งานวิจัยตลาดเผย Nike ยอดขายกระฉูด-สินค้าขาดตลาด หลังเปิดตัวโฆษณา "Colin Kaepernick"
ข้อมูลวิจัยด้านการตลาดของทอมสัน รอยเตอร์ส (Thomson Reuters) ระบุว่า บริษัทกีฬาไนกี้ (Nike) มียอดขายสินค้าเพิ่มขึ้นราว 61% หลังจากการเปิดตัวของโฆษณาที่มี โคลิน แคปเปอร์นิค (Colin Kaepernick ) อดีตควอเตอร์แบ็คชื่อดังร่วมแสดง ทั้งที่ต้นเดือนนี้จะมีเสียงวิจารณ์มากมายต่อไนกี้ ก็ตาม
งานวิจัยที่ทำร่วมกับบริษัท StyleSage Co แสดงให้เห็นว่าไนกี้ ซึ่งเป็นบริษัทผลิตเสื้อผ้าและเครื่องกีฬารายใหญ่ที่สุดในโลก มีสินค้าขาดตลาดมากขึ้นระหว่างวันที่ 3-13 กันยายน เทียบกับช่วงเวลา 10 วันก่อนที่โฆษณาชิ้นนี้จะออกฉาย แม้ว่าจะมีสินค้าลดราคาน้อยลง หลังจากที่โฆษณาอื้อฉาวนี้ออกฉายแล้วก็ตาม โดยหนึ่งในสินค้าที่ขาดตลาด คือ เสื้อทีมของผู้หญิงที่มีชื่อของโคลิน แคปเปอร์นิค สลักอยู่ด้านหลัง
ขณะเดียวกัน ราคาหุ้นของไนกี้ ก็กระโดดกลับมาอยู่ที่ระดับเดิม โดยเพิ่มขึ้นมา 7% หลังจากร่วงลงไป 3% เมื่อมีการเปิดตัวโฆษณาชิ้นนี้ใหม่ๆ ในช่วงที่มีเสียงเรียกร้องทางสื่อสังคมออนไลน์ให้มีการคว่ำบาตรสินค้าของไนกี้
ไนกี้ตัดสินใจเลือก โคลิน แคปเปอร์นิค อดีตควอเตอร์แบ็คชื่อดังของทีม San Francisco 49ers ผู้ตกเป็นเป้าโจมตีเรื่องการไม่เคารพเพลงชาติอเมริกัน ให้มาเป็นนายแบบโฆษณาคนใหม่ในโอกาสครบรอบ 30 ปี คำขวัญ Just Do It พร้อมข้อความว่า จงเชื่อในบางสิ่ง แม้จะต้องเสียสละทุกสิ่ง
ทั้งนี้ โคลิน แคปเปอร์นิค เป็นนักอเมริกันฟุตบอลอาชีพคนแรกที่เริ่มประท้วงการเลือกปฏิบัติต่อคนผิวสีในอเมริกา ด้วยการไม่ยืนเคารพเพลงชาติก่อนการแข่งขัน แต่ใช้วิธีนั่งชันเข่าหนึ่งข้างแทน จนก่อให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์จากคนอเมริกันจำนวนมาก และทำให้เขาต้องกลายเป็นนักกีฬาที่ไม่มีสังกัดอยู่ในเวลานี้
เมื่อต้นเดือนนี้ สมาชิกผู้ใช้ทวิตเตอร์ราว 30,000 คน ต่างแชร์ #NikeBoycott โดยบางโพสต์นั้นมาพร้อมกับภาพถ่ายการทำลายรองเท้าและเสื้อผ้าของไนกี้ประกอบอยู่ด้วย ขณะที่ ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ร่วมวิจารณ์ว่า ธุรกิจของไนกี้ ก็ต้องถูกทำลายด้วยความเกลียดชังและการคว่ำบาตร เหมือนกับที่เคยเกิดขึ้นกับการแข่งขันอเมริกันฟุตบอล NFL ที่ยอดผู้ชมดิ่งเหว
อย่างไรก็ตาม สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่า กระแสต่อต้านไนกี้ลดลง และกลายเป็นกระแสความชื่นชมเพิ่มขึ้นในโลกออนไลน์แทน