ผู้ชายคนนี้ กำลังหมดไฟ แนะนำ 4 วิธีหาทางออกเติมไฟให้ชีวิต
‘พอแล้ว’ ‘เบื่อไม่อยากทำ’ ‘เทงานไปเลยดีกว่า’ เชื่อว่าความรู้สึกนี้เป็นความรู้สึกที่คนทำงานจำนวนมากต้องเคยรู้สึกมาบ้าง ภาวะดังกล่าว เป็นภาวะที่กำลังบ่งบอกว่า คุณกำลังหมดไฟ (Burnout) เกิดความเหนื่อยล้าอย่างยิ่งยวด จนไม่อาจทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ รวมถึงอาจทำให้สูญเสียสมดุลระหว่างชีวิตการทำงานและการใช้ชีวิตส่วนตัวประจำวันได้เช่นกัน
โดยทั่วไปแล้ว สภาวะหมดไฟมักเกิดขึ้นจากความผิดหวังของเรา ผิดหวังจากคนรอบข้าง การที่รอบตัวเต็มไปด้วยเรื่องแย่ๆ ไม่มีเรื่องใดๆ ให้รู้สึกภูมิใจ หรือสนุกเสียเลย ถ้าหากคุณกำลังรู้สึกเช่นนี้ บอกเลยว่า คุณกำลังหมดไฟแล้วล่ะ ซึ่งการที่เรารู้สึกหมดไฟ ไม่อยากทำอะไร ย่อมไม่ใช่เรื่องดีแน่ๆ จำต้องรีบ ‘แก้ไข’ มันเสียแต่เนิ่นๆ
แล้ววิธีการใดเล่า ที่จะแก้ไขปัญหาเหล่านี้ได้?
ออกเดินทาง
หลายครั้งการที่ทำให้เราหมดไฟก็มาจากการที่เราถูกผูกติดกับสถานที่เดิมๆ และจำเจมากเกินไป ดังนั้นแล้วการรีบสะสางงานทุกอย่างให้เสร็จสิ้น แล้วเริ่มต้นแพ็คกระเป๋าออกเดินทางไปยังต่างประเทศ หรือต่างจังหวัด ก็เป็นหนึ่งในทางเลือกที่ดีเช่นกัน เพราะการเริ่มต้นออกเดินทาง ทำให้เราได้พบเจอสิ่งใหม่ สัมผัสประสบการณ์ใหม่ๆ
ทว่าถ้าหากชั่วโมงนั้น ทุนทรัพย์ที่เรามีไม่มากนัก ก็ยังมีทางเลือกอื่น ไม่ว่าจะเป็นการเปลี่ยนเส้นทางกลับบ้าน การออกไปขับรถเล่น แวะพักผ่อนในสวนสาธารณะ ก็ช่วยทำให้เราลดภาวะหมดไฟได้ทีเดียว
เสียเหงื่อให้กีฬา
บางครั้ง บางที การนั่งจมปลักกับงานที่เรารู้สึกแย่ และทำให้เรารู้สึกหมดไฟ ครั้นจะทู่ซี้ทำต่อไปก็คงไม่ใช่เรื่องดีต่อทั้งตัวเราเอง และงานที่อยู่ตรงหน้า การผละตัวเองออกจากงาน แล้วหันไปหารองเท้าวิ่ง หรือการออกไปยกลูกเหล็กในโรงยิม เป็นสิ่งที่ดีกว่า เพราะการออกกำลังกายสามารถลดความเครียด พร้อมขจัดปัญหาที่อยู่ในจิตใจของเราได้เป็นอย่างดี รวมถึงการพักผ่อนให้ร่างกายได้ผ่อนคลายก็เป็นสิ่งจำเป็นที่จะพาตัวเองออกจากสภาวะหมดไฟได้สำเร็จ
พบปะเพื่อนฝูง
การหมักหมมความทุกข์ในจิตใจไว้กับตัวเองโดยไม่ได้เปิดใจให้ใครสักคนได้รับฟังไม่ใช่เรื่องดีแน่ๆ ทางที่ดีการที่เราเลือกเพื่อนที่เรารู้สึกไว้ใจ และสามารถทำให้เรารู้สึกผ่อนคลายจากสถานการณ์ที่เป็นอยู่ นับเป็นทางออกที่ดี เพราะการได้เปิดใจระบายสิ่งที่เป็นอยู่ออกมาสู่ภายนอก ทำให้สิ่งที่คาใจถูกปลดปล่อยออกมา
อย่างไรก็ดี การเปิดอกพูดคุยกัน ถ้าหากเป็นปัญหาในที่ทำงาน การเลือกคุยกับเพื่อนร่วมงาน หรือหัวหน้าสายตรงของคุณก็เป็นเรื่องที่ดี เพราะจะทำให้เราและเพื่อนร่วมงานของคุณได้ทราบว่า เวลานี้คุณกำลังมีปัญหาในเรื่องใด และนั่นอาจนำมาสู่การแก้ปัญหาในเวลาต่อมา
มองปัญหาให้เป็นเกม
อันที่จริงชีวิตของเราที่วนเวียนอยู่บนโลกใบนี้ ก็เปรียบดั่งกับเกม เพราะในหลายช่วงชีวิตของเราก็จะต้องพบกับเรื่องราวที่สุดแสนจะบู๊ล้างผลาญ (Action) บางครั้งชีวิตก็เหมือนเกมแนววางแผน (Strategic) บางคราวก็ต้องผจญภัย (Adventure) เป็นต้น
เมื่อเป็นเช่นนี้ เราก็ควรมองปัญหาที่อยู่เบื้องหน้า เปรียบดั่งมันเป็น Quest หนึ่งของเกม ถ้าเรา ‘เคลียร์’ เกมไม่ได้ ก็อย่าเพิ่งยอมแพ้ กด Continue ไปเรื่อยๆ ไม่นานเราก็จะจับจุดการเล่นเกมนั้นๆ ได้เอง
อย่างไรก็ดี แม้มันอาจต้องใช้เวลาสักหน่อย ต้องทนอยู่กับความน่าเบื่ออยู่บ้าง แต่ถ้าเราสามารถ ‘เคลียร์’ เกมแห่งชีวิตลงได้จริงๆ เมื่อใด ความภาคภูมิใจ มันก็จะตกมาแก่เราเองอย่างแน่นอน