คุยกับหมอพิณ ประโยชน์ของขนรักแร้
คอลัมน์ คุยกับหมอพิณ
โดย...พญ.พิณนภางค์ ศรีพหล
ตามที่เห็นกันในอินเทอร์เน็ตนะคะว่า เทรนด์ใหม่ของสาวจีนที่นิยมถ่ายรูปตัวเอง หรือ Selfie พร้อมโชว์ขนรักแร้ยาวเฟื้อย เห็นแล้วรู้สึกแปลก ๆ นะคะ อาจจะเป็นเพราะวัฒนธรรมบ้านเราที่ไม่นิยมสตรีที่ดูมีขนรุงรัง เพราะมันดูน่าจั๊กจี้ ดูไม่สะอาด และดูมีกลิ่น
ลองคิดภาพนางเอกวิ่งไปกอดพระเอก แล้วขนรักแร้นางเอกยาวแลบออกมาพลิ้วไสวอยู่ที่ไหล่พระเอกสิคะ คงจะแปลกไม่น้อยทีเดียวบางครั้งก็ชวนสงสัยนะคะว่า เทรนด์ที่ว่ามันเป็นแค่ความสวยงาม เป็นวัฒนธรรม ความเชื่อ หรือมันจะส่งผลอะไรต่อร่างกายเราจริง ๆ หรือไม่
ดังนั้น วันนี้เราจะมาคุยกันเรื่องของ "ขนรักแร้" ค่ะ ขนรักแร้จะก้าวเข้ามาในชีวิตเราเมื่อเราเข้าสู่วัยรุ่นค่ะ แล้วแต่คนว่าจะดกมากดกน้อยขนรักแร้มักจะยาวกว่าและหยาบกว่าเมื่อเทียบกับขนบริเวณอื่น ๆ ของร่างกาย
เขาสันนิษฐานกันว่า ขนรักแร้มีประโยชน์ไว้เพื่อลดการเสียดสีของต้นแขนกับลำตัว และขับฟีโรโมน (หรือสารเคมีในสัตว์ที่ไว้ดึงดูดเพศตรงข้าม)แต่หากดูแลไม่ดี ปล่อยให้มีเหงื่อหมักหมม อับ อาจจะเกิดการสะสมของแบคทีเรีย ทำให้แทนที่จะขับฟีโรโมนกลายเป็นขับ "กลิ่นเต่า" แทนนะคะ ซึ่งดมยังไงก็ไม่น่าดึงดูดเพศตรงข้ามหรือเพศเดียวกันเอาซะเลย แต่มีประโยชน์แค่ไหน สาวไทยหลายคนก็คงเลือกที่จะกำจัดขนมากว่าปล่อยยาว รอรวบ ทำสี หรือตัดแต่งทรงขนรักแร้ใช่ไหมค่ะประโยชน์ของการกำจัดขนรักแร้ คือ ทำให้สารดับกลิ่นกายทำงานได้ดีขึ้นการกำจัดขนรักแร้มีหลายวิธีค่ะ เริ่มจากวิธีประหยัด ๆ อย่างการโกน ดึง แวกซ์ ล้วนเป็นการกำจัดส่วนบนของขนเท่านั้นค่ะ ไม่ได้กำจัดรากขนออกไปได้...ควรคำนึงถึงความสะอาด เพราะอาจจะมีโอกาสติดเชื้อ เกิดขนคุด หรือรูขุมขนอักเสบ หรือติดเชื้อราในรูขุมขนได้
ส่วนเลเซอร์เป็นการทำลายถึงรากขน ทำให้ขนน้อยลง และมีสีจางลง แต่ไม่ถาวร อาจเกิดผลข้างเคียงอย่างการระคายเคือง หรือรูขุมขนอักเสบได้ ไม่ว่าแฟชั่นในอนาคตจะไปในทิศทางใด อีกหน่อยสาวไทยอาจจะนิยมไว้ยาว ตัดแต่งรองทรงสูง ที่สำคัญคือ จะสั้นจะยาวควรดูแลทำความสะอาดใต้วงแขนให้ดีค่ะ สวัสดีค่ะ
ข้อมูลการกำจัดขนจาก น.พ.ทนงเกียรติ เทียนถาวร สถาบันโรคผิวหนัง