อดิศักดิ์ รักอริยะพงศ์ ต่อยอดธุรกิจครอบครัว ปั้น “เซ็ปเป้ บิวตี ดริงค์”

อดิศักดิ์ รักอริยะพงศ์ ต่อยอดธุรกิจครอบครัว ปั้น “เซ็ปเป้ บิวตี ดริงค์”

อดิศักดิ์ รักอริยะพงศ์ ต่อยอดธุรกิจครอบครัว ปั้น “เซ็ปเป้ บิวตี ดริงค์”
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ถือเป็นม้านอกสายตาที่กำลังมาแรงแซงโค้ง สำหรับนักธุรกิจหนุ่มไฟแรงคนนี้ "อดิศักดิ์ รักอริยะพงศ์" กรรมการผู้จัดการ บริษัท ทรัพย์อนันต์ เยนเนอรัลฟู้ด จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ "เซ็ปเป้ บิวติ ดริ้งค์"

รู้จัก "อดิศักดิ์ รักอริยะพงศ์"

อดิศักดิ์ รักอริยะพงศ์ หรือ "ก้อง" ปัจจุบันอายุ 37 ปี ดำรงตำแหน่ง กรรมการผู้จัดการ บริษัท ทรัพย์อนันต์ เยนเนอรัลฟู้ด จำกัด ผู้บริหารรุ่นใหม่เจนเนอร์เรชั่นที่ 2 ของครอบครัว สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีคณะบริหารการตลาด มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ หรือ เอแบค (ABAC) และปริญญาโท ด้านการจัดการ ที่ Nagoya University ประเทศญี่ปุ่น

ก่อนที่จะมาช่วยธุรกิจของครอบครัว คุณก้องเคยมีประสบการณ์การทำงานมาหลากหลายรูปแบบ อาทิ ขายข้าวโพดคั่ว เป็นพนักงานในร้านอาหาร และทำงานในบริษัทนำเข้าท่ออุตสาหกรรมที่ขายดีอันดับ 1 ในญี่ปุ่นมาแล้ว ปัจจุบันยังดำรงตำแหน่ง กรรมการผู้จัดการ บริษัท โตโยกซ์ เทรดดิ้ง (ไทยแลนด์) จำกัด ควบคู่กันด้วย

ความที่หนุ่มก้องเติบโตมาจากครอบครัวที่ดำเนินธุรกิจด้านการค้าขายขนมไทยอย่างคุกกี้ ครองแครง และมะขามแก้ว ทำให้มีความชอบและมีความมั่นใจด้านการขายเป็นพิเศษ โดยมีความเชื่อมั่นว่า "ต้องมีไอเดียที่แตกต่าง ควบคู่ไปกับความสุขและสนุกกับสิ่งที่ทำ"

แม้ในวัยเด็กจะเป็นเด็กที่ไม่ได้มีผลการเรียนที่ดีเด่นมาก แต่ด้วยความที่เป็นเด็กช่างจินตนาการ รักในการสร้างสรรค์ สนุกในการคิดอะไรที่แปลกใหม่ตลอดเวลา ทำให้สะท้อนออกมาในทุกรูปแบบที่อยู่รอบตัว และถูกนำมาใช้ในการดำเนินธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นผลิตภัณฑ์ การบริหาร รวมถึงแคมเปญส่งเสริมการตลาด

ทำให้บริษัท ทรัพย์อนันต์ เยนเนอรัลฟู้ด จำกัด หรือเซ็ปเป้ มีภาพลักษณ์ของ "บริษัทนักคิด" มากกว่าที่จะมุ่งขายผลิตภัณฑ์เพียงอย่างเดียว และหนุ่มก้องยังมุ่งหวังอยากให้ทุกคนได้สนุกกับการคิดเช่นเดียวกัน ผ่านกิจกรรมต่าง ๆ ที่เป็นตัวอย่างของความเป็นนักคิด เช่น กิจกรรม "SAPPE' idea exposure ปล่อยของ กับเซ็ปเป้ ฟอร์ วัน เดย์ น้ำผักสำหรับ 1 วัน" ที่เปิดเวทีให้เด็กรุ่นใหม่ได้ปล่อยไอเดียกันอย่างไม่จำกัด หรือแคมเปญที่คืนกำไรให้กับผู้บริโภคอย่างที่ไม่เคยมีใครทำมาก่อน คือ "รวยตลอดชาติ" มอบทองคำมูลค่า 20 ล้านบาท ให้แก่ผู้โชคดีรับไปเลยคนเดียว นับเป็นการแจกรางวัลที่มากที่สุดเท่าที่เคยมีมา

สานต่อธุรกิจครอบครัวก้าวสู่อันดับ 1 ในตลาดเครื่องดื่ม

อดิศักดิ์ นำพาบริษัท ทรัพย์อนันต์ฯ ก้าวขึ้นมาเป็นอันดับ 1 ในตลาดเครื่องดื่มในเวลาเพียงไม่กี่ปี จากจุดเริ่มต้นที่ผลิตเครื่องดื่มที่ไม่เหมือนใครออกสู่ตลาด เพื่อช่วยเหลือธุรกิจการทำขนมของครอบครัวที่ความนิยมของผู้บริโภคขนมไทยเริ่มลดลง

ระหว่างทางที่ดำเนินธุรกิจมีหลายครั้งที่ล้มลุกคลุกคลาน แต่ก็ไม่ได้ทำให้เกิดความท้อถอย เพราะนักบริหารหนุ่มคนนี้เชื่อมั่นว่า ปัญหาทุกอย่างมีคำตอบ หากสิ่งใดไม่ประสบความสำเร็จ แสดงว่าต้องมีจุดที่ผิดพลาด ต้องรีบค้นหาจุด ๆ นั้นให้พบแล้วแก้ไขให้ถูกต้อง ทุกอย่างก็จะดีขึ้นด้วยตัวของมันเอง ซึ่งเป็นแนวคิดที่ทำให้ เซ็ปเป้ บิวติ ดริ้งค์ สร้างรายได้ให้กับบริษัทฯ ทะลุเพดานไปที่เดือนละร้อยกว่าล้าน หรือปีละ 1,200 ล้านบาทในปัจจุบัน
หนุ่มก้อง ปั้น "เซ็ปเป้ บิวติ ดริ้งค์" ให้เป็นแบรนด์อันดับหนึ่งได้อย่างรวดเร็ว ด้วยความแปลกใหม่ โดดเด่น มีคุณภาพ และอร่อย โดยให้ความสำคัญตั้งแต่การคิดคอนเซ็ปต์ การวิจัย คัดสรรวัตถุดิบที่มีคุณภาพดีที่สุด ตลอดจนขั้นตอนการผลิตที่ทันสมัย และช่องทางการจัดจำหน่ายที่อำนวยความสะดวกให้กับผู้บริโภคอย่างเต็มที่

สิ่งสำคัญที่ทำให้มีวันนี้ หากจะกล่าวเป็นเชิงตัวเลข หนุ่มก้องกล่าวว่า ให้เปอร์เซ็นต์ในเรื่องไอเดียที่มีอย่างไม่เคยหยุดนิ่ง อยู่ที่ 35% แถมด้วยจังหวะที่เหมาะหรือโชคที่เข้าข้างอีก 5% ที่เหลือเกินกว่าครึ่ง คือ 60% คือความพยายามล้วน ๆ ที่ผู้ชายคนนี้มีอยู่ในตัวอย่างท่วมท้น

ประสบการณ์จากการใช้ชีวิตที่ประเทศญี่ปุ่น เมืองแห่งความเจริญและความคิดสร้างสรรค์ ทำให้หนุ่มก้องมองเห็นช่องว่างในตลาดเครื่องดื่มของไทย จึงได้นำเครื่องดื่มแนวใหม่ตัวแรกออกสู่ตลาดในปี 2546 ภายใต้แบรนด์ "โมกุโมกุ" (แปลว่า เคี้ยวตุ้ยๆ) ตามด้วยเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพที่มีคอนเซ็ปต์เฉพาะตัว อีกหลายต่อหลายผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์ "เซ็ปเป้"

จนในปี 2551 นักธุรกิจหนุ่มคนนี้ก็ได้สร้างหน้าประวัติศาสตร์ใหม่ให้กับตลาดเครื่องดื่มของไทย เมื่อ "เซ็ปเป้ บิวติ ดริ้งค์" เครื่องดื่มฟังชันนัลดริ้งค์รายแรกที่ชูแนวคิด "แค่ดื่ม..ก็สวย" ซึ่งตรงกับความต้องการของผู้บริโภคที่ให้ความสำคัญกับเรื่องของความงาม ประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็ว เป็นการทำ "แจ๊กพอตแตก" ในชีวิต ซึ่งในขณะนั้นไม่ได้ใช้งบการตลาดเลยแม้แต่น้อย
Innovative และ Packaging คือหัวใจ

ผลิตภัณฑ์ของบริษัท ทรัพย์อนันต์ฯ หรือ "เซ็ปเป้" มุ่งเน้นในเรื่องของการสร้างความแปลกใหม่ หรือ Innovative ไม่เหมือนใคร โดยมีแนวคิดว่าหากผู้บริโภคต้องการรูปแบบที่ไม่เหมือนใครต้องเลือก "เซ็ปเป้" แนวคิดนี้สามารถเห็นได้ชัดจากที่ทุกผลิตภัณฑ์ของบริษัทฯ จะเป็นผู้เล่นรายแรกในตลาดเสมอ ไม่ว่าจะเป็นน้ำผลไม้ผสมวุ้นมะพร้าว โมกุโมกุ เครื่องดื่มน้ำผลไม้ผสมว่านหางจระเข้ เซ็ปเป้ อะโลเวร่า เซ็ปเป้ บิวติ ดริ้งค์ เซ็ปเป้ สมาร์ทที ดริ้งค์
และล่าสุดคือ น้ำผักและผลไม้ 100% "เซ็ปเป้ ฟอร์วันเดย์" ซึ่งเป็นน้ำผลไม้ในขวด PET รายแรกของตลาด เน้นคุณค่าจากผักโดย 1 ขวดเท่ากับปริมาณผักที่ร่างกายต้องการสำหรับ 1 วัน มีรสชาติที่เข้มข้น อร่อยกว่าใคร อุดมไปด้วยคลอโรฟิลล์และไฟเบอร์ เหมาะกับคนที่รับประทานผักน้อย และผู้รักสุขภาพทุกคน

บริหารและทำงานอย่างมีความสุขและสนุกกับงาน

ในด้านการบริหารนั้น หนุ่มก้องจะให้ความสำคัญกับบุคลากรเป็นอันดับแรก เพราะทุกคนเป็นหัวใจสำคัญในการขับเคลื่อนให้องค์กรไปสู่ความสำเร็จ เขาจึงมุ่งเน้นให้พนักงานทุกคนได้ทำงานอย่างมีความสุข เพราะเชื่อว่าหากทุกคนทำงานอย่างมีความสุขและสนุก งานย่อมออกมาดีโดยที่ไม่ต้องตั้งเป้า นอกจากนี้ ยังให้ความสำคัญกับพันธมิตรทางธุรกิจ คู่ค้า และลูกค้าอีกด้วย โดยจะร่วมเป็นวิทยากร แชร์ไอเดียในเวทีต่าง ๆ ทุกครั้งเมื่อมีโอกาส เพื่อช่วยส่งเสริมผู้ประกอบการ ร้านค้า นักเรียนนักศึกษา ตลอดจนผู้บริโภค ได้รับมุมมองและความรู้ไปพัฒนาธุรกิจหรือวิชาชีพของตัวเอง นำไปสู่การดำเนินธุรกิจที่ประสบความสำเร็จร่วมกัน

จริงใจซื่อสัตย์ ปรัชญาการทำงาน

ด้วยพื้นฐานที่ได้รับการปลูกฝังจากครอบครัวทำให้หนุ่มก้อง มีมุมมองในด้านปรัชญาการทำงานที่ยึดมั่นถือมั่นเรื่องของความจริงใจและความซื่อสัตย์ทั้งกับตนเอง พนักงาน ลูกค้า ตลอดจนคู่ค้าเป็นสำคัญ เพราะมีส่วนสำคัญในการเติบโตของธุรกิจทั้งในและต่างประเทศ พร้อมลงมือทำด้วยความสนุกกับความคิดที่สร้างสรรค์เสมอ สร้างความแตกต่างและก้าวไปกับโลกที่ไม่หยุดหมุน

อีกทั้ง พร้อมที่จะเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ และมีแนวคิดที่จะพัฒนาอย่างต่อเนื่องในทุกด้าน เพื่อที่จะให้ บริษัท ทรัพย์อนันต์ เยนเนอรัลฟู้ด จำกัด เป็นผู้สร้างสรรค์ประโยชน์และความสุขให้กับผู้บริโภค และพนักงานทุกคนได้ทำงานอย่างมีความสุข
เติมเต็มไอเดียด้วยการอ่าน การดูวันว่างสำหรับผู้ชายทำงานคนนี้ เวลาส่วนใหญ่จะหมดไปกับการอ่านและการชมรายการที่ชื่นชอบ "ยามว่างจะชอบอ่านหนังสือแนวอัตชีวประวัติ How to หรือเรื่องที่สนใจในช่วงเวลานั้น ๆ เพื่อนำความรู้มาต่อยอดไอเดีย ชอบดูหนัง ดูการแข่งขันชกมวย K-1 และเชียร์ทีมฟุตบอลไทย โดยมีความฝันว่าอยากเห็นทีมฟุตบอลไทยไปแข่งฟุตบอลระดับโลก

นอกจากนี้ ถ้ามีเวลาก็จะชอบไปออกกำลังกายโดยการออกรอบตีกอล์ฟ และดำน้ำ ส่วนของรักของหวงนอกจากหนังสือของหนุ่มเมืองจันทร์แล้ว ก็เห็นจะเป็นนาฬิกา Panerai ชอบที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ให้ความรู้สึกถึงความประณีตและมีคุณค่าของชิ้นงาน และความตั้งใจของผู้ผลิต"

นับเป็นนักบริหารรุ่นใหม่ไฟแรง ที่มีหลักการบริหารธุรกิจเชิงสร้างสรรค์ และมีศิลปะในการบริหารจัดการ ที่มาพร้อมกับแรงบันดาลใจและไอเดียที่มีอยู่มากมาย พร้อมตอบสนองผู้บริโภคแบบไม่มีที่สิ้นสุด

ผู้เขียน : ณัฐกานต์
ช่างภาพ : ณัฐกานต์

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook