หนุ่มญี่ปุ่นพนักงานใหม่บริษัทดังตัดสินใจจบชีวิต เหตุถูกรังแกจากเพื่อนร่วมงาน
เป็นที่รู้กันอยู่แล้วว่าสังคมการทำงานของคนญี่ปุ่นไม่ได้น่ารื่นรมย์เหมือนอย่างภาพอื่นๆที่เราได้เห็นเวลาไปเที่ยวหรือเห็นตามสื่อต่างๆซักเท่าไร ในแต่ละปีมีข่าวน่าเศร้าที่เกิดจากการทำงานเป็นจำนวนไม่น้อย ซึ่งในครั้งนี้ก็เป็นอีกหนึ่งครั้งที่เกิดเรื่องน่าเศร้าขึ้นมา
ชายหนุ่มคนหนึ่ง (อายุ 25 ปีในขณะนั้น) ที่เพิ่งได้เข้าทำงานในบริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง Mitsubishi Electric ประเทศญี่ปุ่นได้ตัดสินใจจบชีวิตตัวเอง ทำให้พ่อแม่ของผู้ตายออกมาฟ้องร้องต่อศาลกรุงโตเกียวขอค่าชดเชยความเสียหายจากบริษัท Mitsubishi Electric เป็นจำนวนเงินรวมทั้งสิ้นราว 118 ล้านเยน เนื่องจากทางบริษัทไม่ได้มีการดำเนินการเพื่อป้องกันการฆ่าตัวตายอย่างเหมาะสม แม้จะมีการกลั่นแกล้งและสร้างความเกลียดชังอย่างต่อเนื่องจากหัวหน้างานและรุ่นพี่ในบริษัท จนเป็นเหตุทำให้ลูกชายต้องตัดสินใจฆ่าตัวตาย
จดหมายลาตายที่เหลือทิ้งไว้มีชื่อของหัวหน้าและรุ่นพี่
จากข้อความการฟ้องร้องระบุว่า ชายดังกล่าวหลังจบการศึกษาระดับปริญญาโทก็ได้ทำงานที่บริษัท Mitsubishi Electric ในเดือนเมษายนของปีที่แล้ว และในเดือนมิถุนายนของปีเดียวกันก็ได้ถูกมอบหมายให้เข้าไปอยู่ในแผนกที่ตั้งอยู่เมืองอามะกาซากิ จังหวัดเฮียวโงะ และในเดือนกันยายนของปีเดียวกันเป็นต้นมาก็เริ่มที่จะได้รับมอบหมายงานต่างๆอย่างจริงจัง แต่กลับถูกหัวหน้าและรุ่นพี่ที่บริษัทกลั่นแกล้งและแสดงความเกลียดชังอย่างต่อเนื่อง ทั้งยังถูกสั่งให้ทำงานแทน
ชายดังกล่าวได้ทิ้งจดหมายลาตายไว้เมื่อเดือนพฤศจิกายนของปีเดียวกันความว่า “ฉันจะฆ่าตัวตาย ฉันถูกบดขยี้โดย Mitsubishi” และได้ลงมือจบชีวิตตัวเองที่หอพักพนักงาน ในหนังสือลาตายดังกล่าวนอกเหนือจากการระบุชื่อหัวหน้าและรุ่นพี่หลายๆคนแล้ว ยังกล่าวถึงเรื่องที่ไม่ได้รับการสนับสนุนใดๆ มีการแสดงความเกลียดชังและถูกกลั่นแกล้ง เมื่อตอบคำถามเกี่ยวกับงานไม่ได้ก็จะถูกตำหนิ
เกี่ยวกับการฆ่าตัวตายของชายคนดังกล่าวในครั้งนี้ ที่ผ่านมาทางฝั่งพ่อและแม่ของผู้ตายเรียกร้องให้ทางบริษัทเคลียร์ข้อสงสัยเกี่ยวกับคำถามและขอโทษ แต่ทางฝั่งบริษัทให้คำตอบว่าการกลั่นแกล้งต่างๆที่เขียนอยู่ในจดหมายลาตายนั้น “ไม่มีเกิดขึ้นเลยสักนิด” ทำให้ในครั้งนี้พ่อและแม่ของผู้ตายจึงตัดสินใจฟ้องร้องต่อศาลนั่นเอง
ตัวแทนจากฝั่งครอบครัวผู้ตาย “คำตอบจากทางบริษัทไม่ได้มีความจริงใจเลยสักนิด”
หลังจากส่งเรื่องฟ้องร้องแล้ว ทางพ่อและแม่ของผู้ตายกับตัวแทนฝั่งผู้ตายได้ออกมาให้สัมภาษณ์ต่อสื่อที่จัดขึ้นที่คาซุมิกาเซกิ ในกรุงโตเกียว แม่ของผู้ตาย(อายุราว 40 ปี)ให้สัมภาษณ์ว่า “ตั้งแต่เข้าทำงานในบริษัทเพียงแค่ 8 เดือนกว่าๆเท่านั้น อยากรู้ลูกชายโดนบีบคั้นอะไรจนถึงขั้นต้องเลือกจบชีวิตตัวเองลง และไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นเป็นครั้งที่สอง จึงตัดสินใจเอาเรื่องเข้าสู่ชั้นศาล”
ในส่วนของทนายความซึ่งเป็นตัวแทนของฝั่งครอบครัวผู้ตายกล่าวว่า “ที่ผ่านมาได้ติดต่อพูดคุยกับทาง Mitsubishi Electric ผ่านทางตัวหนังสือ คิดว่าคำตอบที่ได้ไม่มีความจริงใจเลยสักนิด ความเจ็บปวดในใจของผู้ตาย หากคนที่มีหัวใจได้ลองอ่าน (จดหมายลาตาย) ก็คงจะเข้าใจ แต่ทางบริษัทก็ปฏิเสธ และไม่เคยมีโอกาสที่จะได้พบแล้วคุยกันอย่างเป็นกิจจะลักษณะ ทางบริษัทมีวิธีรับมืออย่างไรกับการที่มีคนต้องมาจบชีวิตตัวเองลงแบบนี้” นอกจากนี้ทางตัวแทนของครอบครัวผู้ตายยังมีแผนที่จะยื่นแจ้งอุบัติเหตุและความเสียหายที่เกิดขึ้นในระหว่างการทำงานอีกด้วยในอนาคตอันใกล้นี้
ทางฝั่งโฆษกของ Mitsubishi Electric ได้ส่งข้อความผ่านทางแฟ็กซ์ไปยังสำนักข่าวต่างๆว่า “ทางบริษัทขอแสดงความอาลัยอย่างสุดซึ้งอีกครั้ง และขอแสดงความเสียใจต่อทางครอบครัวทุกคน หลังจากนี้จะทำการตรวจสอบคำร้อง แล้วจะดำเนินการอย่างจริงจังต่อไป”
ที่มา : livedoor, mainichi, mitsubishielectric