มิโด ร่วมกับ คิง เพาเวอร์ เปิดตัวนาฬิกาคอลเลคชั่นพิเศษ

มิโด ร่วมกับ คิง เพาเวอร์ เปิดตัวนาฬิกาคอลเลคชั่นพิเศษ

มิโด ร่วมกับ คิง เพาเวอร์ เปิดตัวนาฬิกาคอลเลคชั่นพิเศษ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ให้ทุกการเดินทางโดดเด่นด้วยคาแรคเตอร์อันน่าจดจำ มิโด (Mido) ได้ร่วมมือกับ คิง เพาเวอร์ (King Power) เปิดตัวนาฬิกาในคอลเลคชั่นพิเศษสำหรับนักสะสมที่ชื่อว่า บารอนเชลลี่ บิ๊ก เดท คิง เพาเวอร์ สเปเชี่ยล อิดิชั่น (Baroncelli Big Date King Power Special Edition) พร้อมแนะนำการเลือกนาฬิกาสำหรับชายหนุ่มนักเดินทาง

มิโด (Mido) แบรนด์นาฬิกา ที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 100 ปี นับตั้งแต่ จอร์จ แชแรน (Georges Schaeren) เริ่มก่อตั้งบริษัท Mido G.Schaeren & Co. AG ขึ้นที่เมืองโซโลธูร์น ประเทศสวิสเซอร์แลนด์ ตั้งแต่ ค.ศ. 1918 ภายใต้ปรัชญาของการสร้างสรรค์แบรนด์ให้อยู่เหนือกาลเวลาด้วยแนวคิดการออกแบบที่ร่วมสมัย ผ่านการคัดเลือกวัสดุคุณภาพเยี่ยมที่มีความหรูหรา ทนทาน และยังคงไว้ซึ่งฟังก์ชั่นการใช้งานที่ครบถ้วน รวมถึงความเที่ยงตรงสูง

สำหรับนาฬิกาคอลเลคชั่น บารอนเชลลี่ บิ๊ก เดท คิง เพาเวอร์ สเปเชี่ยล อิดิชั่น (Baroncelli Big Date King Power Special Edition) สุดพิเศษนี้ เป็นการหยิบยกนาฬิการุ่นบารอนเชลลี่ บิ๊ก เดท (Baroncelli Big Date) ถือว่าเป็นนาฬิกาอีกหนึ่งรุ่นหลักของแบรนด์มิโด (Mido) อันมีประวัติความเป็นมายาวนานที่เพิ่งเฉลิมฉลองครบรอบ 40 ปีไปเมื่อปี 2016 ที่ผ่านมาที่โดดเด่นด้วยดีไซน์อันเป็นเอกลักษณ์ โดยมีช่องวันที่ (Date) ที่มีขนาดใหญ่ และใช้กลไกสุดพิเศษอย่างรุ่น Caliber 80 รวมถึงการใช้เทคนิคการออกแบบและความประณีตชั้นสูงในการสร้างสรรค์เรือนเวลาได้อย่างลงตัว ภายใต้แรงบันดาลใจหลักจากอิทธิพลของสถาปัตยกรรมบาโรก (Baroque) ในยุคสมัยศิลปะนีโอคลาสสิค (Neoclassic) ของ Galleria Vittorio Emanuele II แห่งเมืองมิลาน ประเทศอิตาลี สะท้อนออกมาเป็นเส้นสายที่มีความโค้งมนบนตัวเรือน ที่เต็มไปด้วยความภูมิฐานและงดงามเหนือกาลเวลา

โดยรุ่น บารอนเชลลี่ บิ๊ก เดท คิง เพาเวอร์ สเปเชี่ยล อิดิชั่น (Baroncelli Big Date King Power Special Edition) ร่วมกับ คิง เพาเวอร์ (King Power) จะมีความโดดเด่นยิ่งขึ้น ด้วยช่องวันที่ (Date) ขนาดใหญ่แบบแยกหลักสองช่องที่ถูกวางไว้บนตำแหน่งที่หกนาฬิกาบนหน้าปัด ช่วยทำให้การมองเห็นตัวเลขของวันที่ให้มีความชัดเจนมากขึ้น มาพร้อมกับกลไกการขับเคลื่อนอันทันสมัยอย่าง Caliber 80 อันได้รับการพัฒนาขึ้นเป็นพิเศษ โดยมีระดับกำลังสำรองเพิ่มขึ้นสูงสุดถึง 80 ชั่วโมง ด้านตัวเรือนทรงกลมผลิตจากสแตนเลสสตีลขัดเงา เสริมความโดดเด่นด้วยขอบเบเซิล (Bezel) สองชั้นเล่นระดับพร้อมการเคลือบสีแบบทูโทน ตัวเรือนมีหน้าปัดขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 40 มิลลิเมตร ตกแต่งเพิ่มรายละเอียดบนพื้นผิวให้มีลักษณะแบบเม็ดทรายขนาดเล็กอย่างประณีต และตัวเข็มของนาฬิกาที่ผ่านการขัดแต่งสองรูปแบบบนเข็มเดียวกัน โดยด้านหนึ่งเป็นแบบขัดด้าน ส่วนอีกด้านเป็นแบบไดมอนด์คัท (Diamond-Cut) ที่เน้นความเงางามเพิ่มความหรูหรา ปิดทับด้วยกระจกแซฟไฟร์ (Sapphire) เคลือบกันแสงสะท้อนทั้งสองด้าน และตัวเรือนสามารถกันน้ำได้ 30 เมตร พร้อมกับสายนาฬิกาสองรูปแบบสุดพิเศษที่สามารถปรับเปลี่ยนสายตามไลฟ์สไตล์ของผู้สวมใส่ ทั้งสายหนังสีน้ำตาลที่ช่วยเสริมภาพลักษณ์ให้ดูน่าภูมิฐาน และสายสแตนเลสสตีลที่สะท้อนถึงความคลาสสิคเหนือกาลเวลา

พร้อมกันนี้ มิโด (Mido) ยังได้แนะนำเทคนิคการเลือกสวมใส่นาฬิกาสำหรับสำหรับชายหนุ่มนักเดินทางใน 2 โอกาสหลัก เริ่มจากการเดินทางแบบ บิซิเนส ทริป (Business Trip) เป็นการเดินทางเพื่อการทำงานที่ต้องเน้นการสร้างภาพลักษณ์ที่ดีและบุคลิกอันน่าเชื่อถือ นอกจากการแต่งกายด้วยชุดที่ดูภูมิฐานแล้ว ควรเลือกเสริมลุคด้วยนาฬิกาที่มีดีไซน์คลาสสิคเหนือกาลเวลา อย่างนาฬิกาตัวเรือนสแตนเลสสตีลขัดเงาพร้อมสายหนังโทนสีเบสิค อย่างสีดำหรือสีน้ำตาลให้ความโก้หรู ซึ่งเป็นสไตล์ที่สามารถสะท้อนถึงความน่าเชื่อถือได้เป็นอย่างดี

และสำหรับ ทริปท่องเที่ยว (Travel Trip) จะเป็นการเดินทางท่องเที่ยวเพื่อเป็นการพักผ่อน ที่ไม่เน้นความเป็นทางการ การแต่งกายก็จะแคชชวลมากขึ้น นาฬิกาที่เลือกใช้ก็จะมีลูกเล่นมากขึ้น ซึ่งตัวเรือนอาจจะเป็นดีไซน์คลาสสิคในโทนสีขาวหรือสีดำ และสามารถปรับเปลี่ยนเข้ากับสายได้ทุกประเภทไม่ว่าจะเป็น ประเภทสายผ้า สายหนัง หรือสายสแตนเลสสตีล ที่เหมาะแก่การมิกแอนด์แมทช์เข้ากับเสื้อผ้าทุกสไตล์ได้อย่างลงตัว

ร่วมชื่นชมกับนาฬิกาคอลเลกชั่นพิเศษ บารอนเชลลี่ บิ๊ก เดท คิง เพาเวอร์ สเปเชี่ยล อิดิชั่น (Baroncelli Big Date King Power Special Edition) จากทางแบรนด์ มิโด (Mido) นาฬิกาดีไซน์หรูคุณภาพมาตรฐานตามแบบฉบับ Swiss made ได้แล้ววันนี้ที่ King Power ทุกสาขา

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook