สำรวจตัวเองกันหน่อยว่า รักจนเสียศูนย์ไปหรือยัง

ความรักเป็นเรื่องสวยงาม และทำให้คนสองคนได้สร้างสัมพันธ์อันแนบแน่นขึ้นมา แต่ความรักที่มากเกินไปก็เหมือนเชือกที่มัดให้คนสองคนติดกันจนอีกฝ่ายอาจกำลังสูญเสียความเป็นตัวของตัวเอง ซึ่งความรักที่จะทำให้ชีวิตคู่ยืนยาวได้นั้นต้องมีการเว้นช่องว่าง และปล่อยให้อีกฝ่ายมีชีวิตของเขาและเธอตามที่ฝันด้วยเช่นกัน ดังนั้นลองมาสำรวจตัวเองกันหน่อยไหมว่า ความรักของคุณนั้นทำให้คุณสูญเสียตนเองไปแล้วหรือยัง

ไฟแห่งความฝันและความปรารถนาในการตามฝันของคุณได้มอดไหม้ไปแล้ว
 
ก่อนที่จะพบกับความรัก หลายคนมีความฝันมีเป้าหมายชีวิตที่วางเอาไว้ ทั้งในเรื่องเรียน และ หน้าที่การงาน ซึ่งทุกคนต่างมีไฟปรารถนา ที่จะไล่ล่าความฝันของตนเอง แต่เมื่อมาเจอคนที่ทำให้เขาและเธอตกหลุมรัก กลายเป็นว่าความฝันที่เคยมีได้กลายเป็นเพียงแค่ความคำนึงถึง หรือบางคนเลิกล้มความฝันนั้นไปเลย ซึ่งไม่ใช่เรื่องที่ดีเลยเพราะความฝันและการตั้งเป้าหมายในชีวิตนั้นคือส่วนหนึ่งของความเป็นตัวของคุณเอง หากคุณยอมสูญเสียความเป็นตัวของคุณเองเพื่อความรัก แล้วเมื่อวันหนึ่งความรักที่คุณเสียสละให้นั้นไม่เป็นดังที่คุณหวัง คุณจะไม่ได้สูญเสียแค่ความรักเพียงอย่างเดียว แต่คุณได้สญเสียความเป็นตัวของคุณเองไปด้วย

คุณเลิกออกไปแฮงค์เอาท์กับเพื่อนฝูง และแทบจะไม่ติดต่อใครอีกเลย

ลองถามตัวคุณเองดูก่อนว่า คุณจัดความสำคัญเรื่องความสัมพันธ์ในชีวิตของคุณอย่างไร ถ้าคุณเลือกที่จะไปหาเขาหรือเธอแล้วยอมยกเลิกนัดกับเพื่อนฝูง หรือแม้กระทั่งงานสังคมต่างๆ คุณคงต้องถามตัวเองหน่อยแล้วว่า คุณผูกตัวเองติดกับคนรักมากเกินไปหรือไม่  ในความสัมพันธ์ระหว่างคนสองคนนั้นการทำตัวติดกันตลอดเวลาไม่ใช่สัญญาณที่ดี หากแต่การเปิดที่ว่างให้แต่ละคนได้ไปอยู่กับเพื่อนฝูงบ้าง หรือ ทำกิจกรรมที่ต่างฝ่ายต่างโปรดปราน จะทำให้ความรู้สึกสบายใจมากกว่าสำหรับคนสองคนที่คิดจะใช้ชีวิตร่วมกันไปจนแก่เฒ่า

คุณต้องรอฟังความคิดเห็นหรือคำอนุญาตจากแฟนก่อนที่จะตัดสินใจในทุกเรื่อง

การฟังความคิดเห็นของคนอื่นก่อนที่จะตัดสินใจเรื่องสำคัญ เป็นเรื่องที่ดีถ้าคุณฟังแล้วเอามาประกอบการตัดสินใจ แต่การรอฟังความคิดเห็น หรือ คำอนุญาตจากแฟน แล้วจึงตัดสินใจในทุกเรื่องไม่ใช่เรื่องที่ดี เพราะเท่ากับว่าคุณกำลังสูญเสียความเป็นตัวของตัวเองไปทีละน้อยและท้ายที่สุด คุณจะสูญเสียความมั่นใจในตัวเอง จงจำเอาไว้ว่าการมีความรักไม่ได้หมายความว่าเราต้องการให้คนอื่นมาตัดสินใจแทน แต่ เป็นการรับฟังความคิดเห็นของคนรักมาประกอบการตัดสินใจเพื่อให้เกิดผลลัพธ์ที่ดีที่สุด

ลองฟังเสียงเพื่อนฝูงคนรอบข้างบ้างถ้าเขาว่าคุณเปลี่ยนไป (ในทางที่ไม่ค่อยดี)

เพื่อนสนิทคือคนที่รู้จักคุณดีที่สุด และกล้าพูดกับคุณตรงๆ ถ้าหากมีเสียงของเพื่อนสนิทส่งสัญญาณมาว่าคุณเปลี่ยนไป (ในทางที่ไม่ค่อยดี) ขอให้ลองฟังดูบ้าง เพราะเวลาตกอยู่ในห้วงรักนั้น เรามักมองไม่เห็นความเปลี่ยนแปลงของตัวเอง แต่คนที่ใกล้ชิดกับเรา สนิทกับเราจะเป็นคนที่รู้สึกได้เร็วที่สุด

คุณเริ่มคิดถึงวันที่ยังเป็นโสด

คนรักกันถ้าอยู่ด้วยกันแล้วเกิดเคมีที่ดีจนเข้ากันได้นั้น จะทำให้คนที่เคยโสดรู้สึกว่าตัวเองได้เติมเต็มแล้ว แต่ถ้าความรักที่เคมีไม่เข้ากัน ยิ่งอยู่ก็ยิ่งต้องให้มากกว่ารับ ยิ่งอยู่ก็ยิ่งสูญเสียความเป็นตัวเอง ยิ่งอยู่ก็ยิ่งห่างหายจากเพื่อนฝูงและสังคม จนทำให้คุณนั่งคิดถึงวันเก่าๆที่ยังเป็นโสดและมีอิสระที่จะทำอะไรก็ได้ตามใจ หากคุณเริ่มรู้สึกเช่นนี้คงต้องมองกลับไปที่ตัวเอง และ คนรักแล้วว่าความรักที่เป็นอยู่ มันแน่นจนเกินไป ร้องขอมากจนเกินไป จนทำให้คุณรู้สึกไม่สบายที่จะมีชีวิตคู่หรือไม่