สยบเบาหวาน ใน 6 เดือน ด้วยการล้างพิษตับอ่อน

สยบเบาหวาน ใน 6 เดือน ด้วยการล้างพิษตับอ่อน

สยบเบาหวาน ใน 6 เดือน ด้วยการล้างพิษตับอ่อน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

พิรุณ (นามสมมติ) อายุ 38 ปี ชอบเล่นฟุตบอล ครั้นเหนื่อยๆ ก็ดื่มน้ำอัดลมสีดำครั้งละขวดจัมโบ้ น้ำหนักเขาไต่ขึ้นไปจาก 65 ก.ก. เป็น 75 ก.ก. ภายในเวลา 1 ปี

ต่อมามีคนเตือนเขาว่าไม่ควรกินน้ำอัดลม การดูแลสุขภาพไม่ใช่เอาแต่เพียงออกกำลังกาย แต่กินไม่เลือก

ได้ฟังดังนั้นแล้วเขาก็เริ่มหันมาสนใจสุขภาพ เขาเคยรู้มาว่าผักผลไม้ดีต่อสุขภาพ ถ้าอย่างนั้นเขาก็ควรเลิกดื่มน้ำอัดลมเปลี่ยนมากินผักผลไม้ตามความนิยมของผู้รักสุขภาพจะดีกว่า

แต่ครั้นเอาเข้าจริงๆ การจะกินผักไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะรสชาติมันขมขื่นไม่ชวนกิน พิรุณจึงหันมากินผลไม้อย่างเอาจริงเอาจัง คิดว่าเขาจะมีสุขภาพที่ดีอย่างแน่นอน

ทีนี้แหละ พอพิรุณเลิกจากเล่นฟุตบอล แทนที่เขาจะกินน้ำอัดลม เขาก็หันมากินแตงโมเป็นการทดแทน

เขากินแตงโมครั้งละลูกโตๆ เป็นอย่างน้อย บางครั้งเขาสามารถกินแตงโมสัก 2 ลูก แทนการกินอาหารเย็นเสียด้วยซ้ำ

ผลก็คือน้ำหนักของเขาหยุดที่จะไต่ขึ้น แต่กลายเป็นการไต่ลงอย่างรวดเร็ว จาก 75 ก.ก. ก็ถอยมาเป็น 65 ก.ก. ในเวลา 6 เดือน

เขาคิดว่าตนเองมีสุขภาพดีอย่างแน่ชัด แต่ที่ทำให้แปลกใจก็คือ เขามีอาการอ่อนเพลียอย่างไม่เคยปรากฏมาก่อน แถมปัสสาวะมาก กลางคืนต้องลุกขึ้นมาปัสสาวะถึงคืนละ 2-3 หน

ในเดือนสุดท้ายเขาไม่อาจจะเล่นฟุตบอลกับเพื่อนๆ อีกต่อไปได้ ซึ่งทำให้เขาอึดอัดใจมาก

สุดท้ายภรรยาของเขาจึงชวนเขาไปตรวจสุขภาพที่โรงพยาบาล

เมื่อผลการตรวจเลือดปรากฏออกมา ก็ทำให้เขาแทบล้มทั้งยืน คุณหมอผู้ตรวจบอกเขาว่า

"คุณเป็นเบาหวานแล้วนะครับ" คุณหมอเว้นวรรคให้เขาหายใจหายคอ เสียงดนตรีแทรกขึ้นมาในอากาศ เหมือนตอนที่พระเอกในละครกำลังตกตะลึงพรึงเพริดกับการรับข่าวร้าย

"น้ำตาลในเลือดของคุณอยู่ที่ 386 ม.ก.% ไตรกลีเซอไรด์ 679 ม.ก.% คอเลสเตอรอล 292 ม.ก.% ไขมัน HDL ซึ่งเป็นไขมันดี ช่วยปกป้องโรคหัวใจหลอดเลือดก็ต่ำมากเพียง 38 ม.ก.% และน้ำตาลสะสมก็สูงถึง 13.8%"

ครับ เลือดของพิรุณทั้งหวานทั้งมัน เหมือนกับไอศกรีมขนมปังราดนม เลยละครับ

"ผมหน้าซีดไปถนัดใจ เมื่อผลเลือดออกมาแบบนี้ คุณหมอก็จัดหนักเลยซิครับ จ่ายยารักษาเบาหวาน กิน 2 เม็ด 2 เวลา ยาอีกตัวลดไตรกลีเซอไรด์ อีกชนิดลดคอเลสเตอรอลมาให้ผมเต็มพิกัด แล้วบอกให้อีก 2 เดือนกลับไปตรวจใหม่" พิรุณกล่าวกับผมในคราวที่ผมไปบรรยายที่บริษัทของเขา เรื่องการลดน้ำหนักและรักษาเบาหวานด้วยสูตรล้างพิษตับอ่อน

"แต่เรื่องหนึ่งที่ผมยังไม่เข้าใจก็คือ ทำไมผมหันมากินแตงโมจนน้ำหนักลดจาก 75 ก.ก.เป็น 65 ก.ก. นั่นไม่ได้แปลว่าผมสุขภาพดีควบคุมน้ำหนักตัวได้หรือครับ ทำไมกลายเป็นว่าผมเป็นโรคเบาหวานไปได้ล่ะ" พิรุณถามผม เมื่อเรานั่งลงคุยกันหลังการบรรยาย

"น้ำหนักของคุณที่ไต่ขึ้น เกิดจากการกินหวานเช่นน้ำอัดลม เมื่อน้ำตาลเข้ากระแสเลือดแม้ว่าคุณจะออกกำลังกาย แต่ปริมาณที่กินคงมากเกินกว่าพลังงานที่จ่ายออก ผลก็คือน้ำตาลที่สูงขึ้นในเลือด จะเปลี่ยนเป็นไตรกลีเซอไรด์และคอเลสเตอรอล ไตรกลีเซอไรด์มีมากก็ถูกส่งไปสะสมไว้ใต้ผิวหนังทำให้คุณอ้วนขึ้นนั่นเอง" ผมอธิบาย

"ทีนี้พอคุณเลิกน้ำอัดลม แต่หันมากินผลไม้เป็นพายุบุแคม หารู้ว่าการกินแบบนี้ไม่ใช่เรื่องดีเลย เพราะแม้จะเป็นผลไม้แต่มันก็เป็นอาหารที่มีรสหวาน ดังนั้น น้ำตาลในเลือดจึงยังคงขึ้นสูงต่อไป ขึ้นสูงจนกระทั่งกลายเป็นโรคเบาหวานในที่สุด"

ผมแจงจารให้ฟัง

เราจะพบบ่อยๆ ว่า คนที่เป็นเบาหวานตอนที่เบาหวานขึ้นจัดๆ นั้น แม้น้ำตาลในเลือดจะสูง ตับอ่อนถูกบีบบังคับให้หลั่งอินซูลินออกมา แต่แม้ว่าอินซูลินในเลือดจะสูง ร่างกายก็เกิดภาวะดื้อต่ออินซูลิน น้ำตาลที่ล้นอยู่ในกระแสเลือดจึงไม่สามารถถูกส่งเข้าเซลล์เพื่อใช้เป็นพลังงานได้

พอเซลล์ร่างกายขาดพลังงาน เจ้าตัวจะรู้สึกอ่อนเพลียง่าย ไม่มีเรี่ยวแรง ขณะเดียวกันร่างกายก็ดิ้นรนด้วยการแสวงหาแหล่งพลังงานอื่นขึ้นมาทดแทน

นั่นก็คือจะมีการสลายกล้ามเนื้อให้กลายเป็นพลังงาน

ผลก็คือกล้ามเนื้อร่างกายจะเริ่มฝ่อลีบลง และนั่นเองเป็นเหตุให้ผู้ป่วยในภาวะนี้มีน้ำหนักตัวลดลงอย่างรวดเร็ว

พูดง่ายๆ ว่าเบาหวานกำลังกินเนื้อตัวเอง นี่เป็นภาวะที่น่ากลัวเสียนี่กระไร

พิรุณก็คือมนุษย์ตัวอย่างของกลุ่มอาการซินโดรม X ซึ่งผมเขียนเล่าให้อ่านมาหลายสัปดาห์นั่นเอง เขามีน้ำตาลเลือดสูง ไตรกลีเซอไรด์สูง คอเลสเตอรอลสูง HDL ต่ำ LDL สูง

และถ้าจะจับเขาตรวจระดับอินซูลิน ก็จะพบระดับอินซูลินสูงอย่างแน่นอน...!!

คุณพิรุณเริ่มหันมาใช้สูตรล้างพิษตับอ่อน เขางดกินแป้งข้าว ก๋วยเตี๋ยว วุ้นเส้น บะหมี่ เกี๊ยว เขางดกินผลไม้ทุกชนิด และไม่หลงหลุดไปกินถั่วหรือข้าวโพด อย่างที่ผมมักจะเตือนคนเบาหวานหรือคนอ้วนว่า ถั่วหนึ่งเม็ดครึ่งหนึ่งเป็นแป้ง อีกครึ่งหนึ่งเป็นโปรตีน ดังนั้น ถ้ากินเมล็ดเหล่านี้ก็เท่ากับรับเอาแป้งเข้าไปด้วย

ผมช่วยวางแผนอาหารให้เขาว่า "ตื่นเช้าขึ้นมาให้กินไก่ย่างครึ่งตัว กับผักหนึ่งจาน"

"จำเป็นต้องเป็นผักสดทุกครั้งมั้ย" เขาถาม

"แม้เราจะรู้ว่าผักสดดีกว่าผักลวก ผักลวกดีกว่าผัดผัก ผัดผักดีกว่าผักต้มผักตุ๋น นั่นเป็นมุมมองในแง่ของวิตามินที่จะสูญเสียไปกับความร้อน แต่ในกรณีที่เรากินเนื้อกินผักสูตรนี้เราไม่กินแป้งข้าว เราจึงต้องการเอาผักเข้าไปจองท้อง เพื่อให้เราอิ่ม ดังนั้น ผมจะไม่เกี่ยงในกรณีนี้ ขอแต่ให้เป็นผักก็กินเข้าไปเลย"

จากนั้นก็เป็นมื้อเที่ยง ให้กินเกาเหลา ถ้าต้องการเส้นให้ใช้เส้นบุกทดแทนเส้นก๋วยเตี๋ยว

สำหรับมื้อเย็น ให้เอาจานมาใบหนึ่ง แต่ไม่ตักข้าว ให้ใส่ผักเข้าไปหลากหลายชนิด แล้วกินกับข้าวต่างๆ แทนการกินข้าว ส่วนกับข้าวกินได้ทุกอย่างตั้งแต่ต้มยำกุ้ง อาหารทะเลทุกชนิดทั้งกุ้ง ปู และปลาหมึก เนื้อสัตว์อื่นๆ กินได้ เช่น เป็ดย่าง ไก่ตอน หมูสามชั้น

เพียงแต่ว่าไม่ควรกินพะโล้เพราะมีรสหวานอยู่ด้วย

ผมให้คุณพิรุณงดยาไขมันทุกชนิด เพราะยาลดไขมันรังแต่จะกวาดเอาไขมันไปพอกที่ตับ แต่ไม่ได้แก้ปัญหาอย่างแท้จริง ขณะเดียวกันให้ลดยาเบาหวานเหลือ 1 เม็ด 2 เวลา

พิรุณตั้งใจทำตามสูตรล้างพิษตับอ่อนนี้อย่างเข้มงวด แล้วผลเลือดของเขาก็ลดลงเป็นลำดับ ดังนี้คือ :

คุณหมอที่โรงพยาบาลเริ่มลดยาเบาหวานเป็น 1 เม็ด 2 เวลาในการไปหาหมอครั้งต่อไป คุณหมอรู้สึกงงกับระดับน้ำตาลของเขาที่ลดลงอย่างรวดเร็ว ครั้งหลังสุดเมื่อเดือนมีนาคม ทั้งน้ำตาลและไขมันเลือดของเขาเป็นปกติหมดแล้ว โดยที่เขาไม่ได้กินยาลดไขมันเลยแม้แต่เม็ดเดียวตั้งแต่เริ่มแรก แต่เขาไม่ได้บอกกับหมอหรอก เพราะขี้เกียจที่จะเถียงกับคุณหมอซึ่งมีนโยบายอย่างเดียวคือ ใช้แต่ยา ยา และยา คุณหมอได้ลดยาเบาหวานของเขาลงเหลือเม็ดเดียวตอนเช้า เพราะยังลังเลใจที่จะงดยาเบาหวานให้เขาจนหมด

พิรุณหาโอกาสมาถามผมหลังผลเลือดเดือนมีนาคม ผมบอกเขาไปว่า

"งดยาให้หมดไปเลย คุณเอาชนะเบาหวานได้แล้วในเวลา 6 เดือน ด้วยสูตรล้างพิษตับอ่อน"

ที่มา
ธรรมชาติบำบัด
นพ.บรรจบ ชุณหสวัสดิกุล
dr.banchob@outlook.com
http://www.balavi.com
มติชนสุดสัปดาห์ประจำวันที่ 11-17 เมษายน 2557

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook