Reebok แหวกแนวใช้วัสดุจากข้าวโพดและฝ้ายพัฒนารองเท้าสนีกเกอร์

การแข่งขันในธุรกิจรองเท้าสนีกเกอร์ในปัจจุบันไม่ได้มีเฉพาะแค่การแข่งขันในเรื่องของการออกแบบ ระดับราคา การเลือกใช้พรีเซนเตอร์คนใดเป็นหัวหมู่ทะลวงฟันในการโปรโมทสนีกเกอร์รุ่นนั้นๆ แต่ยังต้องรวมไปถึงมุมมองที่มีต่อธรรมชาติและโลกใบนี้อีกด้วย โดย Reebok ที่ในปัจจุบันเป็นหนึ่งในแบรนด์ลูกของ adidas ได้มีแนวคิดแหวกแนวไปกว่านั้น ด้วยการนำใยสังเคราะห์พิเศษที่ใช้ข้าวโพดและฝ้ายมาผลิตเป็นสนีกเกอร์ในชื่อ Reebok NPC UK Cotton and Corn

จากการเปิดเผยของ Reebok ระบุว่า รองเท้าที่ใช้วัสดุจากธรรมชาติจะใช้วัสดุด้วยกันสองประเภท นั่นคือ ฝ้ายธรรมชาติ และ เส้นใยจากข้าวโพด โดยที่เส้นใยจากฝ้ายธรรมชาติจะถูกนำมาถักทอเป็นอัปเปอร์ (Upper) หรือส่วนบนของรองเท้า และเส้นใยที่ได้มาจากข้าวโพดจะถูกนำมาผลิตเป็นพื้นรองเท้านั่นเอง แต่ทั้งนี้ Reebok ยังคงยืนยันว่า แม้จะมีการเปลี่ยนแปลงวัสดุในการผลิตสนีกเกอร์ แต่สไตล์การออกแบบนั้น ก็จะยังคงเป็นในสไตล์ Reebok เหมือนเดิมทุกประการ

Reebok ยังบอกด้วยว่า แนวคิดการนำข้าวโพดและฝ้ายธรรมชาติมาผลิตเป็นรองเท้าสนีกเกอร์นั้น เป็นแนวคิดที่ได้รับการพูดคุยเป็นการภายในนานกว่า 5 ปี ก่อนที่ Reebok จะเปิดเผยถึงนวัตกรรมของรองเท้ารักษ์โลกเมื่อกลางปี 2017 ที่ผ่านมา และจำหน่ายอย่างเป็นทางการเรียบร้อยแล้วในปี 2018

Bill McInnis หัวหน้าโครงการนี้ ระบุว่า โครงการพัฒนาของ Reebok ไม่ได้เริ่มต้นจากการเลือกใช้ข้าวโพดและใยฝ้าย แต่มีจุดเริ่มต้นจากโครงการรีไซเคิล กระนั้นเมื่อคิดให้ดีแล้ว วัสดุที่มาจากการรีไซเคิลมันก็ยังคงเป็นพลาสติกวันยังค่ำ ไม่ได้เป็นการแก้ปัญหาเรื่องพลาสติกแต่อย่างใด จึงเป็นจุดเริ่มต้นที่หาวัสดุใหม่ๆ ที่มาทดแทนการใช้พลาสติกโดยตรง ก่อนที่จะมาเป็นข้าวโพดอย่างที่เห็น

ทั้งนี้ข้าวโพดที่นำมาพัฒนาเป็นรองเท้าสนีกเกอร์ของ Reebok นั้น เป็นข้าวโพดคนละสายพันธุ์กับที่มนุษย์ใช้รับประทาน โดยเป็นข้าวโพดที่ใช้ในการเลี้ยงสัตว์ อย่างไรก็ดี ก่อนที่จะนำมาทำเป็นพื้นรองเท้าได้นั้น จะต้องผ่านกระบวนการอบแห้งเสียก่อน ต่อจากนั้นจึงนำไปหมักกับจุลินทรีย์ที่เหมาะสม และทั้งหมดนี้เป็นกระบวนการที่ปิดเก็บไว้เป็นความลับ 

สำหรับสนีกเกอร์ Reebok NPC UK Cotton and Corn ที่ใช้วัสดุจากธรรมชาติ เริ่มวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการแล้ว บนหน้าเว็บไซต์ของ Reebok เปิดตัวในราคา 95 ดอลลาร์สหรัฐ (คิดเป็นเงินไทยราว 3,200 บาท) ซึ่งเป็นระดับราคาเดียวกับรองเท้าสนีกเกอร์รุ่นคลาสสิคของ Reebok นั่นเอง

ปัจจุบันไม่ได้มีแค่ Reebok เท่านั้นที่เล็งเห็นถึงการผลิตรองเท้าที่ยั่งยืน แต่ยังมีบริษัทผู้ผลิตอุปกรณ์กีฬาจำนวนมากกำลังให้ความสำคัญในเรื่องนี้ ดังเช่น adidas ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของ Reebok มีแผนที่จะใช้พลาสติกรีไซเคิลแบบครบวงจร ยังมี Nike รวมถึงธุรกิจอื่นที่ไม่ใช่ธุรกิจอุปกรณ์กีฬาอย่าง Starbucks และ Lego ก็รณรงค์ยกเลิกการใช้พลาสติกแล้วเช่นกัน ซึ่งนี่คือเทรนด์ของการรักษ์โลกอย่างแท้จริง

>> adidas ให้คำมั่นพร้อมใช้พลาสติกรีไซเคิลผลิตอุปกรณ์กีฬาทั้งหมดในปี 2024