5 เหตุผลที่ควรรับประทานอาหารเช้า

อาหารเช้าเป็นสิ่งที่หลายคนมักจะเมินและไม่สนใจ เพราะด้วยความเร่งรีบในชีวิตประจำวัน จนทำให้ไม่ได้ใส่ใจถึงเรื่องนี้ แต่กระนั้นใครจะคาดคิดว่า อาหารเช้าที่หลายคนเมินและไม่สนใจนั้น ที่จริงแล้วส่งผลกระทบต่อร่างกายอย่างเต็มที่ หากคุณไม่กิน

1. สมองทำงานไม่เต็มที่ สมาธิน้อยลง ระบบความจำไม่ดี

ปกติแล้วร่างกายคนเราต้องการสารอาหารในช่วงเวลา 07.00-09.00 น. ซึ่งเป็นช่วงที่สมองต้องการเลือด และออกซิเจนเป็นอาหารบำรุงส่งไปเลี้ยงสมอง ดังนั้นหากร่างกายได้รับสารอาหารไม่เพียงพอ ก็จะส่งผลให้ร่างกาย ไม่แข็งแรง ทำงานไม่มีสมาธิ และอาจทำให้งานผิดพลาดได้ง่าย

2. เครียดและหงุดหงิดง่าย

เมื่อไม่ได้ชาร์จพลังงานในตอนเช้า ทำให้เกิดภาวะน้ำตาลในร่างกายต่ำ จึงไม่แปลกที่จะรู้สึกปวดหัว เครียด หงุดหงิดและกระวนกระวายใจ และแน่นอนว่า นั่นอาจส่งผลต่อประสิทธิภาพในการทำงานโดยรวมของคุณ

3. เสี่ยงเป็นโรคต่างๆ

การไม่รับประทานอาหารนานกว่า 12 ชั่วโมงเป็นประจำส่งผลต่อระบบการทำงานต่างๆ ของร่างกายมากทีเดียว โอกาสที่จะทำให้คอเลสเตอรอลในถุงน้ำดี จับตัวกลายเป็นก้อนนิ่วก็มีมาก ขณะเดียวกันยังมีโอกาสเสี่ยงต่อการเกิดโรคเส้นเลือดสมองและโรคหัวใจ เพราะในตอนเช้าเลือดของเรามีความเข้มข้นสูงและทำให้เส้นเลือดที่ส่งไปเลี้ยงสมอง หรือหัวใจอุดตันได้ การกินมื้อเช้าจะมีส่วนช่วยลดระดับความเข้มข้นในเลือดให้น้อยลง

4. อ้วนขึ้นไม่รู้ตัว

ใครคิดจะลดน้ำหนักด้วยการไม่กินมื้อเช้านั้นเข้าใจผิดอย่างมหันต์ คุณรู้หรือไม่ว่านั่นคือการเพิ่มน้ำหนักต่างหากคนส่วนใหญ่ที่ไม่กินมื้อเช้ามักจะกระหน่ำในมื้อเที่ยงและมื้อเย็นทำให้อ้วนโดยไม่รู้ตัว ที่เป็นเช่นนี้เพราะหากนับเวลาจากมื้อเย็นเมื่อวานกว่าจะถึงเที่ยงอีกวัน เราต้องอดอาหารนานกว่าสิบชั่วโมง จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่หลายคนจะหิวจนตาลายสุดท้ายจึงมาลงที่มื้อเที่ยง โอกาสน้ำหนักขึ้นจึงมีมากนั่นเอง

5. แก่เร็ว

การไม่กินอาหารเช้าทำให้ร่างกายไม่ได้รับสารอาหารเพียงพอจึงส่งผลให้เกิดผมร่วง หน้าแก่เร็ว รวมถึงนอนไม่หลับ เนื่องจากการอดอาหารไปกระตุ้นฮอร์โมนสมองบางตัวส่งผลให้คนที่เครียดอยู่แล้ว เกิดอาการเครียดมากขึ้นกว่าเดิม