ขี่ม้า กีฬานี้ไม่แพงอย่างที่คิด
หลายคนคงรู้สึกแปลก ๆ และเค้นหัวเราะในลำคอเบา ๆ หากวันหนึ่งมีใครสักคนมาชวนให้ไปออกกำลังกายด้วยการ "ขี่ม้า" เพราะส่วนลึกในความรู้สึกของคนไทยที่ถูกปลูกฝังมาเป็นเวลานานโดยไม่รู้เนื้อรู้ตัวว่า การขี่ม้าคือกิจกรรมของชนชั้นสูง และกลุ่มคนผู้มีเงินเหลือกินเหลือใช้ในระดับหรูหราฟู่ฟ่าเท่านั้น
ทำให้หลายคนที่ถูกชวนให้ไปขี่ม้าเลือกตอบปฏิเสธแทบจะในทันทีพร้อมทั้งเสนอทางเลือกให้เล่นกีฬาชนิดอื่นที่ง่ายและใช้เงินน้อยกว่าอย่าง ฟุตบอล บาสเกตบอล หรือแบดมินตันแทน ทั้งที่ในความเป็นจริงแล้ว การขี่ม้าเป็นกีฬาที่ไม่ได้ใช้เงินมากมายจนคนธรรมดาสามัญไม่มีวันเข้าถึงในชาตินี้อย่างที่ใคร ๆ คิด
"ต้องยอมรับว่าการขี่ม้ามีค่าใช้จ่ายหลายอย่าง ตั้งแต่ค่าชุด ค่าม้า ค่าสนามซ้อม หรือแม้กระทั่งค่าครูฝึก เพียงแต่ในปัจจุบันราคาในแต่ละส่วนไม่สูงเท่ากับเมื่อก่อนอีกแล้ว" นารา เกตุสิงห์ ผู้จัดการสมาคมขี่ม้าแห่งประเทศไทย เปิดประเด็นกับ "ประชาชาติธุรกิจ" ก่อนที่จะอธิบายลงลึกต่อไปในรายละเอียดว่า
สมัยก่อนการสั่งซื้อชุดขี่ม้าในประเทศไทยจะต้องสั่งนำเข้ามาจากต่างประเทศเท่านั้นราคาซื้อขายตามท้องตลาดบ้านเราจึงมีราคาสูงขึ้นเป็นเงาตามตัว ผิดกับปัจจุบันที่เริ่มมีร้านตัดชุดขี่ม้าสัญชาติไทยและร้านจัดจำหน่ายแบรนด์ดังระดับโลกตบเท้าเข้ามาอยู่ในแดนสยามกันอย่างคับคั่งทำให้ผู้ที่ชื่นชอบหรืออยากลองกีฬาขี่ม้ามีตัวเลือกในการซื้อชุดที่มากกว่าเมื่อก่อน ตามความชอบส่วนตัวและกำลังทรัพย์ในกระเป๋าสตางค์ของแต่ละคนว่าจะใช้อุปกรณ์ราคาหลักพันหรือมูลค่าหลายแสนเฉียดล้านก็ว่ากันไป
บอลลูน-ธนโชค บัวทอง หนุ่มน้อยวัย 15 ปีที่เริ่มหลงรักการขี่ม้ามาตั้งแต่อายุ 11 พูดถึงวิธีการเลือกซื้อชุดของตัวเองว่า "ส่วนใหญ่จะเลือกจากที่ชอบและเข้ากับตัวเองมากที่สุด แต่ถ้าหาแบบที่ชอบไม่ได้จริง ๆ ก็จะสั่งตัดตามร้านแถวสนามม้านางเลิ้ง เพราะราคาจะไม่แพงมากจนเกินไป"
-- ส่วนคนที่อยากลองขี่ม้าดูสักครั้งหนึ่งแต่ยังไม่กล้าลงทุนขนาดควักเงินในกระเป๋าจำนวนหลักพันบาทเพื่อซื้อชุดขี่ม้า เพราะกลัวว่าถ้าลองขี่จริง ๆ แล้วจะไม่ชอบ นาราแนะนำว่า สำหรับคนที่เริ่มต้นเป็นครั้งแรก ถ้ายังไม่อยากซื้อชุดควรจะแต่งกายให้รัดกุม สวมกางเกงขายาว รองเท้าผ้าใบหุ้มข้อธรรมดา หมวกสามารถเช่าได้ตามสนามขี่ม้าทั่วไป เพียงเท่านี้ก็สามารถลงสนามขี่ม้าได้แล้ว --
ด้านอุปกรณ์สำคัญอย่าง "ม้า" ผู้ขี่ไม่จำเป็นต้องมีม้าเก็บไว้เป็นของส่วนตัวก็ได้ เนื่องจากตามสนามขี่ม้าทั้ง 50 สนามทั่วประเทศไทย ในสังกัดของสมาคมขี่ม้าฯมีให้เช่าอยู่แล้ว แต่ถ้าใครอยากซื้อเก็บไว้ ตอนนี้ราคาของม้าได้ลดลงจากในอดีตมากหลายเท่าเลยทีเดียว
จากประสบการณ์ที่เคยฝึกสอนขี่ม้าและอยู่ในวงการนี้มานานนารามั่นใจว่า คนส่วนใหญ่ที่เคยขี่ม้าเป็นครั้งแรก มักจะมีครั้งที่สอง ที่สาม ตามมาอยู่เสมอ เนื่องจากการขี่ม้าเป็นกีฬาที่มีเสน่ห์อยู่ในตัวเองสูงมาก
"ท่วงท่าอันสง่างามของการขี่ม้านับว่าเป็นหนึ่งในเสน่ห์สำคัญที่ดึงดูดให้คนเข้ามาเล่นกีฬาประเภทนี้กันมากขึ้นแต่อีกหนึ่งเสน่ห์ที่เป็นเหมือนกับสิ่งยึดเหนี่ยวให้คนไม่สามารถเลิกขี่ม้าได้ คงจะเป็นการส่งสัญญาณระหว่างคนกับม้าที่เกิดขึ้นขณะควบขี่ ถ้าทั้งสองสิ่งสามารถเชื่อมถึงกันได้อย่างลงตัวตามภาษิตในวงการที่ว่า 1+1=1 ผู้ขี่จะรู้สึกสนุกมากขึ้นว่าเดิมหลายเท่าเลยทีเดียว"
แต่การส่งสัญญาณเชื่อมต่อกันระหว่างคนกับม้าจนกลายเป็นหนึ่งเดียวกันนั้นนับว่าไม่ใช่เรื่องง่าย เนื่องจากม้าแต่ละตัวจะมีการตอบสนองต่อการสัมผัสที่แตกต่างกัน ตามความสามารถและประเภทในการฝึกฝน ยกตัวอย่าง ม้ากระโดดข้ามสิ่งกีดขวาง ม้าวิ่งระยะไกล หรือม้าโปโล เป็นต้น ดังนั้นสิ่งสำคัญที่จะทำให้ผู้ขี่ม้าไปถึงในระดับนั้นได้ จำเป็นต้องได้รับการฝึกฝนจากผู้ฝึกสอนที่มีความสามารถอย่างต่อเนื่อง
นาราเพิ่มเติมว่า "ม้าบางตัวที่มีประสบการณ์ในสนามสูงจะสามารถรู้ได้ทันทีเลยว่า คนที่อยู่บนหลังนั้นขี่เป็นหรือไม่ โดยการจับสัมผัสและท่าทางที่เกิดขึ้นบนหลังของผู้ขี่ จากนั้นมันก็จะประเมินเองว่าควรจะเดินหรือวิ่ง เพื่อประคองความปลอดภัยของคนที่อยู่บนหลัง ดังนั้นโอกาสที่นักขี่ม้ามือใหม่จะตกม้าในระยะแรกจึงเกิดขึ้นน้อยมากถึงมากที่สุด"
แม้ว่าผู้จัดการสมาคมขี่ม้าแห่งประเทศไทยจะยืนยันเรื่องความปลอดภัยในระยะแรกของการขี่แต่อย่างไรเสียกีฬาประเภทนี้ก็ไม่ใช่กีฬาที่ปลอดภัยทั้ง 100 เปอร์เซ็นต์ เนื่องจากคนส่วนใหญ่เมื่อเริ่มขี่ม้าเป็นแล้ว ความรู้สึกอยากลองอยากโลดโผนเช่นที่เห็นในภาพยนตร์ฮอลลีวูดที่อยู่ในส่วนลึกจะเป็นตัวกระตุ้นให้เกิดอุบัติเหตุตกม้าอยู่บ่อยครั้ง
ดังนั้นขณะที่ควบขี่อยู่บนหลังม้าจึงต้องมีสติอยู่เสมอ ห้ามประมาทเป็นอันขาด แม้สถิติจากทั่วโลกจะบอกว่าผู้ที่เสียชีวิตจากการขี่ม้ามีเพียงหนึ่งในล้านก็ตาม
พร้อมด้วยหลากหลายบทความเกี่ยวกับ สุขภาพ สาวสวย และที่เที่ยวกลางคืนได้ที่นี่