ลักษณะนิสัย 7 ประการของคนที่ “ไม่ควร” คิดพิชิตฟูจิซัง
ในโอกาสที่ฤดูกาลแห่งการปีนภูเขาไฟฟูจิ ประจำปี 2018 ได้เริ่มต้นขึ้นแล้วตั้งแต่ต้นเดือนที่ผ่านมา และจะดำเนินไปอีกราว 2 เดือนต่อจากนี้ สิ่งที่อยากจะแบ่งปันให้กับเพื่อนๆ ที่ตั้งใจว่าจะไปพิชิตยอดเขาที่งดงามที่สุดแห่งหนึ่งของโลกให้ได้สักครั้งควรจะต้องรู้
ทั้งนี้ เพื่อเตรียมตัวเตรียมใจ และเตรียมพฤติกรรม ระแวดระวังไม่ให้ตัวเองไปทำสิ่งที่ไม่เหมาะสมเข้า ในฐานะที่ภูเขาไฟฟูจิถือเป็นสถานที่ทางจิตวิญญาณ มีความศักดิ์สิทธิ์ เป็นสถานที่อันเป็นที่รักและหวงแหนของชาวญี่ปุ่นเป็นที่สุด และนี่คือ ลักษณะนิสัย 7 ประการของคนที่ไม่ควรคิดพิชิตฟูจิซัง
นำขยะมา จงนำขยะกลับไปด้วย
ถ้าไม่สามารถเก็บขยะ ส่วนตัวที่เราเองเป็นคนทำขึ้นทุกชิ้นไว้กับตัวเองตั้งแต่นาทีแรกที่มาถึงสถานีชั้น 5 (Yoshida 5th Station) ด้วยการใส่ถุงพลาสติก ใส่กระเป๋า หรือจะใส่ไว้ในอะไรก็ตามแต่ ก็ไม่ควรคิดจะมาที่นี่ให้เสียเวลา เพราะที่นี่ ปราศจากถังขยะ เว้นเสียแต่ในห้องน้ำ (ซึ่งก็มีน้อยมาก)
โดยนักปีนเขาทุกคนต้องนำขยะกลับไปทิ้งที่โรงแรม บ้าน หรือถังขยะสาธารณะอื่นๆ ที่ไม่ได้อยู่ที่ภูเขาไฟแห่งนี้ ลองนึกย้อนกลับกันว่าการมาของเรา ถือเป็นการรบกวนธรรมชาติ และสถานที่อันศักดิ์สิทธิ์อันเป็นที่เคารพยิ่งของชาวญี่ปุ่น การสร้างขยะแม้คนละน้อย ย่อมทำให้ภูเขาไฟที่งดงามแห่งนี้เสียหายไม่น้อยเลย
วินัย จิตใจ และสองขาของเราเท่านั้น ที่จะทำให้ฝันเป็นจริง
ถ้าเพื่อนๆ ไม่สามารถเดินขึ้นเขาแบบคนหมู่มาก เหมือนการสวนสนามได้แล้ว การมาปีนฟูจิก็อาจจะไม่เหมาะนัก เพราะภูเขาแห่งนี้ในช่วงเริ่มต้นเดิน ให้อารมณ์การเดินเป็นหมู่ที่เงียบสงบจนน่าประหลาดใจ ไม่มีเสียงร้องเพลงปลุกใจ ไม่มีเสียงฉิ่ง ฉาบ กลองสะบัดชัยตีให้กำลังใจเหมือนภูเขาบางแห่ง
ผู้ร่วมทางแปลกหน้า ต่างเดินตามกันไปอย่างช้าๆ ก้าวสั้นๆ หายใจเข้าลึกๆ หายใจออกยาวๆ เป็นจังหวะแห่งสมาธิและการสำรวจจิตใจตนเองโดยแท้
เมื่อไต่ความสูงขึ้นไป ผู้คนมากมายเหล่านั้นจะค่อยๆ หายเข้าที่พักตามระดับความสูงชั้นต่างๆ อย่างเงียบเชียบ
นอนกับคนแปลกหน้า สิ่งธรรมดาอันแสนวิเศษ
ถ้าไม่สามารถใช้ชีวิตชั่วข้ามคืนร่วมกับเพื่อนนอนแปลกหน้าจากทั่วทุกมุมโลก บนโรงนอนที่มีที่นอนขนาดเท่าตัวเราพอดิบพอดีได้ ก็ขอให้เลิกล้มความตั้งใจเสีย เพราะเมื่อใดที่เราขยับตัว เกิดเสียงยุกยิก จะเป็นการรบกวนเพื่อนร่วมโรงนอนอันเล็กแคบ
แม้จะเป็นฤดูร้อน แต่สภาพอากาศที่ความสูงไม่ต่ำกว่าราว 3,000 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล (หนาวมากน้อยแค่ไหน ก็แล้วแต่ระดับความสูงที่พักที่จองไป) ก็หนาวจับจิตจับใจ แต่ไออุ่นจากผ้าห่มของที่พัก การนอนเบียดกันกับเพื่อนร่วมทางแปลกหน้า และความเหนื่อยล้านั่นแหละครับ เป็นสิ่งธรรมดาอันแสนวิเศษที่ควรต้องไปสัมผัส
กินให้ง่าย อยู่ให้ง่าย
เนื่องจากที่พักส่วนใหญ่จะมีแต่ข้าวแกงกะหรี่และน้ำเปล่าเท่านั้น ที่เหลืออยากได้เพิ่มก็ต้องซื้อเอา หรือแบกขึ้นมาเอง
ห้องน้ำ
การใช้บริการห้องน้ำจะมีค่าบริการ (ที่เรียกว่าการบริจาค) เป็นเงิน 200 เยน (ราว 70 บาท) แต่เรื่องความสะอาดถือว่าทำได้ดี ตามมาตรฐานญี่ปุ่น
การอาบน้ำ
หากคุณเป็นคนที่ต้องอาบน้ำทุกวันก่อนนอน หรือวันละครั้ง ก็ให้ทบทวนซ้ำอีกที แม้แต่จะแปรงฟันยังยากยิ่ง ด้วยจำนวนนักปีนเขามากมายนั้น น้ำที่ใช้แรงงานคนแบกขึ้นไปจึงมีจำกัด หรือมีการสำรองน้ำฝนไว้ใช้ในส่วนที่จำเป็น จึงต้องใช้สอยอย่างประหยัด
ปลอดสัญญาณโซเชียล
บนภูเขาปลอดสัญญาณอินเทอร์เน็ตอย่างแน่นอน ดังนั้นแล้วการใช้งานโซเชียลมีเดียลืมไปได้เลย เพราะที่นี่นอกจากไม่มีสัญญาณอินเทอร์เน็ตแล้ว ที่ชาร์จไฟยังหาได้ยากยิ่ง เช่นนั้นแล้ว คนที่เสพติดโซเชียลภูเขาไฟฟูจิซัง อาจจะไม่เหมาะกับคุณ
ทั้งนี้ การเดินขึ้นภูเขาไฟฟูจิ ถือเป็นกิจกรรมที่คนรักการปีนเขาควรไปสักครั้งเพราะเป็นทั้งการสำรวจจิตใจ สำรวจร่างกาย ประสบการณ์อันมีค่าที่หาที่ไหนไม่ได้ในเวลาอันสั้น และที่สำคัญใช้เงินไม่มาก