iPong อุปกรณ์ที่สร้างมาเพื่อคนรักในกีฬาปิงปอง
กว่า 30 ปี ที่หลักสูตรมัธยมศึกษาตอนต้นในบ้านเรา บรรจุกีฬาปิงปอง หรือชื่ออย่างเป็นทางการคือ เทเบิลเทนนิส (table tennis) ไว้ในรายวิชาพลศึกษาระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1
เมื่อ 30 กว่าปีก่อน ความนิยมเล่นปิงปองมีมากไม่แพ้กีฬายอดฮิตอย่างบาสเกตบอล เพราะมองไปยังโรงเรียนไหนๆ ไม่ว่าในเมืองหรือนอกเมือง กรุงเทพฯ หรือต่างจังหวัด แทบทุกโรงเรียนเป็นต้องเห็นโต๊ะปิงปองตั้งอยู่ในร่ม กับสนามบาสเกตบอลกลางแจ้ง คอร์ทแบดมินตันหรือสระว่ายน้ำไม่ต้องพูดถึงสำหรับประเทศยากจนอย่างเรา บางโรงเรียนมีที่ว่างเหลือจากสร้างสนามบาสก็อาจมีพื้นที่สำหรับขึงเน็ตให้เด็กเล่นวอลเลย์บอลได้บ้าง แต่ทั้งๆ ที่บางโรงเรียนในจังหวัดห่างไกลมีพื้นที่เหลือเฟือ เรากลับไม่ค่อยเห็นการสร้างสนามฟุตบอลเท่าไหร่
ทั้งนี้ อาจเป็นเพราะเรารับวัฒนธรรมกีฬาสากลผ่านมาทางนักเรียนนอกที่จบจากสหรัฐอเมริกาและบางส่วนจากคนจีนอพยพกระมัง ทำให้เมืองไทยมีโต๊ะปิงปองและสนามบาส นับไม่ถ้วน
อีกราวสิบกว่าปีถัดมา จึงทยอยเห็นกีฬาฟุตบอลเริ่มเป็นที่นิยมมากขึ้น จากการถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์ และหนังสือพิมพ์กีฬาก็มีเซคชั่นฟุตบอลยุโรปอย่างเป็นเรื่องเป็นราว จนภายหลังแยกออกมาเป็นหนังสือพิมพ์เกี่ยวกับฟุตบอลต่างประเทศโดยเฉพาะ
เหล่านี้มีส่วนกระตุ้นให้เยาวชนหันมาสนใจกีฬาฟุตบอลกันอย่างแพร่หลาย ทำให้โรงเรียนต่างๆ สร้างสนามฟุตบอลไว้หน้าเสาธงและก็เข้าแถวตอนเช้ากันตรงนั้น จนกระทั่งถึงยุคปัจจุบันที่บ้านเรามีสนามฟุตซอลให้เช่ามากมายทั้งในกรุงเทพฯ และหัวเมืองต่างจังหวัด
กระนั้นก็ดี แม้ประเทศไทยจะพัฒนาก้าวหน้าขึ้นมาอย่างมากมาย มีกีฬาแปลกๆ ใหม่ๆ ทว่า กีฬาปิงปอง หรือเทเบิลเทนนิส ก็ยังคงมีคนเล่นอยู่ ถึงแม้จะมีปริมาณไม่มากเท่าเมื่อ 30 กว่าปีก่อน แต่แม้จะยังมีคนเล่นปิงปองอยู่ในบ้านเราจำนวนหนึ่ง สำหรับการแข่งขันกีฬาปิงปองระดับนานาชาติ ไทยเรามีนักกีฬาน้อยเกินไป ยังไม่ต้องพูดถึงนักกีฬาปิงปองเก่งๆ แทบไม่มีเลยในปัจจุบัน เพราะนักกีฬาผลัดรุ่นขึ้นมารับไม้ต่อกันไม่ทัน ทำให้ความสำเร็จขาดช่วงไป
อย่างไรก็ดี กลุ่มคนเล่นปิงปองก็ยังคงมีอยู่ และเปลี่ยนรุ่นขึ้นมาเรื่อยๆ แม้ว่าปริมาณจะลดน้อยลงก็ตาม
สาเหตุหลักมีสอง-สามประการ
หนึ่ง ปิงปองมีอุปกรณ์ขนาดใหญ่คือโต๊ะปิงปองที่เทอะทะน้ำหนักมากเคลื่อนย้ายลำบาก แม้จะพับเป็นแนวราบไปกับผนังแล้วก็ยังถือว่าเกะกะยิ่งนัก
สอง ปิงปองเป็นกีฬาที่ต้องเล่นหลายคน คือสองคนขึ้นไป การที่จะให้คนสองคนขึ้นไปสนใจกีฬาชนิดเดียวกันชนิดที่เรียกว่ามีความรักในปิงปองเสมอกัน ที่สำคัญก็คือ มีเวลาว่างตรงกันนั้นเป็นเรื่องยากมาก
สาม วัสดุสิ้นเปลืองอย่างลูกปิงปองนั้นดูดเงินในกระเป๋าผู้เล่นไม่น้อย เพราะลูกปิงปองบุบง่ายมาก แม้จะแช่น้ำร้อนให้รอยบุบเด้งกลับคืนสภาพเดิมก็ตาม และบางครั้งก็แตก บางครั้งก็หาย
สามสี่ข้อนี้เป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้ปิงปองกลายเป็นกีฬาตกกระป๋องไปจากความนิยมของเด็กไทยมาหลายรุ่นแล้ว
ทว่า เมื่อไม่นานมานี้ มีพ่อค้าหัวใส ประยุกต์เครื่องซ้อมตีปิงปองระดับมืออาชีพหรือเครื่องยิงลูกปิงปองของบรรดานักกีฬาเทเบิลเทนนิสระดับนานาชาติ ผลิตออกมาขายเป็นสินค้ามวลชนที่ใครก็สามารถเป็นเจ้าของไทย
นั่นก็คือ iPong
iPong คือเครื่องยิงลูกปิงปองสำหรับการฝึกซ้อมของเด็กๆ ทั่วไป ที่ไม่ต้องเป็นถึงระดับนักกีฬา iPong สามารถบรรจุลูกปิงปองได้อย่างน้อง 20 ลูกสำหรับ iPong รุ่นเล็กที่สุด
iPong ทำจากวัสดุอุปกรณ์ไฟเบอร์เหนียวอย่างดี ทนทาน ไร้สาย ภาคพลังงาน จ่ายกระแสไฟโดยใช้ถ่าน AA จำนวน 4 ก้อน สนนราคาไม่ถึง 2,000 บาท แต่ถ้าขี้เกียจวิ่งตามไปก้มเก็บลูกปิงปองที่เราตีโต้กับ iPong ก็ขอแนะนำให้ใช้ตาข่ายเก็บลูก iPong Catch Net สำหรับซ้อมร่วมกับเครื่องยิงลูกปิงปอง iPong สนนราคาไม่ถึง 1,000 บาท
แกดเจ็ตปิงปอง ที่ชื่อ iPong จึงตอบโจทย์คนรักปิงปองที่ไม่มีเพื่อนตีด้วย เพราะหาคนตีปิงปองยากในยุคนี้ โดยเฉพาะครอบครัวที่มีลูกคนเดียว เหมาะสมที่สุดเป็นอย่างยิ่ง