Michael B. Jordan เตรียมตัวอย่างไรก่อนรับบท "Killmonger" ในภาพยนตร์ Black Panther
Black Panther ภาพยนตร์จากค่ายมาร์เวล (Marvel) ที่กำลังสร้างปรากฏการณ์กวาดรายรับทั่วโลกอย่างบ้าคลั่ง ซึ่งอาจไม่ใช่เรื่องแปลกนัก เนื่องจาก Black Panther เป็นภาพยนตร์ที่มีส่วนผสมลงตัว ทั้งในส่วนเนื้อเรื่องที่มีโครงสร้างแข็งแรง การคัดเลือกตัวนักแสดงก็ทำได้อย่างยอดเยี่ยม ไปจนถึงการนำเสนอมุมมองทางการเมือง สังคม และความเท่ากันของเพื่อนมนุษย์ได้อย่างแยบยลและคมคายยิ่งนัก
โดยเฉพาะตัวละคร Killmonger ตัวร้ายของเรื่อง รับบทโดย Michael B. Jordan กำลังได้รับการกล่าวขวัญเป็นอย่างมาก จากผู้สันทัดกรณีในแวดวงภาพยนตร์ แฟนคลับผู้คลั่งไคล้ซูเปอร์ฮีโร่ ต่างให้การยอมรับความสามารถทางการแสดงของ Michael B. Jordan ที่ทำให้ตัวร้ายของเรื่องอย่าง Killmonger มีมิติ มีมุมมองที่หลากหลาย จนสามารถย่างกรายเข้าไปนั่งในใจคนดู กระทั่งได้การยอมรับว่า Killmonger เป็นหนึ่งในวายร้ายที่ดีที่สุดตลอดกาลคนหนึ่งของภาพยนตร์จักรวาลมาร์เวลเลยทีเดียว
แต่ก่อนหน้าที่ Michael B. Jordan จะประสบความสำเร็จจากการรับบทนำร่วมกับ Chadwick Boseman เจ้าของบทเสือดำ Black Panther ครั้งหนึ่ง Michael B. Jordan เองก็เคยพานพบกับช่วงที่ยากลำบากในอาชีพนักแสดงเช่นกัน นั่นคือ การที่ภาพยนตร์ '4 กายสิทธิ์' Fantastic Four ฉบับรีบูทล้มเหลวไม่เป็นท่า ทำให้ชื่อของนักแสดงหลายคนในภาพยนตร์เรื่องนั้น จากที่เคยเป็นดาวรุ่ง กลับต้องกลายเป็นดาวร่วง เพียงชั่วข้ามคืน
อ่านเพิ่มเติม: รู้จัก ‘Chadwick Boseman’ เจ้าของบท Black Panther
แก้ตัวสำเร็จ
อย่างไรก็ตาม Michael B. Jordan มีโอกาสกู้ชื่อเสียงกลับมาอีกครั้ง เนื่องจากในช่วงปลายปี 2015 ยังมีภาพยนตร์ที่ Jordan นำแสดงอย่าง Creed ซึ่งเป็นไซด์สตอรี่ของภาพยนตร์ระดับตำนานอย่าง Rocky เข้าฉาย และ Michael B. Jordan ก็ทำได้สำเร็จ เมื่อ Creed สามารถกวาดรายรับได้มากถึง 176 ล้านดอลลาร์สหรัฐ พร้อมกับได้รับคำชื่นชมทั้งจากนักวิจารณ์และกลุ่มคนดูทั่วไป โดยเว็บไซต์ Rotten Tomatoes หรือเว็บมะเขือเน่า ได้ให้คะแนน TOMATOMETER แก่ภาพยนตร์เรื่องนี้มากถึง 95%
จากความสำเร็จของภาพยนตร์ Creed ทำให้มาร์เวล เห็นแววที่จะนำความสามารถทางการแสดงของ Jordan มาใช้ประโยชน์ใน Black Panther เนื่องจากภาพยนตร์ Creed ที่เป็นผลงานก่อนหน้านั้น ก็เป็นภาพยนตร์ที่มีความดราม่าสูง ขณะเดียวกัน Jordan ก็มีร่างกายที่กำยำ สามารถเล่นภาพยนตร์ซูเปอร์ฮีโร่ได้ไม่ยาก นั่นจึงทำให้บท Killmonger วายร้ายของกษัตริย์ของ T'Challa ตกมาอยู่ในมือของเขานั่นเอง
ฝึกหนักก่อนเข้าฉากเป็น Killmonger
Michael B. Jordan เคยให้สัมภาษณ์ใน The Ellen DeGeneres Show รายการวาไรตี้สุดฮิตของอเมริกา ที่มี Ellen DeGeneres เป็นผู้ดำเนินรายการ เขาให้สัมภาษณ์ว่า ก่อนที่เข้าฉากเป็น Killmonger สำหรับการถ่ายทำภาพยนตร์ Black Panther ในการรับบทครั้งนี้ ทำให้เขาต้องใช้เวลาอยู่ในยิมเป็นเวลานานมาก ในวันหนึ่งๆ เขาต้องเข้ายิม 2-3 ครั้งต่อวัน และเมื่อร่างกายมีการใช้แรงที่มากขนาดนั้น ก็ทำให้ Jordan ต้องรับประทานอาหารหนึ่งวันมากถึง 6 มื้อ และดื่มน้ำมากกว่า 4 ลิตรต่อวัน
"ผมอุทิศทุกอย่างเพื่อให้ได้ร่างกายที่สมบูรณ์แข็งแรงสำหรับภาพยนตร์เรื่องนี้"
พร้อมกันนี้ Jordan ยังบอกด้วยว่า ด้วยการทุ่มเทอย่างหนักเพื่อ Black Panther ทำให้เขาต้องปรับเปลี่ยนไลฟ์สไตล์ตัวเองอย่างหนัก ไม่สามารถพบปะเพื่อนฝูงเข้าสังคม และลังเลที่จะออกไปแฮงก์เอาต์กับเพื่อนๆ นั่นเป็นเพราะอาหารการกินที่ไม่เหมือนกัน และการที่ Jordan อยู่ระหว่างการสร้างกล้ามเนื้อ จึงจำเป็นต้องให้ความสำคัญด้านโภชนาการอย่างยิ่ง
ฝึกอย่างไรจึงจะมีร่างกายอย่าง Killmonger
ในขั้นของการฝึกฝนร่างกายนั้น ไม่มีการเปิดเผยอย่างแน่ชัด แต่เมื่อดูจากฉากที่อยู่ในภาพยนตร์ เป็นที่ชัดเจนว่า Michael B. Jordan น่าจะถูกเคี่ยวกรำในการฝึกฝนร่างกายอย่างมาก ทั้งการฝึกหน้าอกด้วยท่า Bench Press เพิ่มความแข็งแกร่งของกล้ามเนื้อส่วนหลังด้วยท่า Lat Pull-Down
พร้อมกันนี้เพื่อให้ร่างกายรองรับกับน้ำหนักและกล้ามเนื้อส่วนบน ดังนั้น ท่า Dead Lifts จึงเป็นท่าที่ต้องให้ความสำคัญมากเป็นพิเศษ เพื่อให้ร่างกายส่วนล่าง ตั้งแต่บริเวณใต้สะดือลงไป สามารถรองรับน้ำหนักจากกล้ามเนื้อช่วงบน ซึ่งท่า Dead Lifts จะมอบกล้ามเนื้อส่วนก้น หน้าขา หลังขา แผ่นหลัง และต้นขาด้านใน เพื่อเสริมสร้างความสมบูรณ์ของมัดกล้ามจนทั่วร่างกาย
Corey Calliet เทรนเนอร์ส่วนตัวของ Jordan บอกว่า บทบาทการเป็น Killmonger ทำให้ Michael B. Jordan ต้องเพิ่มกล้ามเนื้ออีก 15 ปอนด์ (6 กิโลกรัม) ซึ่งมากกว่าเมื่อครั้งที่เป็นนักแสดงนำในเรื่อง Creed เสียอีก
ผลงานหลังจากนี้
ภายหลังเสร็จสิ้นจากบทบาท Killmonger แล้ว ในช่วงปลายปี 2018 เราจะยังได้มีโอกาสรับชมภาพยนตร์ฝีมือการแสดงของ Michael B. Jordan อีกครั้งหนึ่ง นั่นคือ Creed II ภาพยนตร์ภาคต่อจากเมื่อปี 2015 และในระหว่างนี้ Jordan ก็กำลังอยู่ระหว่างการพัฒนากล้ามเนื้อร่วมกับ Corey Callie เทรนเนอร์คู่ใจเหมือนเดิม