เปิดปมด้านมืด ชีวิตขมขื่นของลูกสาวยากูซ่า
ถ้าพูดถึงภาพจำของคนนอกประเทศที่มีต่อญี่ปุ่น นอกจากการฆ่าตัวตาย ซามูไร การ์ตูน แล้วละก็ อีกเรื่องที่โด่งดังก็คือ แก๊งมาเฟียที่ชื่อว่า ยากูซ่า
ยากูซ่าเป็นหนึ่งในสิ่งที่คนทั่วไปนึกออกแทบทันทีเมื่อพูดถึงญี่ปุ่น อันเกิดจากบรรดาวัฒนธรรมร่วมสมัยที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อเผยแพร่วัฒนธรรมของประเทศนี้ออกมา แน่นอนว่า หนังของทาเคชิ คิตาโน่เป็นตัวหลักที่ทำให้คนทั่วไปสร้างภาพของยากูซ่าขึ้นมาว่ามีรูปแบบนี้ในมโนสำนึกทันที หรือหนังแนวนี้อื่นๆ ที่เสมือนตัวมายาคติที่สร้างภาพของยากูซ่าว่า เป็นแก๊งที่มีความเท่ เปี่ยมด้วยคุณธรรม หรือมีรอยสักตามตัว รวมทั้งถืออาวุธอย่างดาบสู้กัน เป็นต้น
นี่ไม่รวมสื่ออย่างมังงะที่มีการสร้างภาพของยากูซ่าขึ้นมากมาย รวมทั้งภาพของลูกสาวยากูซ่าที่มีชีวิตอันสนุกสนาน และเต็มไปด้วยความสนุกสนาน เช่นมังงะเรื่อง ‘ครูสาวยากูซ่า’ ที่โด่งดังจนมีซีรีส์ภาพยนตร์ออกมาในหลายปีต่อมา สร้างภาพถึงความสวยงามของลูกสาวยากูซ่าขึ้นมาในความทรงจำของคนดู จนคิดว่าชีวิตของยากูซ่าจะสวยงามและน่าตื่นเต้นแบบที่เห็นในหนังหรือมังงะพวกนั้นหรือไม่
คนที่ตอบเรื่องนี้ได้คือ ลูกสาวยากูซ่าตัวจริงที่ชื่อว่า ‘โชโกะ เทนโด’
โชโกะ เทนโด เป็นลูกสาวของยากูซ่าแก๊งใหญ่ในโตเกียว ที่นำเรื่องราวของตัวเองมาเขียนเป็นหนังสือที่ชื่อว่า Yakuza Moon: Memoirs of a Gangster's Daughter หนังสือของเธอได้รับการตีพิมพ์ในญี่ปุ่นเมื่อปี 2004 และได้กลายเป็นหนังสือขายดีในประเทศ ก่อนจะได้รับการแปลเป็นภาษาอังกฤษเพื่อขายในอเมริกาและยุโรปในภายหลัง ซึ่งหนังสือเล่มนี้ได้รับความสนใจอย่างมาก เมื่อเธอนำเรื่องชีวิตของเธอมาตีแผ่บอกเล่าให้เห็นความมืดมิดและสวยงามของญี่ปุ่นที่ซุกซ่อนอยู่ด้านหลังความทันสมัย
“ตามจริงนะ ฉันเกลียดพ่อของฉันมาก” โชโกะเปิดเรื่องด้วยการเล่าถึงความสัมพันธ์ของเธอกับพ่อที่มักไม่ถูกกันเสมอๆ จนไม่กินเส้นกันบ่อยๆ ทว่ามีคำโบราณกล่าวไว้ว่า เกลียดอะไรก็มักจะได้อย่างนั้น โชโกะดำเนินรอยตามเขาแทบทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นการเสพยาเสติด หรือทำตัวเป็นคุณหนูยากูซ่าถือดาบฟาดฟันศัตรูอย่างบ้าคลั่ง โดยไม่ต้องสนใจสายตาของใครมาแล้ว
สำหรับโชโกะแล้ว ชีวิตของเธอในฐานะยากูซ่านั้นเป็นอะไรที่เรียกว่าราวกับความฝัน เธอมีชีวิตในวัยเด็กที่เต็มไปด้วยเงินทองสุขสบายราวกับเจ้าหญิง ถึงแม้จะมีคนรังเกียจก็ตาม แต่เธอก็ไม่สนใจ ทว่าทุกอย่างต้องพลิกจากหน้ามือเป็นหลังมือ เมื่อพ่อของเธอถูกจับเข้าคุก ก่อนจะออกจากคุกมาและเปลี่ยนไปกลายเป็นพวกเมาอาละวาด เธอตัดสินใจลาออกจากโรงเรียนแล้วไปเป็นพวกจิ๊กกี้ ไม่ยอมไปเรียนอีกเลย เธอต้องทรมานกับการติดยาเสพติดอย่างหนัก จนถึงการมีเซ็กซ์แบบบ้าคลั่ง ทำให้ต้องท้องก่อนกำหนด เธอต้องเผชิญหน้ากับชีวิตเหลวแหลกที่ต้องเจอเมื่ออดีตไล่ล่าเธออย่างหนัก แถมยังต้องเจอเรื่องเมื่อต้องเป็นเมียเก็บยากูซ่าที่มาแทนพ่อของเธออีกต่างหาก
ปัจจุบันพวกยากูซ่าพยายามเปลี่ยนแปลงอิมเมจตัวเองใหม่ด้วยการทำตัวดีขึ้น ช่วยเหลือผู้คนในยามยากลำบาก โดยเฉพาะกลุ่มยามากุจิกุมิที่ทำหน้าที่ช่วยเหลือคนที่ประสบภัยพิบัติสึนามิหรือแผ่นดินไหวมาแล้วก็ตาม ทว่าสิ่งที่พวกเขาไม่รู้คือ เบื้องหลังในมุมมืดของญี่ปุ่นยังมีการฆ่าฟันของบรรดายากูซ่ากลุ่มต่างๆ อยู่เช่นเดิม เพื่อแย่งอาณาเขตปกครองของกันและกัน
“ตอนอายุ 19 ฉันเกือบถูกพวกมือสังหารฆ่าตายในโรงแรม พวกเขาพยายามเข้ามาใกล้ฉันเพื่อจะฆ่าฉันให้ได้ เพราะฉันเป็นลูกสาวของยากูซ่า”
“ฉันถูกยิงนะ แต่ฉันคิดว่า ฉันไม่อยากมาตายที่นี่ตอนนี้ ไม่เอาเด็ดขาด ฉันฝืนร่างกายแล้วพาตัวเองกลับมาที่บ้านได้สำเร็จ พอมาถึงตอนนี้ฉันคิดได้ว่า ฉันจะต้องหยุด ไม่เอาอีกแล้วการเป็นยากูซ่า”
ด้วยเหตุนี้เธอจึงตัดสินใจที่จะทิ้งอดีตของตัวเองในช่วงอายุ 20 โดยมีท่อนบนของร่างกายถูกขีดเขียนด้วยรอยสักของยากูซ่าที่มีความหมายว่า โสเภณีจากนรก พร้อมกับความรู้สึกที่เคยสัมผัสกับกลิ่นอายอันตรายมาก่อน ทำให้เธอต้องทิ้งสัญชาตญาณพวกนั้นไปเพื่อเริ่มต้นชีวิตใหม่
เพียงแต่กว่าจะเริ่มชีวิตใหม่ได้ เธอต้องผ่านมือผู้ชายจำนวนมากกว่าจะตั้งหลักได้สำเร็จ
ตอนนี้เธอเป็นนักเขียน และก็แม่ที่ดีของลูกด้วย
ตัวของโชโกะทำงานด้านงานเขียนและเดินทางไปทั่วโลกพร้อมกับดูแลลูกเพียงลำพัง หลังจากหย่าร่างกับสามีไป แต่เธอก็ยืนยันว่าจะไม่ปิดบังลูกตัวเองเมือโตขึ้นมา รอยสักของเธอยังคงฝังตรึงไว้บนแผ่นหลังราวกับตอกย้ำให้เธอไม่ลืมอดีตว่า เธอคือใคร
“ฉันเคยมีช่วงเวลาชีวิตที่เลวร้ายในฐานะลูกสาวของคนเลว แต่เอาจริงแล้วคนเราเลือกเกิดไม่ได้ เราสามารถเลือกชีวิตของตัวเองได้ ดังนั้น ฉันควรจะพูดว่า ฉันภูมิใจนะที่มีพ่อเป็นยากูซ่า แน่นอนว่า ในโลกแห่งควันปืน มันไม่มีที่เหมาะสมสำหรับผู้หญิงแบบฉันหรอก แต่ฉันมีเลือดของเขาอยู่ในตัว”
โชโกะทิ้งท้ายพร้อมวางแผนจะเขียนหนังสือเล่มต่อไปของตัวเองอีก
เรื่อง : marsmag
ภาพ : internet