ “รอยสัก” ส่งผลข้างเคียงต่อการ “ขับเหงื่อ”

รู้หรือไม่ “รอยสัก” ส่งผลข้างเคียงต่อการ “ขับเหงื่อ”

รู้หรือไม่ “รอยสัก” ส่งผลข้างเคียงต่อการ “ขับเหงื่อ”
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

“รอยสัก” ถือเป็นศิลปะบนเรือนร่างที่หลายคนชื่นชอบ แต่จากผลการวิจัยล่าสุดโดย Alma College ในรัฐมิชิแกน สหรัฐอเมริกา พบว่าการสักตามร่างกายส่งผลข้างเคียงต่อการขับเหงื่อทางผิวหนังด้วย

โดยผิวตรงบริเวณที่ถูกสักจะมีเหงื่อออกน้อยกว่าบริเวณที่ไม่มีรอยสัก นั่นหมายความว่า ถ้ายิ่งมีรอยสักมากๆ ตามผิวหนังส่วนต่างๆ ก็ยิ่งทำให้ร่างกายขับเหงื่อออกมาได้น้อยลงตามไปด้วย

การขับเหงื่อออกมาตามผิวหนังส่วนต่างๆ นั้น มีประโยชน์ในการช่วยควบคุมอุณหภูมิในร่างกาย ซึ่งหากไม่มีการขับเหงื่อออกมามากพอก็อาจส่งผลเสียตามมาได้ เพราะร่างกายจะร้อนเกินไปจนถึงขั้นทำให้เป็นโรคลมแดดได้นั่นเอง

ส่วนสาเหตุที่ทำให้บริเวณที่มีรอยสักมีเหงื่อออกมาน้อยนั้น นักวิจัยเชื่อว่าอาจเป็นเพราะผิวในส่วนนั้นมีลักษณะที่ต่างไปจากผิวส่วนอื่น เนื่องจากขั้นตอนของการสักลงบนร่างกายนั้น เข็มเล็กๆ ที่บรรจุสีสำหรับใช้สักผิวจะแทงทะลุหนังชั้นกำพร้าลงไปด้วยความเร็วสูงสุดถึง 3,000 ครั้งต่อนาทีเลยทีเดียว

ทั้งนี้ เข็มที่ใช้สักอาจแทงลึกไปจนถึงชั้นหนังแท้ที่มีต่อมเหงื่ออยู่  จึงมีความเป็นไปได้ว่าสีที่ใช้สักนั้น อาจไปขัดขวางการทำงานของต่อมเหงื่อทำให้ขับเหงื่อออกมาน้อยกว่าปกติได้

อย่างไรก็ตาม การที่เหงื่อออกน้อยกว่าปกติ ไม่ถึงกับเป็นผลเสียรุนแรงแต่อย่างใด  เพียงแต่เหงื่อถือเป็นตัวบอกโรคได้เช่นกัน ซึ่งทีมวิจัยระบุว่ายังต้องมีการศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับเรื่องนี้ให้แน่ชัดเสียก่อนถึงจะมีการแจ้งเตือนใดๆ ออกมาอย่างเป็นทางการ

ที่มา : www.healthline.com

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook