โรเจอร์ เฟเดอเรอร์ สุดยอดนักเทนนิสมือสองของโลก ดูแลตัวเองอย่างไรในวัย 36 ปี
แม้ในห้วงเวลายามนี้โรเจอร์ เฟเดอเรอร์ ยอดนักเทนนิสชาวสวิตเซอร์แลนด์จะตกบัลลังก์ "นักเทนนิสชายมือหนึ่งของโลก" ให้กับราฟาเอล นาดาล นักหวดชาวสเปน แต่ความมหัศจรรย์ของเฟเดอเรอร์ ยังเป็นที่กล่าวถึงอย่างมาก
นั่นเป็นเพราะปัจจุบันโรเจอร์ เฟเดอเรอร์ อายุก็ปาเข้าไปถึง 36 ปีแล้ว ซึ่งอายุอานามขนาดนี้ในวงการเทนนิสถือว่า เป็นรุ่นระดับน้าๆ ของวงการแล้วด้วยซ้ำ และถึงแม้อายุจะมากขึ้น แต่เรื่องของคุณภาพในการเล่นเทนนิสระดับโปรกลับไม่มีทีท่าจะลดลงเลยด้วยซ้ำ โดยเฉพาะการคว้าแชมป์ออสเตรเลียน โอเพ่น แกรนด์สแลมแรกของปี 2018 จึงทำให้ผู้คนทั้งในและนอกวงการเทนนิสต่างสนอกสนใจเป็นอย่างมาก "เฟเดอเรอร์" มีเคล็ดลับอะไรที่สามารถยืดระยะการประกอบอาชีพนักเทนนิสกันแน่
จากการเปิดเผยกับหนังสือพิมพ์ The Independent ยอดนักเทนนิสชาวสวิตเซอร์แลนด์ ที่ปัจจุบันเป็นมือสองของโลก เปิดเผยว่า เคล็ดไม่ลับของการยืดอายุอาชีพนักเทนนิส อยู่ที่การเลือกรับประทานอาหารที่ถูกต้อง โดยในช่วงเช้าของวันแข่งขัน เขาจะเลือกกินวาฟเฟิลโฮมเมด ร่วมกับผลไม้สด หรือในบางครั้งอาจจะมีน้ำผลไม้คั้นสด กาแฟ และน้ำส้มสายชูเล็กน้อย
ถ้าขยับเข้ามาช่วงใกล้การแข่งขันสัก 2 ชั่วโมงก่อนลงหวดลูกสักหลาด โรเจอร์ เฟเดอเรอร์ จะเลือกทานพาสต้า โดยที่มีซอสราดบนเส้นเพียงเล็กน้อย ซึ่งการรับประทานพาสต้าเป็นสิ่งที่เฟเดอเรอร์ ทำมาตลอดนับตั้งแต่การเทิร์นโปรอาชีพนักเทนนิสในปี 1998 แล้วด้วยเหตุนี้กระมัง จึงทำให้ในช่วงระหว่างการลงแข่ง หรือการฝึกซ้อม เฟเดอเรอร์ ไม่มีการหยุดพักกินอาหารจำพวกสแน็คบาร์ให้เห็นเท่าไหร่ นั่นเป็นเพราะก่อนลงสนามร่างกายมีพลังงานสำหรับขับเคลื่อนอยู่ก่อนแล้ว
อย่างไรก็ตาม รายการเทนนิสระดับแกรนด์สแลม หลายต่อหลายครั้งเป็นแมตช์ที่ยืดเยื้อ ท้ายที่สุดแล้วเส้นพาสต้าก็คงไม่เพียงพอต่อร่างกาย ดังนั้นสิ่งที่จะช่วย "เติมพลังงาน" ให้กับเฟเดอเรอร์ จะเป็นกล้วย ที่นักหวดมือสองของโลกถือว่า เป็นสิ่งที่ช่วยเขาไว้ได้อย่างดีระหว่างการแข่งขัน เนื่องจากกล้วยเป็นแหล่งคาร์โบไฮเดรตที่ดี และมีโพแทสเซียมที่ช่วยไม่ให้ร่างกายเป็นตะคริว อย่างไรก็ดี แม้จะมีผลวิจัยที่บอกว่า การดื่มเครื่องดื่มประเภท Energy Drink อาจจะดีต่อนักกีฬามากกว่า เนื่องจากเครื่องดื่มเป็นของเหลว เช่นนั้นแล้วการดูดซึมของเหลวจะดีกว่า กล้วย แต่ถึงที่สุดแล้ว เฟเดอเรอร์ ยังเลือกกล้วยเป็นแหล่งให้พลังงานระหว่างการแข่งขัน
BT Sportมาร์กอส โรโฆ กองหลังแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
อันที่จริงแล้ว ไม่ใช่แค่โรเจอร์ เฟเดอเรอร์ ที่เลือกกล้วยเป็นอาหารให้พลังงานระหว่างการแข่งขัน แม้แต่มือหนึ่งของโลกอย่างราฟาเอล นาดาล ก็มักจะพกกล้วยติดกระเป๋าเป้ไว้เช่นกัน รวมถึงนักกีฬาประเภทอื่นๆ เช่นนักฟุตบอลก็มีบ่อยครั้งที่จะเรียกหา กล้วยจากทีมงานที่อยู่ข้างสนาม
เมื่อถึงมื้อเย็น โรเจอร์ เฟเดอเรอร์ ถือว่า นี่คือช่วงเวลาแห่งการสุนทรีย์ เป็นการเติมความหลากหลายให้กับชีวิต โดยการรับประทานอาหารเย็น เฟเดอเรอร์ จะโปรดปรานการรับประทานอาหารอิตาลี อาหารญี่ปุ่นและอาหารอินเดียเป็นพิเศษ แน่นอนว่า อาหารบางชนิดของอาหารอิตาลี อาหารญี่ปุ่น หรืออาหารอินเดีย อาจจะไม่ใช่อาหารที่ดีต่อสุขภาพมากนัก แต่ก็ถือว่า อาหารเหล่านี้เป็นการให้รางวัลแก่ตัวเองที่ทำงานอย่างหนักในการเป็นสุดยอดนักเทนนิสระดับโลก ขณะเดียวกัน หากเราติดตามในอินสตาแกรมส่วนตัวของเฟดเอ็กซ์ (ฉายาของเฟเดอเรอร์) ก็อาจจะมีอาหารประเภทช็อกโกแลตหรือไอศกรีมให้เห็นประปราย โดยที่เฟเดอเรอร์ยอมรับว่า
"ผมไม่สามารถทนทานต่อการเห็นไอศกรีมได้"
หากว่ากันตามความเป็นจริงแล้ว สิ่งที่เฟเดอเรอร์เป็นอยู่ ก็เหมือนกับการออกกำลังกายของคนทั่วไป โดยที่เราไม่ควรเคร่งครัดในเรื่องการออกกำลังกายและการรับประทานอาหารมากเกินไป แต่ควรที่จะผ่อนปรนกับตัวเอง ไม่ตึง ไม่หย่อนจนเกินไป เพื่อให้เราสามารถออกกำลังกายและกินอาหารที่เป็นประโยชน์เป็นระยะเวลานานๆ
นอกเหนือจากนี้แล้ว การที่โรเจอร์ เฟเดอเรอร์ ยังคงรักษาสถานภาพของการเป็นยอดนักเทนนิสระดับโลกได้ ยังมีเหตุผลประการสำคัญอีกเรื่องหนึ่ง นั่นคือ เฟเดอเรอร์ จะเลือกลงทำการแข่งขันในรายการที่ "จำเป็น" เท่านั้น หากรายการใด ไม่สำคัญมากมายนัก เขาก็เลือกที่จะถอนตัวเพื่อถนอมร่างกายให้อยู่ในสภาพฟิตสมบูรณ์ที่สุด ทั้งนี้ยังมีอีกสิ่งที่มองข้ามไม่ได้ ก็คงเป็นเรื่องของวิทยาศาสตร์การกีฬาที่ก้าวหน้าอย่างไม่หยุดยั้ง ตรงนี้เองที่จะช่วยเหลือนักกีฬาได้เป็นอย่างดี ซึ่งหมายรวมถึงการนวดผ่อนคลายกล้ามเนื้อ การเข้าเวทเทรนนิ่ง การมีผู้เชี่ยวชาญดูเรื่องข้อต่อ กระดูกสันหลัง ที่เป็นหนึ่งในอวัยวะสำคัญของนักเทนนิส
เมื่อทุกอย่างประสานกัน จึงช่วยขับเคลื่อนให้ร่างกายของนักกีฬามีความทนทานมากขึ้น สามารถเล่นได้นานขึ้น และรักษาระดับคุณภาพการเล่นให้ดีดังเดิมเหมือนเมื่อครั้งยังหนุ่มสบายๆ
ที่น่าสนใจไปกว่านั้น ตราบเท่าที่เฟเดอเรอร์ ยังรักษาคุณภาพการเล่นได้ดีแบบนี้ต่อไป ในอีก 2 ปีข้างหน้า ที่จะบังเกิดมหกรรมกีฬามวลมนุษยชาติ "โอลิมปิกเกมส์" ไม่แน่ว่า ตอนนั้นเราอาจจะได้เห็นโรเจอร์ เฟเดอเรอร์ในวัย 38 ปี ลงชิงชัยล่าเหรียญทองให้ชาติบ้านเกิดในนามสวิตเซอร์แลนด์ก็เป็นได้
