ร่วมรักอย่างไร…เมื่อหวานใจตั้งท้อง

ร่วมรักอย่างไร…เมื่อหวานใจตั้งท้อง

ร่วมรักอย่างไร…เมื่อหวานใจตั้งท้อง
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ว่ากันว่ากามารมณ์นั้นเป็นการบอกรักด้วยภาษากายที่จับต้องได้ เป็นการถ่ายทอดความรักผ่านการเคลื่อนไหวของร่างกายที่เกิดการสัมผัสอย่างลึกซึ้งในกันและกันเพื่อที่จะถ่ายทอดความพิศวาสให้กันและกันจนเกิดความสุขสมที่เรียกว่า “จุดสุดยอด” ร่วมกัน และก่อให้เกิดสายใยแห่งรักที่มองไม่เห็นแต่สัมผัสได้ ในความสุขสมร่วมกันที่เกิดขึ้นนั้นย่อมก่อให้เกิดสัมพันธภาพที่ยืนยาวด้วยความรักความผูกพันในอ้อมกอดของกันและกันหลังจากปฏิบัติการอันสุนทรีย์ผ่านไป

แต่ก็แน่นอนว่าผลพวงจากความสุขสมที่เกิดจากเซ็กซ์นั้นย่อมจะมีผลผลิตที่เรียกว่า “ลูก” ตามมา ซึ่งนั่นก็เริ่มเกิดการเปลี่ยนแปลงของบทรักบทพิศวาสในรูปแบบเดิมๆ ไปเกือบหมด โดยเฉพาะคู่ที่ไม่ได้มีความเข้าใจในกันและกันในเรื่องของความต้องการทางเพศ หรือมีทัศนคติในเรื่องเพศแบบหัวโบราณ

…ผู้หญิงส่วนหนึ่งเมื่อตั้งครรภ์ขึ้นก็เริ่มหมดอารมณ์ทางเพศไม่อยากที่จะมีเซ็กซ์กับสามี เพราะกลัวไปต่างๆ นานา ไม่ว่าจะกลัวว่ามีเซ็กซ์ในระหว่างตั้งครรภ์แล้วลูกในครรภ์จะพิการ หรืออาจจะแท้งบุตรและคลอดก่อนกำหนดได้ ทั้งๆ ที่ไม่ได้เป็นความจริงแต่อย่างไร

…ผู้หญิงอีกหลายคนก็มีความรู้สึกว่าระหว่างตั้งครรภ์รูปร่างเปลี่ยนไปไม่น่าดู ไม่อยากให้สามีเห็นรูปร่างที่ตนเองคิดว่าน่าเกลียดแบบนั้น แต่ในความเป็นจริงแล้วผู้ชายหลายคนกลับมีอารมณ์เซ็กซ์มากขึ้นเมื่อภรรยาตั้งครรภ์ด้วยความเปล่งปลั่งของร่างกายที่เกิดจากฮอร์โมนของการตั้งครรภ์

….ผู้หญิงส่วนใหญ่เมื่อเกิดการตั้งครรภ์ขึ้น ฮอร์โมนเพศในร่างกายจะเปลี่ยนไป ทำให้มีฮอร์โมนที่ชื่อ “โปรเจสเตอโรน” มากขึ้น เจ้าฮอร์โมนตัวนี้จะทำให้ผู้หญิงมีความสุขสบายและเกิดความรักในรูปแบบของความเป็นมารดามากขึ้น จึงทำให้ลดความต้องการในการมีเพศสัมพันธ์ลง และไม่มีความสุขในการมีกิจกรรม

…ผู้หญิงหลายคนเกิดการเจ็บช่องคลอดเวลามีเซ็กซ์ เพราะในช่วงเวลาดังกล่าวจะมีเลือดมาคั่งที่ช่องคลอดมากการเสียดสี ที่มีน้ำหล่อลื่นน้อยอาจเกิดการระคายเคืองและเจ็บได้ แต่ถ้าเรียนรู้หลักการที่ถูกต้องแล้วการมีเซ็กซ์ในระหว่างการตั้งครรภ์จะมีความสุขสมเหมือนเดิม หรืออาจจะมากกว่าเดิมก็ได้

…ผู้หญิงที่ตั้งครรภ์มักไปถึงจุดสุดยอดได้ยากขึ้น ทำให้เบื่อหน่ายที่จะมีเซ็กซ์ในระหว่างการตั้งครรภ์ ในเรื่องนี้ถ้าได้เรียนรู้ที่จะปรับเปลี่ยนท่วงท่าในการมีเซ็กซ์กันแล้ว ก็จะทำให้การร่วมรักเกิดการสุขสมมากขึ้น

แต่เซ็กซ์ไม่ใช่ข้อห้ามในการปฏิบัติระหว่างการตั้งครรภ์ แถมอาจจะมีคุณอเนกอนันต์ที่ทำให้ฝ่ายหญิงเกิดความภาคภูมิใจที่สามีได้อยู่ใกล้ชิด และจาการศึกษาสถิติ ปรากฏว่าผู้หญิงตั้งครรภ์ที่มีเซ็กซ์อย่างสุขสมในระหว่างการตั้งครรภ์นั้น สามารถที่จะคลอดบุตรตามปกติได้มากกว่าผู้หญิงที่หลีกเลี่ยงการมีเพศสัมพันธ์ระหว่างตั้งครรภ์เสียอีก การมีเซ็กซ์ในระหว่างการตั้งครรภ์นั้นผู้เชี่ยวชาญทางด้านสูตินรีเวชจึงรับรองถึงคุณประโยชน์และไม่ได้เป็นข้อห้ามแต่อย่างใด

…เซ็กซ์ในระหว่างการตั้งครรภ์นั้นนอกจากจะไม่ได้เป็นข้อห้ามแล้ว ยังเป็นสิ่งที่แนะนำให้ปฏิบัติเป็นประจำสม่ำเสมออีกด้วย เพราะจะทำให้การพัฒนาของทารกในครรภ์เป็นไปอย่างดี

…การมีเซ็กซ์ในระหว่างการตั้งครรภ์นั้น จะห้ามก็เฉพาะการตั้งครรภ์ที่มีภาวะแทรกซ้อนเท่านั้น เช่น การตั้งครรภ์แฝด หรือทารกในครรภ์อยู่ในท่าทางที่ผิดปกติ มีรกเกาะต่ำหรือมีเลือดออกทางช่องคลอดที่ไม่ทราบสาเหตุ หรือมารดาตั้งครรภ์มีโรคทางอายุรกรรมที่แพทย์ห้าม นอกจากนี้แล้วไม่มีข้อห้ามอื่นใด

…การมีเซ็กซ์ในระหว่างการตั้งครรภ์นั้นควรจะปรับเปลี่ยนท่วงท่าที่ทำให้เกิดความสะดวกและไม่กระทบกระเทือนการตั้งครรภ์ ถ้าเรียนรู้หลักการมีเซ็กซ์ที่ถูกต้องแล้ว การมีเซ็กซ์ในระหว่างการตั้งครรภ์สามารถมีได้จนใกล้วันกำหนดคลอดเลยทีเดียว

…เซ็กซ์หลังคลอดสามารถมีได้ทันทีเมื่อหายเจ็บแผลคลอด ไม่ว่าจะเป็นการคลอดเองทางช่องคลอดหรือการผ่าท้องทำคลอด เมื่อหายเจ็บแผลและคิดว่าใจตรงกัน ก็สามารถที่จะเริ่มกิจกรรมกันได้เลย เพียงแต่ต้องเรียนรู้ที่จะรักษาความสะอาดอย่างดีเท่านั้น

เมื่อทราบดังนี้แล้วก็มาเริ่มปฏิบัติกิจกรรมอย่างถูกเทคนิคกันดีกว่า ว่าจะมีเซ็กซ์แบบใดและท่าไหนดี

เริ่มด้วยการกอดกันอย่างแนบแน่น ลูบไล้สัมผัสกันไปทุกส่วนของร่างกายอย่างอบอุ่นนุ่มนวลก็เป็น เซ็กซ์ที่ทำได้อย่างปลอดภัยในระหว่างการตั้งครรภ์ และควรจะกระทำเป็นประจำด้วย

หรือถ่ายทอดความรักให้แก่กันผ่านการสัมผัสด้วยริมฝีปากที่สัมผัสอย่างแนบแน่นก็ให้ความสุขปานได้ขึ้นสวรรค์เช่นกัน โดยเฉพาะในระหว่างนั้นควรจะมีการลูบไล้สัมผัสดังที่ได้กล่าวในตอนแรก

ใช้มือกับจุดสัมผัสที่ให้ความพิศวาสของกันและกัน ก็ให้สัมผัสที่ซาบซึ้งจนสามารถที่จะจูงขึ้นสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ โดยเฉพาะถ้ามีดนตรีเคล้าคลอด้วยแล้วย่อมจะทำให้ได้อารมณ์บรรเจิดมากขึ้น

ใช้ปากทำรักให้แก่กันและกันไปพร้อมๆ กันที่เรียกว่า Sixty Nine Position ก็สามารถที่จะให้ความสุขสุดยอดแก่กันได้ แต่ควรจะนอนตะแคงเข้าหากันจะสะดวกและปลอดภัยกว่า

ฝ่ายชายยังสามารถใช้อวัยวะประจำตัวมีกิจกรรมแบบ Outercourse ที่ไม่มีการสอดอวัยวะเพศชายเข้าไปภายในช่องคลอดก็ได้ ไม่ว่าจะเป็นซอกหลืบอื่น ระหว่างร่องอก ระหว่างขาหนีบต้นขา หรือซอกแขน ก็ล้วนแต่ให้ความสัมผัสที่อบอุ่นลึกซึ้งแก่กันและกัน โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่น้ำรักอุ่นๆ ได้หลั่งออกมาสัมผัสส่วนที่ให้ความสุขนั้น

สำหรับการร่วมรักเต็มรูปแบบที่เรียกว่า Intercourse ที่จะต้องมีการสอดสัมผัสในกันและกัน ก็สามารถที่จะมีได้ในระหว่างที่ตั้งครรภ์ ถ้าเรียนรู้ที่จะปรับเปลี่ยนท่วงท่าในการมีเซ็กซ์กันซึ่งมีหลักการง่ายๆ แค่ว่า…
“การสอดอวัยวะเพศชายเข้าไปภายในช่องคลอดนั้น จะต้องสอดเข้าไปไม่ลึกมากจนกระทั่งกระแทกกระเทือนปากมดลูกที่อยู่ภายในช่องคลอด เพราะการหลั่งน้ำอสุจิบริเวณนั้นอาจจะไปกระตุ้นปากมดลูกให้เกิดการเปิดขยาย แล้วทำให้เกิดการแท้งบุตรหรือคลอดก่อนกำหนดขึ้นได้ การหลีกเลี่ยงที่ดีอีกแบบก็คือ การที่ฝ่ายชายสวมถุงยางอนามัยไว้ เพื่อที่จะป้องกันการสัมผัสของน้ำอสุจิกับปากมดลูก และการสวมถุงยางอนามัยยังสามารถที่จะป้องกันการติดเชื้อแบคทีเรียภายในช่องคลอดได้ด้วย ทำให้การร่วมรักนั้นสะอาดมากขึ้นและปลอดภัยด้วย”

ท่วงท่ามาตรฐานในการมีเซ็กซ์ในระหว่างการตั้งครรภ์จึงเป็น “ท่าช้อนส้อม” หรือ Spoon and Forkหรือ “ตะแคงร่วมรัก” ถ้านึกไม่ออกว่าจะทำอย่างไรก็ลองหาช้อนส้อมมาวางเรียงเคียงคู่ดู ก็จะเห็นว่าเป็นท่วงท่าที่นอนตะแคงหันหน้าไปในทางเดียวกัน โดยที่ฝ่ายหญิงอยู่ทางด้านหน้า และฝ่ายชายนอนด้านหลังและสอดผ่านอวัยวะเพศของเขาไปทางด้านหลังเข้าสู่ช่องคลอด ท่วงท่านี้มีข้อดีตรงที่ว่าไม่มีการกดทับหน้าท้องฝ่ายหญิง และการล่วงล้ำเข้าช่องคลอดไม่ลึกมาก นอกจากนี้การที่ผู้หญิงสามารถที่จะนอนตะแคงทำให้ไม่เหนื่อย แต่ไม่ควรมีเซ็กซ์ในท่านอนตะแคงเข้าหากัน เพราะอาจจะเกิดการกระทบกระเทือนกันได้โดยไม่ตั้งใจ

ท่ามีเซ็กซ์ในระหว่างตั้งครรภ์ที่ปลอดภัยอีกท่วงท่าได้แก่ ท่าที่เรียกว่า T Position หรือท่าตัว “ที” หรือไม้กางเขนนั่นแหละ ในท่วงท่าการมีเซ็กซ์แบบนี้ ฝ่ายหญิงที่ตั้งครรภ์จะนอนพิงพนักเตียงแล้วชันขาขึ้น แยกขากทั้งสองข้างออกพองามเพื่อการสอดผ่านที่สะดวกและปลอดภัย

ส่วนฝ่ายชายนอนตะแคงขวางเป็นรูปตัว T และสอดผ่านของเขาเข้าออกในมุมที่สามารถสอดสัมผัสได้โดยสะดวก นอกจากเป็นท่าที่ไม่ค่อยจะต้องใช้แรงมากเท่าใดแล้ว ยังให้ความสุขที่แสนจะปลอดภัยในระหว่างการตั้งครรภ์ด้วย

ท่าที่เรียกว่า Woman on Top เป็นท่าที่อันตรายและไม่แนะนำให้ปฏิบัติการในระหว่างที่ฝ่ายหญิงตั้งครรภ์อยู่ไม่ว่าจะนุ่มนวลขนาดไหน เพราะแรงกระแทกจะไปอยู่ที่ปากมดลูกทุกครั้ง ทำให้แท้งง่ายและคลอดก่อนกำหนดได้

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook