เพศศึกษาในบ้าน
ผมเป็นพ่อของลูกอายุ 7 ขวบ ซึ่งเริ่มมีคำถามมากมายในเรื่องเพศ มากกว่าคำถามพื้นๆ ว่าทารกเกิดมาจากไหน ความจริงครอบครัวเราค่อนข้างเปิดกว้างในเรื่องนี้ แต่ผมก็ยังรู้สึกอึดอัดใจในการพูด เพราะไม่รู้ว่าควรพูดควรให้ข้อมูลแค่ไหนดี อยากถามว่าความเหมาะสมในการให้ข้อมูลทางเพศแก่เด็กวัยนี้อยู่ตรงไหน
ไม่ง่ายเลยที่จะพูดกับลูกของคุณในเรื่องเซ็กซ์ ถ้ามันทำให้คุณรู้สึกกระอักกระอ่วนไม่ได้หมายความว่าคุณเป็นคนหัวโบราณ ความจริงแล้วผมรู้ดีว่าความไม่สบายใจที่พ่อแม่จำนวนมากรู้สึกไม่ได้เกิดจากความอายแต่เกิดจากความกลัว กลัวว่าบางอย่างที่พูดออกไปจะทำให้มีปัญหา พวกเขารู้ว่าเด็กๆ มักจะนำสิ่งที่ได้ยินไปพูดซ้ำ และไม่มีใครที่อยากให้คนอื่นตาค้างเมื่อได้ฟังความรู้ทางเพศของเด็กๆ
ที่ผ่านมาพ่อแม่ถูกกระตุ้นให้พูดเรื่องเพศกับลูกอย่างเปิดเผยและตรงไปตรงมาตั้งแต่เด็ก ขณะเดียวกันก็มีคนบอกพวกเขาว่าถ้าเด็กรู้เรื่องเพศมากกว่าความเหมาะสมของวัยอาจเป็นสัญญาณเตือนภัยของการถูกชักนำไปในทางที่ผิด โดยทั่วไปแล้ว ไม่มีใครคอยบอกพ่อแม่อย่างชัดเจนว่าความเหมาะสมกับวัยอยู่ตรงไหน
จริงๆ แล้วมันมีแนวทางของมันอยู่ เขียนโดยกลุ่มผู้เชี่ยวชาญจาก FutureOfSexEd.org พวกเขาบอกว่า เด็กอายุระหว่าง 5-8 ขวบ ควรเข้าใจในพื้นฐานกว้างๆ ว่าเรื่องเพศคืออะไร พวกเขาควรรู้อะไรมากกว่าความรู้ที่ว่าทารกเกิดมาอย่างไร แต่ไม่ควรลงไปในรายละเอียดที่ถึงเลือดถึงเนื้อถึงพริกถึงขิง
พออายุ 8 ขวบ เด็กควรรู้ชื่อเรียกที่ถูกต้องของอวัยวะทางเพศ ผู้ชายมีองคชาต ถุงอัณฑะ และลูกอัณฑะ องคชาตคือองคชาตไม่ใช่จู๋หรือเจี๊ยว ส่วนผู้หญิงก็มีช่องคลอด รังไข่ และคลิตอริส ทุกคนมีหัวนม แต่เด็กผู้หญิงเมื่อโตขึ้นหน้าอกของเธอจะโตขึ้นด้วย
แม้ว่าเด็กๆ ไม่ควรจะอายในการใช้ชื่อเรียกที่ถูกต้อง แต่มีเหตุผลเช่นกันที่อวัยวะเพศถูกเรียกว่า “ของสงวน” นั่นก็เพราะมันเป็นสิ่งที่คนอื่นไม่ควรแตะต้อง และเด็กๆ ก็ไม่ควรแตะต้องของคนอื่น หากเด็กๆ ชอบจับอวัยวะเพศของตนเองเพราะรู้สึกมีความสุข พวกเขาควรรู้ว่านั่นคือการบำบัดความใคร่ให้ตัวเอง และมันควรจะทำในที่ลับตาคน
เด็กวัยนี้ควรมีความเข้าใจในเบื้องต้นว่า การผลิตซ้ำหรือการมีลูกของคนเรานั้นเกิดขึ้นได้อย่างไร มันเป็นช่วงอันเหมาะสมที่พวกเขาจะรู้ว่าสิ่งนั้นเกี่ยวข้องกับการมีเพศสัมพันธ์ การที่ผู้ชายสอดใส่องคชาตเข้าไปในช่องคลอดของผู้หญิง จากนั้นอสุจิจากลูกอัณฑะจะแข่งกันว่ายไปผสมกับไข่ที่ตกจากรังไข่
ไม่ใช่เรื่องแปลกที่พวกเขาจะรู้ว่าบางทีคนเราก็มีเพศสัมพันธ์กันเพื่อความสุข ยกตัวอย่างให้พวกเขาเห็นว่าการที่คนเรามีเซ็กซ์เพื่อเหตุผลอื่นนอกจากการมีลูกนั้น ก็เหมือนกับการที่คนเราแสดงความรักกับคนอื่น มันไม่ใช่เรื่องเลวร้ายหากลูกวัย 7 ขวบของคุณสามารถเข้าใจการเหน็บแนมทางเพศระหว่างโฮเมอร์กับมาร์จในการ์ตู นห่ามๆ ชุด The Simpsons แต่เด็ก 7 ขวบก็ไม่ควรรู้ซึ้งถึงสิ่งต่างๆ ที่คนในหนังทีวี JerseyShore เขาทำกัน ตัวอย่างที่ยกมาไม่มีอยู่ในคำแนะนำของผู้เชี่ยวชาญหรอก แต่ผมเป็นคนพูดเอง
แนวคิดเกี่ยวกับรักต่างเพศและรักร่วมเพศเหมาะที่เด็กควรจะรู้ตั้งแต่อยู่ชั้นอนุบาลเลยทีเดียว พวกหัวโบราณบางคนเกิดความตกใจที่รู้ว่าทุกวันนี้มีการพูดคุยอย่างกว้างขวางเกี่ยวกับเรื่องรักร่วมเพศในโรงเรียนชั้นประถม ไม่ว่ารับได้หรือไม่ได้แต่มีการพูดคุยกันเรื่องนี้แน่
ผมรู้จักคำว่า “queer” (รักร่วมเพศ) ตอนที่เรียนอยู่เกรดสอง แต่ตอนนั้น queer สำหรับผมคือคนที่เราวิ่งไล่จับในเกม “smear the queer” เท่านั้น ผมยังเรียนรู้จากเด็กๆ คนอื่นว่า การที่ถูกเรียกว่า “fag” นั้นเป็นการเสียเกียรติอย่างรุนแรง เพราะมันหมายถึงคนที่มีเพศสัมพันธ์ทางประตูหลังและเสี่ยงต่อการเป็นโรคเอดส์ ตอนนั้นผมไม่แน่ใจว่า “gaywad” หมายถึงอะไร คิดว่าบางทีมันอาจจะเป็นสัตว์มีขนตัวเล็กๆ เหมือนพวกอีว็อก
เด็กๆ ควรรู้ว่าพวกรักร่วมเพศ เกย์ และ เลสเบี้ยน คือผู้ชายและผู้หญิงที่ชอบและรักคนเพศเดียวกัน เด็กๆ ควรรู้ว่าคนที่เป็นพวกรักร่วมเพศไม่ควรถูกล้อเลียนหรือถูกทำร้าย แม้คนที่เป็นพ่อแม่จะรับไม่ค่อยได้กับเรื่องแบบนี้ก็ตาม แต่เด็กก็ไม่จำเป็นต้องรู้เรื่องการมีเพศสัมพันธ์ทางประตูหลังแต่อย่างใด
ทั้งหมดที่กล่าวมาคือภาพรวมๆ ของเรื่องราวที่ปรากฏอยู่ในคำแนะนำ ผมไม่ได้เอาทุกสิ่งมาเล่าให้ฟัง หากคุณอยากศึกษาด้วยตัวเอง ลองเข้าไปดูที่เว็บไซต์ FutureOfSexEd.org แต่จำไว้ว่าสิ่งเหล่านั้นเป็นแค่คำแนะนำไม่ได้เป็นกฎเกณฑ์ที่ต้องนำไปปฏิบัติ ไม่ผิดเลยที่เด็กอายุ 7 ขวบจะรู้บางสิ่งที่เชื่อกันว่าเหมาะสำหรับเด็กที่มีอายุมากกว่า หวังว่าสิ่งที่บอกมาทั้งหมดคงช่วยให้คุณตระหนักว่าสิ่งไหนควรพูดควรสอน สิ่งไหนที่ไม่ควร