Mido อวดโฉมเรือนเวลาหรูดีไซน์ใหม่ล่าสุด Baroncelli Midnight Blue
นอกจากการเลือกแต่งตัว และมีบุคลิกภาพที่ดีแล้ว หนึ่งแอคเซสซอรี่ชิ้นเด่นอย่างนาฬิกาก็ถือเป็นองค์ประกอบหนึ่งที่จะช่วยเสริมลุคให้ผู้สวมใส่มีความดูดีและภูมิฐานได้มากยิ่งขึ้น ล่าสุดแบรนด์เรือนเวลาหรู มิโด (Mido) ได้เปิดตัวคอลเลคชั่นใหม่ที่ชื่อว่า ‘บาลอนเชียลลี่ มิดไนท์ บลู’ (Baroncelli Midnight Blue) เอาใจหนุ่มสาวผู้ที่หลงใหลในสไตล์คลาสสิก พร้อมแนะนำเทคนิคการเลือกนาฬิกาเสิรมลุคให้ดูภูมิฐานมากยิ่งขึ้น
สำหรับคอลเลกชั่น ‘บาลอนเชียลลี่ มิดไนท์ บลู’ (Baroncelli Midnight Blue) คู่เรือนเวลาสำหรับสุภาพบุรุษและสุภาพสตรี ที่มีแนวคิดของการออกแบบเพื่อเป็นสัญลักษณ์แห่งการเฉลิมฉลองที่แสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์อันเหนียวแน่นของหนุ่มสาวผู้ที่หลงใหลในความภูมิฐาน คลาสสิกเหนือกาลเวลา โดยได้รับแรงบันดาลใจมาจากแรนส์ โอเปร่าเฮ้าส์ (Rennes Opera House) โรงอุปรากรในประเทศฝรั่งเศส ที่มีความโดดเด่นและมีเอกลักษณ์ ด้วยเส้นสายการออกแบบที่เน้นความโค้งมน ความกลมกลืนของเส้นสายที่อ่อนช้อยซึ่งถือเป็นสไตล์ของการออกแบบในแนวคิดนีโอคลาสสิก (Neoclassic) ช่วยทำให้สถานที่แห่งนี้มีความพิเศษขึ้น ถ่ายทอดผ่านเรือนเวลาดีไซน์คลาสสิก ที่มีหน้าปัดขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 29 มิลลิเมตรสำหรับผู้หญิง และขนาด 38 มิลลิเมตรสำหรับบุรุษ
ส่วนตัวเรือนผลิตจากสแตนเลสสตีลทรงกลมขัดเงาเคลือบด้วย PVD สีโรสโกลด์ ด้านหน้าปัดออกแบบให้มีสีน้ำเงินเข้ม พร้อมตกแต่งด้วยลวดลายแบบซันเรย์ ซาติน สำหรับเรือนเวลาของสุภาพสตรีนั้นมีการประดับตกแต่งเพิ่มด้วยเพชร 12 เม็ด ที่มีน้ำหนักรวมกัน 0.078 กะรัต จัดวางตัวตามหลักชั่วโมงเป็นวงกลมบนหน้าปัด ช่วยเพิ่มลูกเล่นเปล่งประกายระยิบระยับยามสะท้อนแสงตัดกับหน้าปัดสีน้ำเงิน ช่วยเพิ่มความโดดเด่นได้เป็นอย่างมาก และหน้าปัดเรือนเวลาสำหรับบุรุษนั้น ถูกดีไซน์หลักชั่วโมงให้มีรูปทรงสามเหลี่ยมปลายแหลมมีสันนูน (Faceted dauphine-style) เข้ากันได้ดีกับเข็มชั่วโมงและเข็มนาที
ส่วนเข็มวินาทีออกแบบให้แบนเรียบพร้อมขัดแต่งแบบไดมอนด์คัท (Diamond-Cut) โดยทั้งสองตัวเรือนมีช่องแสดงวันที่ (Date) ระหว่างตำแหน่ง 4 และ 5 นาฬิกา ปิดครอบทับด้วยกระจกหน้าปัดผลิตจากแซฟไฟร์ (Sapphire) ทนแรงกระแทก พร้อมเคลือบกันแสงสะท้อนทั้งสองด้าน เข้าคู่กับสายหนังแท้ปั๊มลายจระเข้สีน้ำตาลกึ่งด้าน พร้อมกับบานพับที่ผลิตจากสแตนเลสสตีลเคลือบ PVD สีโรสโกลด์ และตัวเรือนขับเคลื่อนด้วยกลไกอัตโนมัติรุ่นใหม่ล่าสุดอย่าง กลไก Caliber-80 ที่มีกำลังสำรองถึง 80 ชั่วโมงในเรือนเวลาสำหรับบุรุษ และกลไกอัตโนมัติที่มีพลังงานสำรอง 38 ชั่วโมงในเรือนเวลาสำหรับสุภาพสตรี โดยโรเตอร์ในชุดกลไกได้รับการขัดแต่งลวดลายแบบเจนีวา สไตรป์ (Geneva Stripes) พร้อมกับการสลักสัญลักษณ์ของมิโดเอาไว้ ซึ่งสามารถมองเห็นกลไกนี้ได้ผ่านทางฝาหลังแบบใส และนาฬิการุ่นนี้สามารถกันน้ำอยู่ที่ระดับ 50 เมตร
นอกจากนี้ทาง มิโด (Mido) ยังได้แนะนำเคล็ดลับการเลือกนาฬิกาเสิรมลุคภูมิฐาน เริ่มที่ หนุ่มสาววัยรุ่น ที่ต้องการเสริมลุคให้ดูดีในโอกาสสำคัญ สามารถเลือกแต่งกายในชุดที่ดูเรียบง่าย มีความเรียบร้อย พร้อมกับเลือกนาฬิกาเสริมลุคได้ โดยเลือกนาฬิกาจากดีไซน์ที่มีความเรียบโก้ คลาสสิก อย่างตัวเรือนสแตนเลสสตีลทรงกลม ที่มาพร้อมกับสายหนังแท้โทนสีพื้น อย่างสีดำหรือน้ำตาล จะช่วยเสริมลุคให้ดูดี พร้อมสร้างความประทับใจแก่ผู้พบเจอได้
ถัดมาที่ หนุ่มสาววัยทำงาน การเลือกนาฬิกาสวมใส่เป็นหนึ่งตัวช่วยเสริมลุคของการทำงาน ช่วยสร้างความน่าเชื่อถือ ดูมั่นคงได้เป็นอย่างดี ควรเลือกนาฬิกาจากดีไซน์ที่มีความเรียบหรู คลาสสิกเหนือกาลเวลา อย่างตัวเรือนนาฬิกาทรงกลมที่มีขนาดพอดีกับข้อมือตนเอง ด้านหน้าปัดตัวเรือนอาจเลือกที่มีลูกเล่นหรือการตกแต่งที่มีความพอดี ไม่เยอะมากจนเกินไป เพราะนาฬิกาที่มีดีไซน์คลาสสิก เรียบง่ายนั้น สามารถสวมใส่ได้บ่อย ไม่ตกเทรนด์ และสามารถแมทช์เข้ากับชุดทำงานได้หลากหลายชุด พร้อมช่วยเพิ่มความสุขุมภูมิฐาน
อัลบั้มภาพ 11 ภาพ