จัดอันดับ 10 รองเท้าสนีกเกอร์ขายดีที่สุดประจำปี 2017
ปี 2017 ที่ผ่านพ้นไปได้สองเดือนเศษๆ นับได้ว่า เป็นปีที่มีวงการรองเท้ามีความคึกคักอย่างยิ่ง ทั้งการประกาศลงมาเล่นในตลาดรองเท้าสนีกเกอร์อย่างแบรนด์ Balenciaga หรือแม้แต่การพุ่งเป้าไปยังสินค้าจำพวกสปอร์ตแฟชั่นของแบรนด์ Under Armour อย่างรุ่น HOVR ที่เปิดตัวไปในช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ 2018 นั่นจึงทำให้ในปี 2018 วงการรองเท้าสนีกเกอร์น่าจะมีอะไรให้ติดตามมากกว่าที่เป็นอยู่
ส่วนยอดขายรายได้รองเท้าสนีกเกอร์ในปี 2017 ที่ผ่านมา NPD Group หน่วยงานวิจัยด้านการตลาดกีฬา ได้มีการประเมิน รองเท้าที่คาดว่ามียอดขายสูงที่สุดในปี 2017 ออกมา โดยหลักๆ แล้วรองเท้ายอดนิยมยังคงเป็นแบรนด์รองเท้าอย่างไนกี้ (Nike) และอาดิดาส (Adidas)
เอาเป็นว่า ไม่ต้องพูดพร่ำอะไรมาก มาดูการประมาณการยอดขายสนีกเกอร์ยอดนิยมประจำปี 2017 เลยดีกว่า
10. Jordan VI
รองเท้ารุ่นนี้มาในสไตล์ย้อนยุค โดยหยิบเอาโฆษณา 'Like Mike' ของไนกี้ในปี 1991 มาปัดฝุ่นใหม่ เพื่อเป็นการคารวะ Michael Jordan นักบาสระดับตำนานของโลก ส่วนราคาจำหน่ายในไทยคู่นี้อยู่ที่ 6,700 บาท
9. Jordan XI
ไม่ต่างไปจาก Jordan VI เพราะรองเท้าคู่นี้ก็เป็นรองเท้าในสไตล์ย้อนยุคเช่นกัน ซึ่งอันนี้ต้องยอมรับว่า แม้จะเป็นรองเท้าในสไตล์ย้อนยุค แต่ก็ยังสวย เฉียบ เหมาะกับการแต่งกายแนวสตรีทในปัจจุบันได้อย่างลงตัว ทางด้านราคาจำหน่ายแพงกว่า Jordan VI ด้านบนสักหน่อย เนื่องจากรุ่นนี้วางจำหน่ายในราคา 7,600 บาท
8. Adidas Tubular Shadow
รูปทรงรองเท้าตระกูล Tubular เป็นรองเท้าที่มีรูปลักษณ์คล้ายกับรองเท้าวิ่ง แต่ในรุ่น Tubular Shadow ได้มีการออกแบบใหม่ ทำให้รองเท้ามีน้ำหนักเบาขึ้น แต่ยังคงความแข็งแรง ทนทานเอาไว้ นอกจากนี้การดีไซน์จะเน้นไปที่ความกระชับ รุ่นนี้เปิดตัวในราคา 5,000 บาท
7. Jordan XIII
จุดเด่นที่ทำให้รองเท้า Jordan XIII ได้รับการยอมรับอย่างมาก และส่งผลให้ยอดขายทะลุเกินเป้านั้น อยู่ที่การออกแบบ เพราะด้วยโครงสร้างหนังทั่วทั้งรองเท้า อีกทั้งยังมีดีเทลที่บ่งบอกถึงไมเคิ่ล จอร์แดน ซึ่งรองเท้ารุ่นนี้ถือว่า เป็นรุ่นพรีเมี่ยมอีกรุ่นหนึ่งของซีรีส์ Jordan
6. Jordan IV
ว่ากันตามตรง การออกแบบของรุ่นนี้ไม่หนีจาก Jordan VI มากนัก เพียงแต่มีการใช้วัสดุที่แตกต่างกัน โดย Jordan IV ได้ปรับโฉมใหม่อยู่ในรูปลักษณ์วินเทจ จุดเด่นของรองเท้าคู่นี้ อยู่ตรงที่เป็นรองเท้าที่มีความนุ่ม กระชับ ทำให้การสวมใส่สบายเป็นที่สุด โดยถ้าอยากได้ความวินเทจของรองเท้าคู่นี้ ต้องแลกมากับเงินจำนวน 6,700 บาท
5. Nike Revolution 3
อันดับต่อมา ก็ยังคงอยู่ที่ไนกี้ เพียงแต่ไม่ใช่รองเท้าในซีรีส์ Jordan แต่เป็นซีรีส์ Nike Revolution 3 โดยรองเท้ารุ่นนี้ เป็นรองเท้าในกลุ่มของนักวิ่ง มีการออกแบบหน้ารองเท้าด้วยผ้าถักในลักษณะตาข่ายที่จะช่วยเรื่องการระบายอากาศ ไม่ให้เกิดการอับชื้น หรือมีกลิ่น อีกทั้งด้วยความที่เป็นรองเท้าวิ่ง ไม่ว่ายังไงก็ต้องเน้นเรื่องของความนุ่ม ความสบายเท้าเป็นสำคัญ ซึ่ง Nike Revolution 3 เปิดตัวมาในราคา 2,500 บาท มีรองรับทั้งผู้ชาย ผู้หญิงและเด็ก
4. Adidas Superstar
ถ้าหากไนกี้มีรุ่น Jordan เป็นรุ่นชูโรง ทางฝั่งคู่ปรับตลอดกาลอย่างอาดิดาส ก็มีรองเท้ารุ่นชูโรงเช่นกัน นั่นคือ Adidas Superstar ที่ยังคงความน่าสนใจในทุกๆ ปีที่มีการเปิดซีรีส์รุ่นนี้ ที่น่าสนใจคือ ในยุคหลังๆ อาดิดาส ได้มีการทำความร่วมมือกับศิลปิน และ ดีไซเนอร์ในการออกแบบ และพัฒนา Adidas Superstar ให้มีรูปโฉมที่เท่ โฉบเฉี่ยวมากขึ้น เช่น การทำความร่วมมือกับ Pharrell Williams เป็นต้น
3. Nike Air Huarache
ดูเหมือนว่า ไนกี้ จะชื่นชอบรองเท้าที่มีกลิ่นอายเรโทรผสมวินเทจมากทีเดียว ดังเช่นในรุ่น Nike Air Huarache ซึ่งได้รับการตอบรับอย่างดีเยี่ยม จนทำให้ยอดขายอยู่ในอันดับสาม จากการจัดอันดับ โดย Nike Huarache เป็นผลงานดีไซน์ของ Tinker Hatfield ซึ่งเป็นรองเท้าสายวิ่งที่วางจำหน่ายในปี 1991 กระทั่งได้รับความนิยมมากขึ้น และขยายไลน์ผลิตภัณฑ์เป็นรองเท้าวิ่ง ต่อด้วยการเป็นรองเท้าสตรีทแวร์ ส่วนราคาจำหน่ายก็ถือว่า โอเค ไม่แพงมากที่ 4,600 บาท
2. Chuck Taylor All-Star Low
หลายคนอาจไม่ทราบ ปัจจุบันคอนเวิร์ส (Converse) เป็นหนึ่งในแบรนด์ย่อยของไนกี้ แต่แม้ว่าไนกี้จะเข้ามาเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ในคอนเวิร์ส แต่การออกแบบของคอนเวิร์สก็ยังคงเป็นคอนเวิร์สที่เราคุ้นเคยกันดี โดยรองเท้า Chuck Taylor All-Star Low แรกเริ่มเดิมทีก็เป็นรองเท้าบาส โดยมีนักบาสเกตบอลชื่อดัง Charles H. “Chuck” Taylor เป็นตัวแทนของรองเท้าคู่นี้ ก่อนที่จะส่งต่อความยิ่งใหญ่จากรุ่นสู่รุ่น และยังได้รับความนิยมจนถึงปัจจุบัน
1. Nike Tanjun
สำหรับรองเท้าที่ขายดีที่สุด ตามการวิจัยตลาดของ NPD Group ยกให้ Nike Tanjun เป็นรองเท้าที่ขายดีที่สุดในปี 2017 โดยชื่อ Tanjun นั้นมาจากคำในภาษาญี่ปุ่น ที่มีความหมายว่า 'เรียบง่าย' ซึ่งบ่งบอกถึงคาแรคเตอร์ของรองเท้าคู่นี้ ที่เน้นความเรียบง่าย แต่การออกแบบสวยงาม น่าหลงใหล เป็นรองเท้าที่สามารถใส่ได้ทุกสภาวะ ทุกการแต่งกาย อีกทั้งการออกแบบของ Nike Tanjun ได้เลือกใช้ผ้าที่มีลักษณะระบายอากาศได้ดี ในส่วนพื้นรองเท้าได้ใช้โฟมที่มีความนุ่ม เหมาะกับการเดินทางด้วยเท้าสำหรับการท่องเที่ยวในต่างแดน
นอกจากนี้ สาเหตุที่ทำให้ Nike Tanjun ได้รับความนิยม อาจเป็นเพราะราคาเปิดตัวรองเท้าคู่นี้ไม่แพงมากนัก โดยในราคาไทย เปิดตัวมาในราคาเพียงแค่ 2,300 บาทเท่านั้น ทำให้ชาวสตรีทแฟชั่นที่งบน้อย สามารถเข้าถึงรองเท้าที่ดีไซน์สวย และประสิทธิภาพดีได้ในเวลาเดียวกัน
สรุป
ในภาพรวม แม้ว่าไนกี้จะยังคงเป็น 'เต้ย' ในวงการรองเท้าก็ตาม แต่จากการจัดอันดับของ NPD Group มีความน่าสนใจตรงที่แบรนด์อย่างอาดิดาสเริ่มที่จะตามติดไนกี้ในด้านยอดขายและความนิยมมากขึ้น ซึ่งที่ผ่านมาการจัดอันดับของ NPD Group ทางฝั่งอาดิดาสจะมีรองเท้าติดท็อปยอดขายเต็มที่ก็ได้แค่รุ่นเดียว แต่ในปี 2017 กลับมีติดโผมาถึงสองรุ่น ทั้งหมดนั้น น่าจะสะท้อนให้เห็นหลังจากปี 2018 ลงมาได้เหมือนกันว่า ตลาดรองเท้าแฟชั่น บัลลังก์ของไนกี้มีโอกาสสั่นคลอนลงได้ทุกเมื่อ