ร้านเสื้อผ้าสำหรับคนไม่ระบุเพศ "ฟลูอิด โปรเจคท์" ใจกลางนครนิวยอร์ก

ใจกลางแหล่งแฟชั่นอย่างนครนิวยอร์ก มีร้านค้าเปิดใหม่แทบทุกวัน แต่ร้าน ฟลูอิด โปรเจคท์ (Phluid Project) ถือเป็นร้านเสื้อผ้าที่ไม่เหมือนใคร เพราะเน้นจุดขายตรงเสื้อผ้าที่ไม่แบ่งแยกเพศ คือใส่ได้ทั้งผู้ชาย ผู้หญิง หรือเพศที่อยู่ตรงกลาง หรือ Gender-Neutral

ฟลูอิด โปรเจคท์ (Phluid Project) คือชื่อร้านเสื้อผ้าแนวใหม่ที่เพิ่งเปิดบริการได้ไม่นาน ตั้งอยู่ในย่านบรอดเวย์ ใจกลางเกาะแมนฮัตตัน นครนิวยอร์ก ซึ่งถือเป็นแหล่งแฟชั่นชั้นนำของโลก

คุณ Travis ดีไซน์เนอร์และผู้จัดการร้านเสื้อผ้าแห่งนี้ บอกว่า ร้าน Phluid Project คือการตอบสนองความต้องการของผู้ที่ไม่ต้องการระบุเพศของตนเอง คือ บางวันอาจอยากแต่งเป็นหญิง บางวันอยากเป็นผู้ชาย และบางวันก็อยากสวมใส่อะไรที่อยู่ตรงกลาง คือไม่ระบุเพศ

คุณ Travis บอกว่า สำหรับตนแล้ว การแบ่งแยกเสื้อผ้าออกเป็นสองกลุ่มชัดเจน คือเสื้อผ้าสำหรับผู้ชายกับผู้หญิงนั้น ทั้งก่อให้เกิดความสับสนและน่าขบขัน นั่นทำให้ตนตัดสินใจร่วมเปิดร้านเสื้อผ้าที่ไม่ต้องมีการระบุเพศแบบชัดเจน ซึ่งแม้แต่หุ่นโชว์เสื้อผ้าในร้านก็มิได้ระบุเพศเช่นกัน ถือเป็นอีกหนึ่งจุดขายของร้านแห่งนี้

รายงานวิจัยของบริษัท J. Walter Thompson ชี้ว่า 56% ของวัยรุ่นยุคมิลเลนเนียล รู้จักคนที่ไม่ระบุสถานะทางเพศของตนเอง และ 74% ยอมรับคนที่บอกว่าตนเองเป็น Gender-Neutral หรือเพศที่อยู่ตรงกลาง

ปัจจุบัน บางประเทศ รวมทั้ง แคนาดา และออสเตรเลีย ยินยอมให้พลเมืองสามารถระบุว่าเป็น “คนไม่มีเพศ” ในหนังสือเดินทางได้แล้ว เช่นเดียวกับ รัฐโอเรกอนในสหรัฐฯ ที่พ่อแม่สามารถระบุว่าลูกของตน “ไม่มีเพศ” ในสูติบัตรได้เช่นกัน

นอกจากนี้ สื่อสังคมออนไลน์รายใหญ่อย่าง Facebook ก็อนุญาตให้สมาชิกเลือกเพศของตนเองได้ถึง 71 ทางเลือก ซึ่งแสดงให้เห็นถึงการเปิดกว้างในเรื่องของเพศสภาพในหลายประเทศ

ร็อบ สมิธ คือผู้ก่อตั้งร้าน Phluid Project ผู้คร่ำหวอดในวงการเสื้อผ้ามานานกว่า 30 ปี เขากล่าวว่า คนรุ่นใหม่ หรือ Generation Z จำนวนมาก ไม่ต้องการประทับตราว่าใครคนไหนเพศอะไร เพราะพวกเขาไม่คิดว่าเป็นเรื่องสำคัญอีกต่อไป

คุณสมิธ กล่าวด้วยว่า การยอมรับและเปิดกว้างเช่นนี้ถือเป็นเรื่องที่ดี และทำให้โลกนี้น่าอยู่ขึ้น

สำหรับผู้คนทั่วไป ร้านค้าอย่าง Phluid Project อาจถือเป็นเรื่องใหม่ แต่ประเด็นสำคัญที่ผู้คนที่ทำงานในร้านแห่งนี้ต่างเห็นเหมือนกัน คือการไม่ตัดสินคนจากภายนอก เพราะที่นี่ เสื้อผ้าทุกชิ้นที่ออกแบบมา ไม่เคยถูกจำกัดว่าผู้สวมใส่ต้องมีเพศสภาพอย่างไร

(ผู้สื่อข่าว Elena Wolf รายงาน / ทรงพจน์ สุภาผล เรียบเรียง)