โรคติดต่อทางเพศ ความจริงที่ควรรู้
ถ้าเราพูดถึงโรคติดต่อทางเพศแล้ว เราก็มักจะนึกถึงโรคเอดส์เป็นอันดับแรก แต่ความจริงแล้วยังมีโรคติดต่อที่เกิดจากการมีเพศสัมพันธ์อีกมากมายที่ผู้ชายหลายคนอาจไม่รู้ ซึ่งเป็นอันตรายและติดต่อง่ายเช่นกัน ดังต่อไปนี้
- โรคหนองในเทียม เป็นโรคติดต่อที่พบมากที่สุดในโลก ซึ่งโอกาสที่จะติดโรคนี้ได้ก็ต่อเมื่อเรามีเพศสัมพันธ์กับคนที่มีเชื้อแบคทีเรีย Chlamydia trachomatis ทั้งทางปาก ช่องคลอด หรือทวารหนัก ซึ่งอาการโรคหนอกในเทียมในเพศชายที่เห็นได้ชัดคือ รู้สึกเจ็บแสบอวัยวะเพศขณะปัสสาวะ มีหนองไหลออกมาจากอวัยวะเพศ และอัณฑะบวม
- โรคหนองในแท้ ความแตกต่างระหว่างโรคหนองในแท้กับโรคหนองในเทียม คือ สาเหตุของโรค เพราะโรคหนองในแท้จะเกิดจากการติดเชื้อ N.Gonorrhea เพียงตัวเดียวเท่านั้น แต่โรคหนองในเทียมจะเกิดจากการติดเชื้อได้หลายชนิด แต่ส่วนอาการนั้นจะไม่ค่อยมีความต่างจากโรคหนองในเทียมมากนัก และโดยส่วนใหญ่โรคหนองในแท้มักเกิดขึ้นพร้อมกับโรคหนองในเทียมเสมอ
- โรคพยาธิไตรโคโมนีเอซิส ทั้งผู้ชายและผู้หญิงที่ติดโรคพยาธิไตรโคโมนีเอซิส โดยส่วนมากจะไม่รู้ตัวเองเป็นโรคนี้ เพราะมันจะไม่แสดงอาการใด ๆ ออกมาเลยในช่วงแรก แต่สำหรับบางคนก็จะรู้สึกคันหรือแสบบริเวณอวัยวะเพศ มีหนองไหลออกมาจากอวัยวะเพศ อีกทั้งยังทำให้เป็นโรคท่อปัสสาวะอักเสบด้วย
- โรคเอดส์ หรือ HIV เป็นที่รู้จักกันดีและเป็นเชื้อที่น่ากลัวที่สุดอีกด้วย สาเหตุที่ทำให้เกิดโรค เกิดจากการมีเพศสัมพันธ์ที่ไม่ปลอดภัย เช่น ไม่สวมถึงยางอนามัย มีเพศสัมพันธ์กับคนที่ไม่ใช่คู่ของตน และเที่ยวสถานบริการ อีกทั้งถ้าคนเป็นแม่มีเชื้อ HIV เด็กที่อยู่ในครรภ์ก็สามารถติดได้เช่นกัน โดยเชื้อดังกล่าวจะแสดงอาการระยะแรกหลังจากติดเชื้อประมาณ 2 – 3 สัปดาห์ ผู้ป่วยจะมีอาการไข้ขึ้นสูงหรือรู้สึกว่าเป็นไข้หวัดใหญ่ แต่จะใช้เวลานานเพื่อที่จะทำให้ระบบภูมิคุ้มกันร่างกายเสียหายทั้งหมด และยังส่งผลให้เกิดโรคต่าง ๆขึ้นมาอีกด้วย เช่น วัณโรค มะเร็ง และความจำเสื่อม เป็นต้น
- โรคเริมที่อวัยวะเพศ โรคนี้จะเกิดจากเชื้อ Herpes Simplex Viruses ผ่านการมีเพศสัมพันธ์กับคนที่ติดเชื้ออยู่แล้ว สังเกตง่าย ๆ คือผู้ชายมักจะพบตุ่มใส ๆ ขึ้นมากมายบริเวณต่าง ๆ เช่น อวัยวะเพศสืบพันธุ์ ก้น ถุงอัณฑะ ทวารหนัก ผิวหนังที่ขาอ่อน และภายในท่อปัสสาวะ
- โรคหูดที่อวัยวะสืบพันธุ์ เกิดจากเชื้อ Human Papillomavirus โรคหูดที่จะเห็นได้ชัดคือ แผลหูดจะมีลักษณะคล้ายเนื้อเยื่อนูนและตะปุ่มตะป่ำเกิดขึ้นที่อวัยวะสืบพันธุ์หรือทวารหนัก เป็นต้น
- โรคไวรัสตับอักเสบ บี เกิดจากเชื้อ Hepatitis B Virus ที่ผ่านการมีเพศสัมพันธ์โดยไม่สวมถุงยางหรือสัมผัสเลือดหรือของเหลวกับคนที่ติดเชื้ออยู่แล้ว และอาการของโรคนี้คือ จะเบื่ออาหาร คลื่นไส้ อาเจียน ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อและข้อต่อ อีกทั้งยังส่งผลทำให้เป็นดีซ่านได้
- โรคซิฟิลิส เกิดจาดเชื้อแบคทีเรีย Treponema Pallidum ที่ผ่านการมีเพศสัมพันธ์กันทางทวารหนัก ปาก หรือช่องคลอด โรคซิฟิลิสจะไม่แสดงอาการออกมาสักเท่าไหร่ และหากได้รับการรักษาที่ไม่เหมาะสมแล้วเมื่อถึงระยะสุดท้าย มันจะทำให้สมองติดเชื้อ หูหนวก และตาบอด