ควรเก็บถุงยางอนามัยอย่างไร ให้ใช้งานได้นานและปลอดภัย

หลายต่อหลายครั้งถุงยางกลายเป็นเรื่องตัดสินผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นต่อไป หลายคนไม่ได้ไปต่อ เพราะถุงยางหมดอายุ หรือหลายคนกลายเป็นพ่อคนเพราะใส่ถุงยางไม่เหมาะสม และนี่คือ สิ่งที่เราขอแนะนำว่า ‘ควรทำ’ และ ‘ไม่ควรทำ’ กับถุงยางของคุณ

เปิดถุงยางอย่างไรดี

หลายคนกังวลว่าจะขาดความต่อเนื่องในการเล้าโลม และต้องหยุดจังหวะชั่วครู่ เพื่อที่จะควานหาถุงยางและฉีกมัน เราขอบอกว่าไม่จำเป็นต้องห่วงหรือกังวลไป คุณควรจะใส่ใจ กับขั้นตอนของการใช้ถุงยางเป็นอย่างยิ่งตั้งแต่ขั้นตอนการฉีกซอง และลืมไปเลยกับฉากในภาพยนตร์ ที่พระเอกของเราคว้าซองถุงยางเข้าปากและใช้ฟันคีบเอาไว้ขณะที่อีกมือก็กระชากซอง เพราะนั่นมีความเสี่ยง ต่อการฉีกขาด และมีความเสี่ยงต่อความเสียหายไม่แพ้การใช้เล็บจิก

ดังนั้น ไม่ต้องห่วง เสียเวลาแค่ไม่ถึงครึ่งนาที ในการค่อยๆ ฉีก และสวมใส่อย่างถูกต้องจะเป็นการดีกว่าการเร่งรีบจนอาจนำไปสู่ความเสียหายในอนาคต หรืออาจจะลองออกไอเดียให้แฟนสาวของคุณลองใส่ถุงยางให้คุณก็ได้ เพื่อเป็นการปลุกเร้าอารมณ์ต่อเนื่อง

หลีกเลี่ยงการเก็บถุงยางในกระเป๋าเงิน

หลายคนชอบเก็บถุงยางเอาไว้ที่ช่องเก็บเหรียญ หรือช่องเสียบบัตร ในกระเป๋าเงิน เพราะกลัวว่าเวลาต้องการใช้จะไม่ทันการณ์ แต่นั่นอาจจะกลายเป็นหายนะกับคุณได้ เพราะความร้อนและการเสียดสีที่เกิดขึ้นในระหว่างการใช้งานของกระเป๋าเงิน อาจจะทำให้เกิดความเสียหาย กับถุงยางโดยที่ไม่คุณไม่รู้ตัวได้

เสร็จกิจแล้วทำอย่างไร

หลังจากที่เสร็จสิ้นการใช้งานของถุงยางแล้ว การทิ้งก็ถือว่าเป็นวิธีปฏิบัติที่แสดง ให้เห็นถึงความใส่ใจของคุณ ทางที่ดีคือ ใช้กระดาษชำระห่อเอาไว้ แล้วทิ้งลงถังขยะก็ได้ การนำถุงยางใช้แล้ว ทิ้งแบบโจ่งแจ้งลงในถังขยะ หรือทิ้งลงที่ชักโครกถือเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะ เพราะอย่างแรก คนอื่นๆ อาจจะมาเห็นได้ ส่วนอย่างหลัง อาจจะทำให้ชักโครกของคุณมีปัญหาได้

ควรเก็บในสถานที่เย็นๆ แต่…

แต่สถานที่เก็บบอกไว้ก่อนเลยว่า ไม่ใช่ตู้เย็นอย่างแน่นอน เพราะความเย็นของตู้เย็นจะส่งผลกระทบต่อ คุณภาพของถุงยางโดยตรง และอาจจะทำให้เสื่อมสภาพได้ เราสามารถเก็บถุงยางภายใต้อุณหภูมิห้องได้ แต่ก็ต้องเป็นห้องที่ไม่ร้อนจนเกินไป

อย่าตุน เน้นซื้อบ่อย

หลายต่อหลายครั้ง เรื่องราวจบลงเพราะว่าถุงยางที่คุณเก็บเอาไว้หมดอายุ จริงอยู่ที่ถุงยางมีระยะการเก็บที่นาน แต่บางครั้งคุณอาจจะรีบซื้อเพราะกลัวคนเห็น เลยกวาดๆ ลงมาจากแผง โดยที่ไม่ดูว่าถุงยางบนชั้นนั้นหมดอายุเมื่อไร กว่าจะรู้ก็ตอนที่กำลังจะใช้ ดังนั้นถ้าเป็นไปได้ซื้อน้อยๆ แต่ถี่ๆ จะดีกว่า