"อเล็กซ์ เรนเดลล์" เมื่อ "รัก" ไม่เพียงพอ แต่ต้อง "รู้" เพื่อการอนุรักษ์ที่ยั่งยืน

"อเล็กซ์ เรนเดลล์" เมื่อ "รัก" ไม่เพียงพอ แต่ต้อง "รู้" เพื่อการอนุรักษ์ที่ยั่งยืน

"อเล็กซ์ เรนเดลล์" เมื่อ "รัก" ไม่เพียงพอ แต่ต้อง "รู้" เพื่อการอนุรักษ์ที่ยั่งยืน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ในวันที่อเล็กซ์ เรนเดลล์ให้คิวสัมภาษณ์แบบเอ็กซ์คลูซีฟกับทีมงาน sanook.com คือหลังเกิดเหตุการณ์เรือทัวร์ดำน้ำไฟไหม้ที่เกาะพีพีผ่านพ้นไปเพียง 1 วัน เราจึงได้เห็นความกังวลใจซึ่งเป็นอีกพาร์ทหนึ่งของเขา เหตุเพราะเรือลำนั้นคือเรือประจำที่เขาใช้บริการพาสมาชิกค่าย EEC (Environmental Education Centre) ศูนย์การเรียนรู้สิ่งแวดล้อมที่เขาก่อตั้งไปดำน้ำ

 อเล็กซ์ เรนเดลล์อเล็กซ์ เรนเดลล์

อเล็กซ์ เรนเดลล์นักแสดงหนุ่มที่หลายคนอาจเคยเห็นเขาอยู่ในวงการบันเทิงมาตั้งแต่อายุ 4 ขวบ จนวันนี้เข้าสู่ขวบวัยใกล้ 30 เขาเลือกที่จะสร้าง EEC ธุรกิจในลักษณะ Social Enterprise เพื่อแก้ปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมผ่านในรูปแบบของการออกค่าย กิจกรรมเพื่อการศึกษาอื่นๆ แทนการเปิดร้านอาหาร ขายของเล็กๆ น้อยๆ ผ่านไอจีเหมือนนักแสดงคนอื่น

สิ่งที่บ่มเพาะให้อเล็กซ์หันมาสนใจเรื่องนี้สืบเนื่องมาจากวัยเด็กได้เข้าป่าไปช่วยครูอลงกต ชูแก้ว (ผู้ออกแบบหลักสูตรการสอนของ EEC ปัจจุบัน) รักษาช้าง แม้ตอนนั้นเป็นแค่เรื่องราวสนุกๆ ของเด็กชายวัย 10 ขวบ แต่พอผ่านพ้นสู่ระดับมหาวิทยาลัย ความคิดอ่านของเขาก็เปลี่ยนไป การดำน้ำทำให้เขาได้เห็นโลกใต้ท้องทะเล เห็นการใช้ช้างมาบำบัดเด็กตาบอด และสิ่งเหล่านี้จุดประกายให้เขารู้สึกว่าการมีความรู้จะทำให้การทำงานด้านการอนุรักษ์กว้างขึ้น

 อเล็กซ์ เรนเดลล์อเล็กซ์ เรนเดลล์

Sanook! Men กับบทสัมภาษณ์งานด้านสิ่งแวดล้อมที่อเล็กซ์ทุ่มเวลาส่วนหนึ่งให้แทนการเทคิวทั้งหมดกับงานบันเทิง ผลตอบแทนที่ได้เป็นเพียงค่าเบี้ยเลี้ยงวันละ 3,000 บาทจากการเป็นครูสอนดำน้ำ กระทั่งเคยเข้าเนื้อเพราะควักเงินตัวเองจ่ายค่าไอศกรีมให้เด็กๆ ในค่าย ทั้งหมดนี้เพียงเพราะเขาต้องการสร้างให้เด็กๆ ในวันนี้กลายเป็นคนที่น่ารักสำหรับคนรอบข้าง สังคม และขยายไปสู่โลกหากมันจะเป็นไปได้ สิ่งที่เขาทำเมื่อกว่า 3 ปีก่อนคงเริ่มมีคนเห็นเพราะล่าสุดองค์การสหประชาชาติหรือยูเอ็นเชิญให้เขาร่วมเสวนาเรื่องมลพิษทางอากาศในงาน ‘2018 Asia Pacific Clean Air Partnership Join Forum’

 อเล็กซ์ เรนเดลล์อเล็กซ์ เรนเดลล์

ล่าสุดคุณได้ขึ้นพูดบนเวทียูเอ็นด้วย สำหรับคุณถือเป็นอีกขั้นหนึ่งของ EEC หรือเปล่า

ผมไม่ได้ตั้งใจขึ้นไปพูดเพื่อ EEC แต่ผมไปร่วมงานเพราะผมรู้สึกว่าเป็นงานที่มีเกียรติ เป็นประสบการณ์ชีวิต เหมือนรู้สึกคุ้มค่าที่เราอุตส่าห์เรียนแพงๆ มาทั้งชีวิต และสิ่งสำคัญคือมันทำให้ผมรู้สึกมีแรงทำงานมากขึ้นเพราะได้เห็นคนจากหลายประเทศมานั่งคุยอย่างจริงจังเพื่อช่วยโลกของเรา

เหมือนกับว่างานของ EEC นั้นทำกันทั้งครอบครัวเรนเดลล์

มันไม่ถึงขนาดนั้นแต่มันเป็นลักษณะช่วยเหลือกันภายในครอบครัวเพราะจริงๆ มันเริ่มต้นที่ผม บ้านผมอยู่ในหมู่บ้านข้างหลังตึกนี้ แล้วตึกนี้ผมก็ซื้อไว้ปล่อยเช่านานแล้ว พอคิดทำ EEC ผมก็มาเซ็ตระบบต่างๆ พอทำไปได้สักพักหนึ่ง ผมไม่สามารถเข้ามาออฟฟิศได้ทุกวัน เลยให้พี่สาวออกจากงานมาเป็นผู้จัดการ พี่ชายผมทำงานโรงแรมเขามีทักษะเรื่องการบริหาร เวลาผมมีปัญหาผมก็ปรึกษาเขา ส่วนเต้ย จรินทร์พรเขาก็แวะเข้ามาอยู่เรื่อยๆ มันก็มีความเป็นครอบครัวอยู่ แต่เราก็พยายามเซ็ตระบบเพราะมันไม่ควรมาขึ้นอยู่กับผมคนเดียว มันควรอยู่ได้ด้วยตัวของมันเอง

งานอนุรักษ์เป็นงานที่ค่อนข้างกว้าง EEC จับงานในส่วนไหนบ้าง และเพราะอะไรถึงจับงานในส่วนนั้น

ผมเน้นเรื่องสิ่งแวดล้อมศึกษาตามชื่อบริษัทเราเลยครับ ผมวางแผนจะทำแพลตฟอร์มต่างๆ ของ EEC ให้เป็นการแชร์ความรู้ คนเข้ามาแล้วได้ความรู้ เพราะผมเชื่อว่าสุดท้ายความรู้จะนำไปสู่การอนุรักษ์ที่ได้ผลอย่างแท้จริง

 อเล็กซ์ เรนเดลล์อเล็กซ์ เรนเดลล์

คนทั่วไปมักมองว่าองค์กรที่ทำเรื่องสิ่งแวดล้อมเป็นองค์กรไม่แสวงผลกำไร แต่ EEC เป็นบริษัทต้องทำอย่างไรกับภาพแบบเดิมที่คนทั่วไปมองกับการทำงานในรูปแบบบริษัทที่ทำธุรกิจต้องมีกำไร

ความตั้งใจแรกของเราคือการทำธุรกิจเพื่อสังคม แน่นอนมันมีคนที่ให้ใจตลอดเวลา แต่เมื่อเราต้องทำอะไรสักอย่างที่ต้องคุยกันในลักษณะข้อตกลง เพื่อให้ความสัมพันธ์ตรงนั้นมันหนักแน่น ถ้าเราจะให้ทุกคนทำงานด้วยใจเพียงอย่างเดียวผมว่ามันโตยาก ใช่ว่าทุกคนจะมาทำงานด้วยใจ ทุกคนต้องกิน ต้องใช้ ทุกคนมีความต้องการในระดับที่แตกต่างกันไป ผมจึงชัดเจนตั้งแต่แรกอยู่แล้วว่าเราทำธุรกิจและมันต้องโต เวลาผมเข้าประชุมผมจะบอกเสมอว่าเราทำธุรกิจ ไม่ใช่องค์กรไม่แสวงผลกำไร เวลาผู้ปกครอบมาค่ายเขาก็รู้ บางคนฝากเงินผมไปช่วยเต่า แต่ผมต้องปฏิเสธและแนะนำที่ที่สามารถนำเงินไปช่วยเหลือให้แทน แต่ในอนาคตผมก็อยากเปิดเป็นมูลนิธิเพื่อตั้งกองทุนใครเห็นด้วยกับเรื่องที่ผมกำลังทำอยู่ก็ลงเงินมาแล้วผมจะลงพื้นที่ทำงานให้

คุณเคยให้สัมภาษณ์ว่าการทำงานอนุรักษ์ใช้แค่ความรักไม่ได้ ต้องใช้ความรู้ด้วย

ผมจะพูดแบบไหนไม่ให้ดราม่า! อย่างการปลูกป่า ผมมองว่าการปลูกป่าเป็นเรื่องของการปลูกจิตใต้สำนึกในตัวคน เหมือนให้ใจเราไปปลูกต้นไม้ แต่เรื่องการอนุรักษ์ให้ยั่งยืนถ้าไม่มีการคำนวณพื้นที่ เช็กสภาพดินฟ้าอากาศ ปลูกต้นไม้ไป 2 วันมันก็ตายแล้ว หรือการสร้างฝายใครๆ ก็อยากสร้างฝาย แต่การสร้างฝายมันเป็นการกั้นทางเดินของน้ำ พอถึงหน้าแล้งน้ำก็เน่า สัตว์ที่ปกติจะย้อนขึ้นไปวางไข่มันก็ทำไม่ได้เพราะทางเดินน้ำเปลี่ยน ระบบนิเวศก็เปลี่ยน สุดท้ายเรื่องนี้จะกระทบกับป่าชายเลน ทะเลอันดามัน ช้างป่าที่เขาใหญ่ หรือฉลามวาฬที่เกาะลันตา ทุกอย่างมันคือระบบนิเวศ บางทีเราไปทำกิจกรรมอะไรเราไปทำลายมัน แต่ก็ว่าไม่ได้ คนมันมาด้วยใจรัก แต่เพราะองค์ความรู้ไม่มากพอ มันเลยเป็นการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมที่ผิดจุด

 อเล็กซ์ เรนเดลล์อเล็กซ์ เรนเดลล์

อะไรคือสิ่งที่คุณคาดหวังให้เกิดขึ้นเมื่อเด็กๆ ผ่านค่ายจาก EEC ไปแล้ว

หลายครั้งปัญหาหรือผลกระทบที่ไปถึงชาวบ้าน หรืออะไรก็ตามที่สร้างความเดือดร้อนให้สิ่งแวดล้อมมันเกิดจากการตัดสินใจที่ไม่ดี ในระยะยาวผมเลยมองว่าเด็กที่ผ่านค่ายของเราจะเป็นนักตัดสินใจที่ดีในอนาคต เพราะเด็กๆ หลายคนที่มาอยู่ในค่ายเราคุณพ่อ คุณแม่เป็น CEO หรือมีบริษัทเป็นของตัวเอง ค่ายเรามีเด็กนานาชาติค่อนข้างเยอะและพวกเขาเหล่านี้จะไปเป็นนักธุรกิจในอนาคต เมื่อถึงวันที่เขาต้องตัดสินใจแล้วเขารู้จักสิ่งมีชีวิตต่างๆ เขาจะตัดสินใจได้ว่าอะไรจะไม่ทำลายสัตว์

แล้วคุณจะวัดผลในสิ่งที่คุณคาดหวังหรือตั้งใจนี้ได้อย่างไร

บางค่ายเราจะทำพรีเทสต์ โพสต์เทสต์แต่นั่นเป็นเรื่องของวิชาการ แต่ผมมีตัวอย่างเด็กคนหนึ่งที่เข้าค่ายกับเรา ตอนนั้นเรารณรงค์เรื่องช่วยพะยูนกับฉลามวาฬ ตอนเขามาอยู่ในค่ายเขาไม่พูดกับใครเลย เพราะเขารู้สึกไม่สบายตัวเวลาพูด พอผ่านการเข้าค่ายไปแล้วผมไปปิดโรงหนังเอ็มควอเทียร์เพื่อให้เด็กๆ ขึ้นไปพรีเซ็นต์ผลงานกลุ่มของตัวเอง หลังจากนั้นเราก็ให้เด็กๆ ออกไปบอกกับคนข้างนอกว่าฉลามวาฬคืออะไร ความสำคัญของมันคืออะไร เด็กคนนั้นเขากลับพูดไม่หยุดโดยให้เหตุผลว่าถ้าเขาไม่พูดก็จะไม่มีใครพูดแทนฉลามวาฬของพวกเขา ผมว่านี่คือตัวอย่างของการเอาชนะตัวเองเพียงเพราะอยากช่วยฉลามวาฬ มีเด็กที่มีความบกพร่องด้านการเรียนรู้มาเข้าค่ายเราเยอะ แต่เมื่อพวกเขาได้มาอยู่กับธรรมชาติเหมือนเขาได้ทักษะชีวิตกลับไป เขามีมารยาททางสังคมดีขึ้น คุยได้ยาวขึ้น

 อเล็กซ์ เรนเดลล์อเล็กซ์ เรนเดลล์

เรื่องการอนุรักษ์เราไม่ได้ปลูกฝังกันมาแค่ปีสองปี การสอนของที่นี่แตกต่างจากการสอนเรื่องการอนุรักษ์ในโรงเรียนทั่วไปอย่างไร

ในหนังสือเรียนที่เด็กๆ เปิดเข้าไปเขาจะบอกว่าถ้าคนนี้ทำแบบนี้แล้วผลลัพธ์มันจะเป็นอย่างไร มันเป็นโลกสมมุติที่อาจอ้างอิงมาจากเรื่องจริง ยอมรับว่ามันคือการสร้างกระบวนการหาคำตอบที่ถูกต้อง แต่การออกมาเรียนนอกห้องเรียน มันทำให้ได้เห็นโลกความเป็นจริง เห็นคนจริงๆ เห็นหมู่บ้านชาวมอร์แกน เห็นหมู่บ้านมูเซอร์ ดังนั้นพวกเขาจึงมีประสบการณ์ชีวิตมากขึ้นโดยไม่ได้อยู่แค่ในตำรา

ผู้ใหญ่หลายๆ คนในวันนี้ก็เป็นเด็กที่ผ่านการเรียนรู้เรื่องสิ่งแวดล้อมและการอนุรักษ์มาก่อน แต่เรายังเห็นเหตุการณ์หลายๆ เหตุการณ์ที่ผู้ใหญ่ทำลายสิ่งแวดล้อม คุณคิดว่าอะไรคือความล้มเหลวของการปลูกฝังเรื่องการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม

ผมจะพูดแบบง่ายๆ เลยคือ EEC ไม่ใช่สำหรับทุกคน ไม่ใช่ทุกคนจะมารักป่า รักต้นไม้กับเรา ในโลกความเป็นจริงใครจะแคร์ว่าสิ่งที่ตัวเองทำส่งผลกระทบอะไรกับโลก ดังนั้นไม่มีทางที่เราจะสอนทุกคนได้ เราทำได้แค่เพิ่มปริมาณของคนที่ใส่ใจเรื่องสิ่งแวดล้อมอย่างจริงจังให้มากขึ้น ผมจะเปรียบเทียบกับนักฟุตบอล อย่างนักฟุตบอลมันต้องมีคนที่โดนใบแดง โดนไล่ออกจากสนาม ฟีฟ่าก็พยายามสร้างบทลงโทษให้หนักขึ้นเรื่อยๆ แต่ถึงอย่างไรมันก็มีคนที่ได้ใบแดงอยู่ดี แม้จะน้อยลงแต่สุดท้ายมันก็ยังมี

เหมือนกันครับผมไม่สามารถให้การศึกษากับทุกคนได้ เราไม่สามารถเปลี่ยนความคิดของทุกคนได้ ผมจึงมองว่ามันไม่ใช่ความล้มเหลวเพราะทุกคนมาทำด้วยใจแต่ผมคิดว่าโลกทั้งหมดมาให้ความสำคัญกับการอนุรักษ์ช้าไปนิดนึงเท่านั้นถ้าเราทำเร็วกว่านี้สัก 10 ปี มันคงได้เยอะกว่านี้ แต่มันก็ยังไม่สายเกินไปครับ

 อเล็กซ์ เรนเดลล์อเล็กซ์ เรนเดลล์

คุณวางอนาคตของ EEC ไว้อย่างไรบ้างหลังจากนี้

ทุกวันนี้งานส่วนใหญ่ของเรายังเป็นงานค่าย แต่สิ่งที่ผมตั้งใจคือเราพยายามขยายให้มันเป็นศูนย์กลางสิ่งแวดล้อมศึกษาที่จะดึงหลายๆ องค์กรทั้งภาครัฐ เอกชน สถานทูต องค์กรระหว่างประเทศเข้ามาทำงานร่วมกัน เพราะการอนุรักษ์จะเกิดขึ้นได้เมื่อเป็นความร่วมมือของสังคม ผมอยากใช้สื่อสร้างให้เรื่องสิ่งแวดล้อมกลายเป็นกระแสหลักแทนกระแสรองที่ทุกวันนี้มันเป็นอยู่ อยากให้คนสนใจเต่ามะเฟือง ฉลามวาฬเท่ากับพี่โป๊ปหรือออเจ้า อยากให้เมื่อไรก็ตามที่คิดเรื่องสิ่งแวดล้อมต้องนึกถึงเรา

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook