คนญี่ปุ่นมีความฝันหรือไม่? แล้วเขาฝันอยากเป็นอะไรกันนะ?

เดือนเมษายน ถือว่าเป็นเดือนที่สำคัญสำหรับคนญี่ปุ่นมากทีเดียว ไม่ใช่เพราะว่าเป็นเดือนที่ซากุระบานนะ แต่เป็นเพราะเดือนนี้ถือเป็นเดือนเริ่มต้นของหลายๆ อย่าง เช่น เริ่มเปิดเรียน เริ่มรับพนักงานใหม่ ปรับผังองค์กร เป็นต้น เป็นเดือนแห่งการเปลี่ยนแปลงและเริ่มต้นสำหรับใครหลายๆ ที่อาจจะมาพร้อมกับความฝันสำหรับโอกาสใหม่ๆในชีวิต เนื่องในช่วงเวลาดีๆแบบนี้จึงได้มีจัดทำการสำรวจเกี่ยวกับ “ความฝัน” โดยมีกลุ่มเป้าหมายการสำรวจเป็นหนุ่มสาวอายุตั้งแต่ 20 ปีเป็นต้นไป จำนวน 14,100 คนจากทั้ง 47 จังหวัดของญี่ปุ่น โดยแบ่งเป็นจังหวัดละ 300 คน ลองไปดูกันดีกว่าว่าคนญี่ปุ่นยุคนี้เขาฝันอะไรกันบ้าง!?

สัดส่วนของคนญี่ปุ่นที่มีความฝัน
เมื่อลองถามคนญี่ปุ่นที่เป็นกลุ่มเป้าหมายการสำรวจว่า “คุณมีความฝันหรือไม่” ก็ได้คำตอบว่า กว่าครึ่งหรือ 51.9% ตอบว่า “ตอนนี้มีความฝัน” โดยเมื่อลองถามเกี่ยวกับความฝันของพวกเขาก็ได้คำถาม 5 อันดับแรกดังต่อไปนี้

อันดับ １　อยากมีชีวิตที่มีสุขภาพดี
อันดับ ２　ได้ทุ่มเทให้กับงานอดิเรกที่ชอบ
อันดับ ３　อยากมีบ้านเป็นของตัวเอง (บ้านเดี่ยว)
อันดับ ４　ครอบครัวมีความสุข
อันดับ ５　เฝ้าดูการเติบโตของลูกๆหลานๆ

โดยความฝันอันดับต้นๆของคนญี่ปุ่นส่วนใหญ่จะเกี่ยวข้องกับความเป็นอยู่ การใช้ชีวิตของตัวเอง และครอบครัว เมื่อลองสอบถามเกี่ยวกับอายุตอนที่มีความฝันดังกล่าวก็จะพบว่าอยู่ที่อายุเฉลี่ย 36.7 ปี ซึ่งเป็นช่วงอายุที่คนส่วนใหญ่มีครอบครัว เริ่มเติบโตในหน้าที่การงาน เป็นช่วงเวลาที่เริ่มนึกถึงชีวิตของตัวเองในโลกของความเป็นจริง

ความฝันเปลี่ยนไปตามอายุการทำงานที่เพิ่มขึ้น!?
เมื่อลองลงลึกในการสำรวจเพื่อดูถึงความแตกต่างของความฝันในกลุ่มคนที่เพิ่งเริ่มทำงาน, พนักงานรุ่นใหม่, พนักงานที่ทำงานมาสักพักใหญ่ๆ และพนักงานที่ทำงานมานานกว่า 20 ปี ก็พบว่ากลุ่มคนที่เพิ่งเริ่มทำงานจะมีความฝันมากที่สุด และความฝันต่างๆจะเริ่มลดลงไปเรื่อยๆเมื่อมีอายุการทำงานเพิ่มมากขึ้น โดยเนื้อหาของความฝันก็จะเปลี่ยนตามไปด้วย

และเมื่อถามว่า “การมีความฝันทำให้เกิดผลลัพธ์ที่ดีกับชีวิตหรือไม่” คนส่วนใหญ่กว่า 96.7% ก็ตอบว่า “มีผลดี” เช่น จะช่วยทำให้เรามีความรู้สึกอยากมุ่งมั่นไปข้างหน้า และช่วยทำให้มีแรงบันดาลใจในการใช้ชีวิตมากขึ้น ดูจากผลสำรวจแล้ว คนญี่ปุ่นส่วนใหญ่นี่เขาเป็นสาย minimal จริงๆเลยนะคะ มีความฝันที่เรียบง่ายอย่างอยากมีสุขภาพดี อยากได้ทำในงานอดิเรกที่รัก เป็นต้น เพราะไม่ว่าความฝันจะเล็กหรือใหญ่ขอแค่มันเป็นสิ่งที่ช่วยเติมเต็มให้เรามีความสุขได้ แค่นั้นก็น่าจะพอแล้วไม่ใช่หรอ?

ที่มา : grapee