สาวๆ ฟัง 5 เหตุผลที่ผู้ชายข้างกายไม่ขอคุณแต่งงานซะที
"การแต่งงาน" คือความฝันของสาวๆ หลายคน ซึ่งหลายคู่คบหาดูใจกันมาก็นานหลายปี แต่ไม่มีวี่แวว ว่า หนุ่มข้างกายของคุณจะขอแต่งงานซะที เรื่องนี้ Sanook! Men ขอขยายต่อด้วยการไปถามไถ่เพื่อนๆ ที่อายุ 30 อัพ พวกนี้มีแฟนกันนะ แต่ยังไม่คิดจะแต่งงาน
มาฟังกันครับว่า อะไรหนอที่เป็นชนวนเหตุให้เรื่องแต่งงาน กลายเป็นของขยาดพูดถึงทีไรก็พาลทะเลาะกันทุกที
1 ความไม่พร้อมด้านการเงิน
ปัญหาแรกที่หลายเสียงตอบตรงกัน คือ ไม่มีเงิน ไม่มีเงินในที่นี้ คือ ไม่มีเงินเก็บเพื่อใช้เป็นค่าสินสอด ค่าจัดงาน รวมไปถึง เงินที่จะนำไปสร้างความมั่นคงเมื่อย้ายเข้ามาอยู่ด้วยกัน อย่างเช่นซื้อบ้าน ซื้อรถ เป็นต้น พร้อมกันนี้หนุ่มๆ หลายคนก็ไม่ได้ปิดประตูตายเรื่องนี้ แต่อยู่ระหว่างรอความมั่นคงที่มากขึ้น สาวๆ คนไหนอยากมีครอบครัว อาจจะต้องจัดสรรการเงินให้หนุ่มๆ ข้างกายหรือรวมเก็บเงินไปด้วยกันแบบนี้ก็ดีเหมือนกัน
2 คุณไม่ใช่คนที่อยากแต่งงานด้วย
บอกกันตรงๆ ไปเลยนะครับ มีหนุ่มๆ บางส่วนเลย ที่ไม่ได้คิดจะแต่งงานกับคุณอยู่แล้ว เพียงแต่ว่าคบไปงั้นๆ คุณอาจจะเป็นคนที่ชอบ แต่ไม่ใช่คนที่พร้อมจะสละความโสดเพื่ออยู่ด้วย หากคุณพูดเรื่องแต่งงานมาครั้งใด คนข้างกายของคุณมีทีท่าโมโห อารมณ์เสีย ทำใจไว้นะครับ คุณอาจจะไม่ได้แต่งงานกับคนนี้ แต่ก็มีทางเลือก ลองเปิดใจไปตรงๆ หากคุณไม่ใช่คนที่ต้องการ ก็จบๆ กันไป
3 คุณอยู่ด้วยกันนานแล้ว
อยู่ด้วยกันในวัยที่สมควรก็ไม่ใช่เรื่องผิด แต่เวลาเราเคยชินกับสิ่งใด เรามักจะเห็นความสำคัญของสิ่งนั้นน้อยลง หากคุณอยู่ด้วยกันแล้ว ผู้ชายส่วนหนึ่งจะคิดเรื่องแต่งงานน้อยลง ด้วยความคิดที่ว่า แต่งกับไม่แต่งก็เหมือนกัน คือ ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันแล้ว อยู่แบบนี้ก็มีความสุขดี แต่อาจจะลืมมองเรื่องของครอบครัวของฝ่ายหญิงไป ยังไงหากคุณตกอยู่ในสถานการณ์แบบนี้ยังสามารถพูดคุยกันได้นะครับ
4 สินสอดที่ฝ่ายหญิงเรียกร้องมากเกินไป
เรื่องเงินๆ ทองๆ เป็นเรื่องละเอียดอ่อนจริงๆ ยิ่งยุคนี้ทั้งผู้หญิงและผู้ชาย สถานะต่างๆ เท่าเทียมกัน ไม่เหมือนสมัยโบราณที่ฝ่ายชายแต่งงานรับลูกสาวมาอยู่บ้าน มาทำงาน มาดูแลครบครัวฝ่ายชาย จึงต้องให้สินสอดฝ่ายหญิงในจำนวนมาก หากคิดจะแต่งงานกันจริงๆ ฝ่ายหญิงอาจจะต้องคุยกับที่บ้านไว้บ้างว่า หากจะแต่งงานจะเรียกเงินสินสอดเท่าไหร่ เหมือนการไปกุยทางไว้บางส่วน ถึงเวลาก็ช่วยกันเก็บเงินโอกาสจะได้ใช้ชีวิตร่วมกันก็มีมาก
5 ยังรักตัวเองมากกว่าคนอื่น
หลายคนอาจจะรู้สึกแปลกๆ กับข้อนี้ แต่มันเป็นความจริงครับ คนที่จะใช้ชีวิตร่วมกัน คือ ต้องรักอีกคนให้เท่าหรือเกือบเท่าตัวเอง ตราบใดที่เรายังรักตัวเองมากกว่าคนอื่นมาก เราไม่อยากแบ่งความรักไปให้ใคร หรือกรณีหนุ่มๆ เจ้าเสน่ห์ทั้งหลาย เขาก็ยังรักตัวเอง ยังมองความสุขของตัวเองเป็นที่ตั้ง เมื่อไหร่ที่พร้อมแต่งงาน ความรู้สึกรักตัวเองจะลดลงแต่จะไปเพิ่มให้กับคนที่จะแต่งงานด้วยแทน
เชื่อว่าทั้ง 5 ข้อที่ผมนำมาแบ่งปันเป็นสาเหตุหลักๆ ที่ทำให้คุณสาวๆ ยังไม่ได้สวมชุดเจ้าสาว แต่หากเปิดใจคุยกัน ปัญหาต่างๆ ก็อาจจะดีขึ้น หรือถ้าไม่มีอะไรดีอาจจะต้องไปเริ่มใหม่ ยังไงอย่ารอแบบไร้จุดหมายนะครับ