รักของพ่อคือภูมิคุ้มกันช่วยเด็กโตไปไม่มีปม
พ่อคือบุคคลที่มีอิทธิพลทางความคิดและพัฒนาการสำหรับลูกเป็นอย่างยิ่ง ในเด็กผู้หญิงนั้นพ่อคือต้นแบบของเพศตรงข้ามที่จะสร้างความประทับใจให้กับพวกเธอ ในขณะที่เด็กผู้ชายพ่อคือต้นแบบของการเติบโตและเป็นผู้ใหญ่ในรูปรอยที่ไม่ต่างจากพ่อของตนเอง
แต่ดูเหมือนว่าในปัจจุบันสถาบันครอบครัวของไทย คำว่าพ่อ แม่ ลูกนั้นจะเป็นเพียงแค่การใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันในบ้าน หากแต่ไม่ได้การเพาะเมล็ดพันธุ์ที่ดีให้เกิดขึ้น ทำให้หลายครอบครัวต้องเผชิญกับความรุนแรงในบ้าน จนทำให้ครอบครัวแตกแยก
ในวันพ่อแห่งชาติ กรมสุขภาพจิต ได้รณรงค์ให้มีการใช้ “FATHER” เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันให้ครอบครัว เพราะความอ่อนโยนของพ่อสามารถสร้างความผูกพันในครอบครัวที่จะเป็นภูมิคุ้มกันปัญหาความรุนแรงได้ โดย FATHER นั้นประกอบไปด้วย
F: FIRM คือ ความหนักแน่นมั่นคง ทั้งด้านอารมณ์และความคิด ที่มีความสม่ำเสมอ เช่น มีความชัดเจนให้กับลูกในการดำเนินชีวิต ให้เขามีเวลาในการตื่น กิน เล่น นอน เป็นกิจวัตร แต่มีความยืดหยุ่นไม่ตึงเครียดจนเกินไป ตลอดจนให้ลูกมีโอกาสได้เรียนรู้ทำอะไรด้วยตนเอง ไม่โกรธแค้น หรือโมโห เมื่อลูกทำสิ่งผิดพลาดหรือไม่ถูกใจ ให้ใช้เหตุผลคุยกัน
A: Appreciative คือ ชื่นชมยินดีกับลูก เมื่อลูกทำในสิ่งที่ดีงาม การแสดงความยินดีด้วยท่าทีที่แสดงออกด้วยรอยยิ้ม หัวเราะ ปรบมือ และโอบกอดนั้น ล้วนส่งผลดีต่อบุคลิกภาพ ความเชื่อมั่นในตัวเองของลูก และทำให้เขารู้ถึงคุณค่าในตนเอง อีกทั้งยังสร้างความทรงจำที่แสนดีที่มีต่อ “พ่อ” ได้ตลอดไป
T: Tender คือ การแสดงความรักอย่างนุ่มนวล สัมผัส โอบกอด พูดจาต่อกันด้วยความสุภาพ สร้างความรัก ความผูกพัน บรรยากาศดีๆ ให้เกิดขึ้นในครอบครัว
H: Honest คือ ความซื่อสัตย์ จริงใจ เป็นแบบอย่างของผู้นำครอบครัวที่มีความซื่อสัตย์ จริงใจให้ลูกเห็น เช่น ซื่อสัตย์และจริงใจ รักแม่ของลูก อยู่เคียงข้างและคอยดูแลกัน มีปัญหาก็คุยกัน ช่วยกันแก้ไข ให้เกียรติและยกย่องกันและกัน ไม่ให้บุคคลที่สามเข้ามาเกี่ยวข้องในชีวิตคู่
E: Encouraging คือ การให้กำลังใจส่งเสริม ให้ลูกได้ทำกิจกรรมที่เขาอยากทำด้วยความเต็มใจ ส่งเสริมให้ลูกมีจินตนาการและความคิดสร้างสรรค์ ปลอบประโลมและให้กำลังใจเมื่อลูกผิดหวังหรือรู้สึกท้อแท้
R: Responsible คือ ความรับผิดชอบ ทั้งในหน้าที่การงาน และชีวิตครอบครัว เป็นแบบอย่างที่ดีให้กับลูกด้านการประพฤติปฏิบัติตนที่ถูกต้อง เป็นที่ปรึกษาและให้คำแนะนำในทุกๆเรื่อง ประหยัดอดออม วางแผนการใช้จ่าย ในครอบครัว ชักจูงให้ปฏิบัติในสิ่งที่ดีงาม ทำความดี มีหลักศาสนายึดเหนี่ยวจิตใจ เป็นต้น
ซึ่งวิธีการดังกล่าวนั้นนับว่าเป็นการกระตุ้นเตือนให้เกิดสายใยความรักในครอบครัว ความห่างเหินระหว่างพ่อลูก ไม่ได้แค่ทำให้เด็กรู้สึกไม่มีต้นแบบ แต่ความห่างเหินระหว่างพ่อกับลูก จะทำให้เด็กไม่รู้ว่า ดูแบบอย่างในการเติบโตจากใคร และเหนืออื่นใดคือความรู้สึกที่ไม่ได้ความรักจากผู้เป็นพ่อเพียงพอ และ วิธีการ FATHER นี้จะช้สนสร้างความรักความผูกพันให้เกิดขึ้นในครอบครัว ซึ่งจะเป็นภูมิคุ้มกันปัญหาความรุนแรงในครอบครัวและสังคมได้เป็นอย่างดี