6 วิธีสร้าง Six Pack แรงปรารถนาของชายหนุ่ม
หากเราเดินเข้าไปถามคุณผู้ชายทั้งหลายไม่ว่าจะเป็นวัยไหน แล้วถามคำถามว่าคุณต้องการให้รูปร่างคุณเป็นอย่างไร คำตอบมากกว่า 90% จะบอกว่าอยากจะมี Six Pack
คำทับศัพท์ที่บรรดาผู้ชายและผู้หญิงอธิบายถึงกล้ามเนื้อท้องที่ราบเนียนจนแลเห็นกล้ามข้างซ้าย 3 มัด ข้างขวา 3 มัด แล้วเรียกรวมกันว่าซิกแพ็ค
มีตำรา วิธีการ ผู้รู้มากมายที่พูดถึงเรื่องแรงปรารถนาของคุณผู้ชาย แต่มีน้อยคนที่จะได้ดังใจต้องการ ผลวิจัยหลายต่อหลายฉบับสรุปตรงกันว่าผู้ชายส่วนใหญ่มักไม่เกาะติดกับการสร้างนิสัยในการบริหารกล้ามท้อง
เป็นเพราะต้องการที่จะเห็นผลเห็นหน้าท้องที่มีกล้ามเป็นมัด ๆ แบบรวดเร็วทันใจ หลายๆ คนต้องการที่จะทำตามคู่มือต่าง ๆ อธิบาย บางคนก็หลงลมโฆษณาเสียเงินเสียทองซื้อบรรดาเครื่องมือออกกำลังกายสารพัด ที่หลอกเอานายแบบกล้ามเป็นมัดมาบอกเราว่าเพียงวันละ ไม่กี่นาที่เท่านั้น สุดท้ายก็ลงเอยคล้ายกัน เลิกล้มความตั้งใจอันแรงกล้าในเวลาอันสั้น พุงที่แสนงามก็ยังคงอยู่เหมือนเดิม บางคนก็ใหญ่กว่าเดิม
ฝรั่งช่างคิดจึงพากันหาสาเหตุว่าและหาแนวทางแก้ไข จากการวิจัยของมหาวิทยาลัยไอโอว่า สหรัฐอเมริกา บอกว่า ผลสำเร็จของวิธีการให้ได้กล้ามท้องที่สวยงามนี้ คนที่ทำได้สำเร็จจะพุ่งเป้าไปที่วิธีการทีละขั้นทีละตอนอย่างสม่ำเสมอโดยไม่กังวลว่าเมื่อไหร่พุงจะแฟบลงตามต้องการ
ผลวิจัยบอกต่ออีกว่าคนที่มัวแต่รอดูผลลัพธ์ รอดูกล้ามท้องให้ขึ้นมาเร็ว ๆ มักจะตกม้าตายเสียก่อน เคล็ดลับของงานนี้คือสนใจทำตามขั้นตอนเท่านั้น ไม่ต้องไปกังวลกับผลเพราะได้ตามต้องการแน่นอน
ขั้นตอนต่อไปนี้ เพียงแต่ละวันคุณทำตามหัวข้อข่างล่างนี้ทุก ๆ วัน Six Pack กลางลำตัวของคุณก็จะเผยโฉมออกมาอย่างอัตโนมัติ
วิธีสร้าง Six Pack เคล็ดลับได้ตามต้องการแน่นอน
1. รับอรุณด้วยน้ำ
ลองนึกภาพตามว่าถ้าคุณทำงานตลอดทั้งวัน 7 – 8 ชั่วโมง แล้วไม่ได้ดื่มอะไรเลย ไม่ว่าจะเป็นน้ำเปล่า ชา กาแฟ หรือเครื่องดื่มอื่นใด ทั้งลำคอและร่างกายรวมถึงเซลล์ภายในของคุณจะมีสภาพเป็นอย่างไร แน่นอนว่ามันคงแห้งผากไปทั่วทุกส่วน ไม่มีใครทำร้ายร่างกายแบบนี้แน่ แต่ในยามที่เรานอนหลับ ระยะเวลาเท่า ๆ กับเวลาที่เราทำงาน ร่างกายของเราขาดน้ำไปทั่วร่างกาย ถึงแม้เราจะใช้พลังงานหรือมีกิจกรรมน้อยกว่ายามตื่นก็ตาม ต้องย้ำว่าร่างกายของเราก็ขาดน้ำและความชุ่มชื้นอย่างแน่นอน
เมื่อตื่นขึ้นมายามเช้า เราควรต้อนรับร่างกายที่แสนรักของเราด้วยน้ำเปล่าแก้วใหญ่ ๆ ทันทีก่อนที่เราจะได้ทำกิจกรรมอื่น นักวิทยาศาสตร์ชาวเยอรมันได้มีผลวิจัยว่าการดื่มน้ำในตอนเช้าประมาณ 300 - 500 ซีซี จะช่วยเพิ่มกระบวนการเผาผลาญในร่างกาย (Metabolism) พุ่งขึ้น 24% ต่อเนื่องถึง 90 นาทีหลังจากนั้น (แต่ถ้าจำนวนไม่มากพอ เช่นแค่ จิบ ๆ จะไม่ส่งผลใด ๆ ต่อร่างกาย) นอกเหนือไปกว่านั้นจะทำให้เซลล์กล้ามเนื้อทำงานได้ดีมากยิ่งขึ้น และอย่าลืมว่าตลอดทั้งวันเราควรเติมน้ำเข้าในร่างกายให้ได้ 1 -2 ลิตร
2. อย่าละเลยอาหารเช้า
มหาวิทยาลัยแมสซาชูเสต ได้ทำการวิจัยไว้ว่า หนุ่มที่งดอาหารเช้ามีโอกาสที่จะพุงใหญ่กว่าคนที่กินอาหารเช้าสม่ำเสมอถึง 4.5 เท่า ซึ่งน่าจะมีคำขวัญเตือนใจหนุ่ม ๆ ได้ว่า ปริมาณอาหารเช้าจะเป็นปฏิภาคผกผันกับขนาดรอบเอวของคุณ แปลความได้ว่า กินอาหารเช้ามาก จะได้พุงเล็ก (หรือไม่มีพุง) แต่ถ้าไม่กินอาหารเช้าหรือกินน้อยมีโอกาสพุงใหญj
3. ก่อนรับประทาน นึกถึงเป้าหมาย (Six Pack)
แนวคิดนี้จะช่วยได้มากสำหรับหนุ่มที่มุ่งมั่นในเป้าหมายก่อนจะใส่อะไรตามใจปาก เขาจะคิดคำนวณไปว่าถ้ากินขาหมูจานนี้หรือเลือกปลานึ่งจานโน้น จานไหนจะทำให้กล้ามท้องเป็นไปตามที่เขาต้องการ ปลูกฝังความคิดแบบนี้ในหัวคุณ เพราะนักวิทยาศาสตร์จากมหาวิทยาลัยไอโอว่าวิจัยกับหนุ่มหุ่นดีมากมายแล้วว่านี่คือวิธีที่เขาทำแล้วได้ Six Pack มาอวดสาว
4. เตรียมอาหารมีประโยชน์ใกล้ตัว
บ่อยครั้งที่เรามักตามใจปาก ตามใจท้องโดยไม่ได้ตั้งใจ เช่นกำลังอยู่ในช่วงดูแลหุ่นให้งามแต่วันนี้หิวหน้ามืดเดินผ่านร้านข้าวมันไก่ตอนก็ตบะแตกทันทีหรือทำงานยามบ่ายกำลังง่วงพรรคพวกชวนกินเค้กก้อนใหญ่ก็ขัดไม่ได้ (ความจริงคืออย่าห้าม)
ผู้เชี่ยวชาญด้าน Six Pack แนะวิธีป้องกันได้ง่าย ๆ โดยให้เตรียมของว่างที่มีคุณภาพไว้ใกล้ตัว ยกตัวอย่างที่ท่านอาจนำไปประยุกต์ได้ บางคนจะแพ็คใส่กล่องไว้ใกล้ตัว อาทิ เบียร์สองกระป๋อง อันนี้ไม่ใช่แน่ เพราะเบียร์คือศัตรูตัวร้ายของกล้ามท้องอันสวยงาม
เช่น คุณอาจใส่แอ๊บเปิ้ลสำหรับของว่างตอนเช้า อาหารว่างตอนบ่ายอาจเป็นกล้วยหอม หรือ โปรตีนเชค (ที่อิ่มท้องได้พลังงานแต่ไม่เพิ่มไขมันส่วนเกิน) ผู้เชี่ยวชาญแนะนำว่าการเตรียมของว่างคุณภาพไว้ใกล้ตัวเสมอ จะทำให้เราได้รับพลังงานเพียงพอกับการใช้งานหรือไว้ใช้ในการออกกำลังกายและไม่ทำให้เรามีส่วนเกิน ที่จะสร้างเป็นไขมันปกปิดกล้ามเนื้อท้องของเราเสียมิดชิด
5. ออกกำลังกายให้ถูกวิธี
ผู้หญิงและผู้ชายมีกล้ามเนื้อท้องเป็นมัดทุกคนแต่เรามักไม่ค่อยเห็นเพราะเราเอาชั้นไขมันปกปิดมันจนมิด บางคนเข้าฟิตเนสออกกำลังกายพยายามทุกวิถีทางเพ่งไปที่กล้ามท้อง เช่น ซิทอัพ เป็นร้อยครั้ง กลับจะได้ผลไม่มากเท่าการขจัดไขมันออกจากพุง ซึ่งวิธีที่ผู้เชี่ยวชาญแนะนำมีอยู่ 2 วิธีคือการยกน้ำหนักและการออกกำลังกายแบบ HITT(High - Intensity Interval Training)
เราคงเคยฟังจนคุ้นเคยแล้วว่าคุณควรออกกำลังกาย 1- 3 ครั้งต่อสัปดาห์ ครั้งละอย่างน้อย 30 นาที เหมือนท่องสูตรคูณ แต่ทว่าวิธีการดังกล่าวมีผลต่อการลดน้ำหนักบ้างสำหรับผู้เริ่มต้นและจะช่วยให้ระบบหลอดเลือดหัวใจและหัวใจแข็งแรงแต่ไม่สามารถทำให้ไขมันส่วนเกินออกไปได้รวดเร็วทันใจ
การออกกำลังกายแบบ HITT เนื้อหาคือรวดเร็ว เข้มข้น หนักเพียงพอ เช่นแทนที่คุณจะวิ่งเหยาะ ๆ ซัก 30 นานทีแบบเหงื่อซึม คุณเปลี่ยนเป็นวิ่งเร็วแบบวิ่งแข่งกระทั่งคุณเหนื่อยมากแล้วหยุดเดิน หายเหนื่อยก็ทำซ้ำแบบเดิม
ออกกำลังกายแบบนี้จะเพิ่มอัตราการเผาผลาญในร่างกายคุณมากกว่าการวิ่งเหยาะแบบยาวนาน อีกทั้งยังมีผลต่อเนื่องถึง 39 ชั่วโมงหลังจากนั้น หรือแม้แต่การยกน้ำหนัก 30 นาที ก็เผาผลาญแคลอรี่ได้เท่ากับการวิ่งเร็ว 4 นาที/กม. (ราว 15 กม/ชม. แต่การยกเวทคุณได้เพิ่มกล้ามเนื้อขึ้นมา
6. อย่านอนดึก
นอนดึกทำให้ลงพุง ฟังดูไม่น่าจะเกี่ยวข้องกัน แต่มหาวิทยาลัยชิคาโกได้มีผลวิจัยว่า หากคุณนอนไม่หลับหรืออดนอนเพียง 3 คืน จะทำให้เซลล์กล้ามเนื้อของเราต่อต้านต่อฮอร์โมนอินซูลิน จากการต่อต้านนี้ทำให้เกิดไขมันไปสะสมเพิ่มขึ้นที่พุงของเราได้ บทสรุปของคนนอนดึก อดนอน ระบบฮอร์โมนที่ทำหน้าที่ขจัดไขมันในร่างกายถูกรบกวน ความสามารถในการเผาผลาญไขมันก็ลดลง เมื่อเผาไม่ทันก็ฝากเอาไว้ที่พุงก่อนนะจ๊ะ