ต้องให้ความสำคัญ “นพ.พุฒิพงศ์ ภูมิสุวรรณ” กับข้อคิดตั้งหลักก่อนทำสวย
ถ้าเอ่ยถึงเรื่องความงามยุคนี้เชื่อว่าใครๆ ก็สามารถทำให้สวยได้ แต่การจะทำให้สวยได้อย่างเป็นธรรมชาติไม่ใช่เรื่องง่าย เห็นได้ความผิดพลาดที่ข่าวดังออกมาให้ได้เห็นกันอยู่เนืองๆ ไม่ว่าจะคลินิกเถื่อน หมอเถื่อน รวมถึงการใช้อุปกรณ์และตัวยาที่ไม่ได้มาตรฐาน เรื่องนี้แบบนี้จึงต้องพูดคุยกับผู้รู้ลึกและรู้จริงซึ่งก็คือ นายแพทย์พุฒิพงศ์ ภูมิสุวรรณ หรือว่า คุณหมอบอย หมอวิทยากรสอนแพทย์ร้อยไหมฟิลเลอร์ระดับอาเซียน และเป็นผู้อำนวยการต่างประเทศเอเชีย-แปซิฟิก สมาคมแพทย์เกาหลีเพื่อความและศัลยกรรมความงาม แห่งเกาหลี
เป็นเวลากว่า 20 ปี บนเส้นทางแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านความงามและการชะลอวัย หมอบอยบอกว่าวงการนี้มีการพัฒนามาอย่างต่อเนื่อง มีเทรนด์นวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อเข้ามาตอบสนองความต้องการของคนรักสวยรักงาม สมัยก่อนคนจะนิยมกันมากในเรื่องของศัลยกรรม แต่ปัจจุบันต้องการอะไรที่รวดเร็ว สวยเร็ว ไม่เจ็บตัว ใช้เวลาพักฟื้นน้อย ดังนั้นเรื่องของการฉีดสารเติมเต็ม โบท็อกซ์ ฟิลเลอร์ รวมถึงการร้อยไหมเพื่อการยกกระชับใบหน้าให้ได้รูปจึงเป็นที่นิยม
“การฉีดโบท็อกซ์ ฟิลเลอร์ ร้อยไหมเพื่อการยกกระชับ เป็นการแก้ปัญหาเรื่องความงามที่อยู่ตรงกลาง คนไข้ไม่ต้องผ่าตัดแต่ได้ผลเหมือนผ่าตัดปลอดภัย และไม่มีแผลเป็นเทคนิคการรักษาแบบกึ่งศัลยกรรม เพราะเราไม่ได้ลงมือเย็บตัด ซึ่งจะต่างกับการผ่าตัดศัลยกรรมที่เป็นการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างกระดูกแบบถาวร จึงต้องใช้ระยะเวลาพักฟื้นนาน และมีค่าใช้จ่ายสูง แต่ผมในฐานะหมอที่อยู่วงการอยากเตือนคนที่คิดจะสวยคุณอย่าเอาราคามาเป็นตัวตัดสินใจ อย่าเอาราคามาเป็นตัววัด คลินิกนั้นถูก คลินิกนั้นแพง”
“ตั้งหลักก่อนทำสวย” อีกประเด็นที่หมอบอยย้ำว่าก่อนที่จะตัดสินใจสวยด้วยมือแพทย์ต้องรู้จักหาความรู้ด้วยประกอบการตัดสินใจเพื่อความสวยที่มีคุณภาพและปลอดภัย
“คือหลายๆ คนยังขาดความรู้ บางคนเชื่อเพื่อน บางคนตัดสินใจจากราคาถูก บางคนเชื่อจากที่สื่อโซเชียลมีเดียต่างๆ ถึงได้มีข่าวในทางลบออกมา ถ้าคุณคิดจะสวยด้วยแพทย์ คุณต้องหาความรู้ด้วยตัวเอง คลินิกถูกกฎหมายได้มาตรฐาน แพทย์ผู้ให้บริการมีความเชี่ยวชาญหรือเปล่า เป็นหมอจริงหรือเปล่า ใบอนุญาต ใบประกอบวิชาชีพถ้าตรวจสอบได้ก็ให้ตรวจสอบ เพราะไม่ใช่จบหมอสาขาไหนจะมาทำก็ได้ แทนที่จะสวยก็กลายเป็นหน้าเสียไปแทน”
สำหรับเทรนด์ในอนาคตวงการความงามและศัลยกรรมเมืองไทยคุณหมอบอกว่า “เราจะมีความละเอียดรอบคอบมากขึ้น มีความรู้มากขึ้น รู้ว่าแบบนี้สวยแบบนี้ไม่สวย เราจะเริ่มเข้าใจไม่ใช่ตามเทรนด์แบบไม่รู้เรื่อง คนคิดมากขึ้นศึกษามากขึ้นในการเสริมความสวยความงามให้กับตัวเอง เพราะความงามเป็นเรื่องเอกลักษณ์ของบุคคล คนเราจะดูดีหรือดูไม่ดีมันอยู่ที่ความคิดของตัวเองด้วย”
นพ. พุฒิพงศ์ ยังย้ำทิ้งท้ายอีกว่า ไม่ว่าจะเทคโนโลยีนวัตกรรมความงามใดๆ จะเข้ามา สิ่งสำคัญผู้ที่ทำงานเกี่ยวข้องกับแวดวงความงาม โดยเฉพาะผู้ที่อ้างตนว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญความงามจำเป็นต้องรู้และเข้าใจอย่างถ่องแท้คือ ความหมายหรือว่านิยามของคำว่า “ความสวย” หรือ “ความงาม” เพราะไม่ว่าคนนั้นจะเก่งกาจแค่ไหนก็ตามหากไม่เข้าใจคอนเซ็ปต์ความงามแล้วผลงานการรักษาย่อมออกมาไม่ดีแน่